กทม. 7 ม.ค. – รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง คาดความเสียหายจากพายุ “ปาบึก” ถล่มภาคใต้ อาจสร้างความเสียหายรวมกว่า 5,000 ล้านบาท รัฐบาลพร้อมเร่งเยียวยาและให้ความช่วยเหลือเต็มที่
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในภาคใต้จากพายุปาบึกว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังเร่งให้ความช่วยเหลือและตรวจสอบความเสียหาย พบประชาชนเดือดร้อนจำนวนมาก และคาดว่าอาจมีมูลค่าความเสียหาย 5,000 ล้านบาท โดยกรอบการฟื้นฟูยังไม่ได้กำหนดชัดเจน แต่กำชับให้เร่งดำเนินการ
ขณะที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยรายงานสถานการณ์ภัยพิบัติจากอิทธิพลของพายุ “ปาบึก” ภาพรวมมี 23 จังหวัด 97 อำเภอ ได้รับผลกระทบ มีประชาชนเดือดร้อนรวมทั้งสิ้น 720,000 คน และมีผู้เสียชีวิต 4 คน ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 20 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 3 จังหวัด คือ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และชุมพร รวม 41 อำเภอ
แยกย่อยรายจังหวัด พบว่า จ.นครศรีธรรมราช เกิดฝนตกหนักและน้ำป่าไหลหลากใน 23 อำเภอ ทำให้ประชาชนเดือดร้อนกว่า 530,000 คน แต่สถานการณ์ปัจจุบันฝนหยุดตกแล้ว ส่วน จ.สุราษฎร์ธานี มีฝนตกหนักและน้ำป่าไหลหลาก 12 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อนประมาณ 23,000 คน และปัจจุบันฝนหยุดตกแล้ว สุดท้ายคือ จ.ชุมพร เกิดฝนตกหนักและน้ำทะเลหนุนสูง 6 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อน 13,000 คน และปัจจุบันพบว่าฝนหยุดตกแล้วเช่นเดียวกัน
ส่วนความเสียหายด้านการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์สรุปว่ามีพื้นที่กระทบ 13 จังหวัด เกษตรกรเดือดร้อน 180,000 คน แบ่งเป็นความเสียหายด้านพืช ทั้งข้าว พืชไร่ และพืชสวน รวมประมาณ 110,000 ไร่ ความเสียหายด้านประมง แบ่งเป็น บ่อปลาเสียหาย 22,000 ไร่ และกระชังปลาเสียหายประมาณ 4,000 ตารางเมตร ส่วนความเสียหายด้านปศุสัตว์พบว่า โค กระบือ สุกร แพะ แกะ และสัตว์ปีก ได้รับผลกระทบรวม 1.7 ล้านตัว ส่วนใหญ่เป็นสัตว์ปีกมากถึง 1.5 ล้านตัว. – สำนักข่าวไทย