“ราเยวัช” ถูกปลดฟ้าผ่า

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 7 ม.ค.- บอลไทย พ่าย อินเดีย “ราเยวัช” โดนเด้ง ตั้ง “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย คุมทีมชั่วคราว ลุ้น 2 นัดที่เหลือ ไทยจะไปต่อหรือไม่ ในศึกเอเชียน คัพ 2019 


กระแสบอลไทยเดือดหลังจากประเดิมสนามฟุตบอลเอเชียน คัพ 2019 ที่แฟนบอลรอคอยมา 12 ปีในรายการนี้ พ่ายอินเดีย ไปขาดลอย 1-4 ทำให้ในสังคมโซเซียลวิพากษ์วิจารณ์การคุมทีมของมิโลวาน ราเยวัช รวมถึงเรียกร้องให้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ลาออกจากตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลด้วย


จนในที่สุดย้อนไปดูเกมหลังจากผลงานทีมชาติไทย อันดับ 118 ของโลก ลงประเดิมสนามนัดแรก พบกับ อินเดีย อันดับ 97 ของโลก ในศึกเอเชียน คัพ 2019 รอบแบ่งกลุ่ม นัดแรก ของกลุ่มเอ ที่สนามอัล นาห์ยาน สเตเดียม ในกรุงอาบูดาบี ประเทศ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งอินเดียได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 จากจุดโทษของ สุนิล เชตรี นาที 26 ก่อนที่ธีรศิลป์ แดงดา จะโหม่งตามตีเสมอ 1-1 นาที 33 ครึ่งหลัง อินเดีย มายิงเพิ่มอีก 3 ประตูจาก สุนิล เชตรี นาที 46 และเป็นประตู 2 เกมนี้ของเชตรี, อนิรุธ ทาปา นาที 68 และเจเจ ลัลเปคลัว นาที 80 จบเกม ทีมไทย แพ้ อินเดีย 1-4 ทำให้อินเดียนำจ่าฝูงของกลุ่ม

ซึ่งย้อนไปดูสถิติในเกมนี้ ทีมไทย มีโอกาสยิง 9 ครั้ง เข้ากรอบ 3 ครั้ง เป็นประตู 1 ลูก ส่วนอินเดีย ยิง 13 ครั้ง เข้ากรอบ 6 ครั้ง เป็นประตู 4 ลูก โดยทีมไทยครองบอลได้มากกว่า 65.2 เปอร์เซ็นต์ อินเดีย ครองบอล 34.8 เปอร์เซ็นต์ 


สรุปตารางคะแนน กลุ่มเอ หลังจากผ่านไปหนึ่งนัด อินเดีย ฟอร์มแรงขึ้นนำเป็นจ่าฝูง มี 3 คะแนน อันดับ 2 บาห์เรน อันดับ 3 ยูเออี มี 1 คะแนนเท่ากัน อันดับ 4 ทีมไทย มี 0 คะแนน

พอจบเกมในสังคมโซเซียล มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในการคุมทีมของมิโลวาน ราเยวัช โดยอยากให้สมาคมกีฬาฟุตบอลปลดราเยวัช รวมถึงให้ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลลาออกด้วย และมีการขุดคำสัมภาษณ์เก่าๆของ “บิ๊กอ๊อด” มาโจมตี 

แต่ไม่ทันที่ราเยวัช ได้กลับไปแก้ไขข้อบกพร่องในเกมต่อไป ในช่วงเช้ามืด “บิ๊กอ๊อด” ได้แถลงการณ์ ว่า “ขอขอบคุณในทุกๆ แรงเชียร์ของพี่น้องแฟนฟุตบอลชาวไทยทุกท่านที่ได้ร่วมส่งกำลังใจเชียร์ทัพช้างศึก นอกจากภาระหน้าที่และการสนับสนุนอย่างเต็มกำลังของสมาคมฯ ในอีกมุมหนึ่ง ผมคือแฟนบอลไทยคนหนึ่ง ที่รู้สึกผิดหวังกับผลการแข่งขันของทีมชาติไทยในเกมนี้ เช่นเดียวกับแฟนฟุตบอลไทยทั้งประเทศ จึงขอประกาศ ยุติสัญญาการทำหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยของมิโลวาน ราเยวัช พร้อมทีมงานสต๊าฟโค้ชบางส่วน และแต่งตั้งให้ “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย คุมทีมชั่วคราว โดยมีโชคทวี พรหมรัตน์ เป็นผู้ช่วยผู้ฝึกสอน ลงทำการแข่งขันฟุตบอลใน เอเชียนคัพ 2019 ในแมตช์ที่เหลือ 

ขณะที่ ราเยวัช ได้ออกมากอดและอำลานักเตะในทีมแล้ว ด้วยสีหน้าที่เศร้าสร้อย และไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ พร้อมกับเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมที่พักแล้ว

สำหรับ ราเยวัช คุมทีมชาติไทยในระยะเวลา 1 ปี 6 เดือน นำทัพช้างศึกลงสนาม 19 เกมรวมทุกรายการ ชนะ 8 นัด เสมอ 4 นัด แพ้ 7 นัด ยิงได้ 33 ประตู เสีย 26 ประตู ซึ่งราเยวัช คุมทีมไทยแทน “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง นัดแรกในเกมกระชับมิตร พบ อุซเบกิสถาน เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ปี 2560 โดยแพ้ 0-2 จากนั้นคุมฟุตบอลโลก 3 นัดที่เหลือ เสมอ ยูเออี 1-1 แพ้ อิรัก 1-2 และแพ้ออสเตรเลีย 1-2 ก่อนที่จะมาแพ้อินเดีย ในเกมล่าสุด 1-4 

ส่วน “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย วัย 49 ปี เคยเป็นอดีตทีมชาติไทย เล่นตำแหน่งกองกลาง และเล่นกับสโมสรโอสถสภา ตั้งแต่ปี 2531 จนแขวนสตั๊ด และทำงานเป็นผู้ช่วยโค้ชทีมโอสถสภา 17 ปี ก่อนจะไปเป็นกุนซือเต็มตัวคุมทีมไทยฮอนด้า ลาดกระบัง ในศึกดิวิชั่น 1 ก่อนจะนำทีมคว้าแชมป์ และได้รับรางวัลโค้ชอาชีพยอดเยี่ยม ของการกีฬาแห่งประเทศไทย และมาเป็นผู้ช่วยราเยวัช และได้เปิดใจว่า “ยอมรับว่าการขึ้นมาทำหน้าที่ครั้งนี้ คงเป็นงานที่หนัก แต่อีกมุมหนึ่ง ผมยังเชื่อว่า ศักยภาพผู้เล่นไทยไม่ด้อยไปกว่าใคร ดังนั้น ถ้าเราร่วมมือกัน สนับสนุนซึ่งกันและกัน ผมเชื่อว่า เราจะมีผลงานที่ดีขึ้น และก็หวังว่า ทั้งผมและโค้ชโชค จะทำให้สถานการณ์ รวมถึงบรรยากาศของทีมดีขึ้น ใน 2 นัดต่อจากนี้”

นอกจากนี้ “โค้ชโต่ย” ยังกล่าวต่อว่า “เท่าที่คุยกับ โค้ชโชค เบื้องต้นสิ่งที่เราจะเปลี่ยนแปลง ก็น่าจะเป็นเรื่องของระบบ, แทคติก และแนวทางการเล่น รวมถึงในเรื่องเกมรับ เพราะจากที่ทีมชุดนี้ เล่นเกมรับกันได้ดี เรากลับมาเสียประตูบ่อยมากในช่วงหลัง ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะ เรื่องของสมาธิ ดังนั้นเราต้องรัดกุมมากขึ้น ที่สำคัญ 2 นัดที่เหลือ เราเป็นรองทั้ง บาห์เรน และ ยูเออี อยู่แล้ว ผมจึงมองว่า เราต้องเล่นแบบถ่อมตัว และหาวิธีการเข้าทำที่หลากหลายขึ้น อย่างน้อยๆ เราต้องมีแต้มให้ได้” 

“โค้ชหรั่ง” ชาญวิทย์ ผลชีวิน อดีตกุนซือทีมชาติไทย คนเดียวที่คุมทีมชาติไทยสู้ศึกเอเชียน คัพ นำทีมไทยเก็บชัยชนะได้ จากการผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้าย 6 ครั้งก่อนหน้านี้ “โค้ชหรั่ง” นำทีมไทยเอาชนะ โอมาน 2-0 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพเมื่อปี 2007 ได้พูดถึงผลงานของทีมไทยว่า สาเหตุที่ทำให้ผลงานของทีมฟุตบอลไทยตกต่ำในครั้งนี้ เกิดจากการที่สมาคมกีฬาฟุตบอลปลดเลขาธิการสมาคม รวมถึงประธานเทคนิค ทำให้ไม่มีใครเข้ามาดูแลรับผิดชอบ  ทีมชุดนี้เก็บตัวกันมานาน แต่ผลงานไม่ได้เข้าเป้า ตามที่นายกสมาคมอยากให้เป็น 

ด้าน “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตกุนซือทีมชาติไทย ออกมาให้กำลังใจนักเตะทีมชาติไทย โดยมีส่งข้อความไปทางไลน์ส่วนตัว พร้อมพูดกรณีที่แฟนบอลเรียกร้องให้กลับมาเป็นหัวหน้าโค้ชทีมชาติไทยอีกครั้ง ซิโก้ ตอบว่า ตนเองอยากจะทำงานช่วยทีมชาติไทย แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา

สำหรับโปรแกรมนัดต่อไปทีมไทย พบกับ บาห์เรน ที่สนาม อัล มัคตูม ในนครดูไบ วันที่ 10 มกราคม และวันที่ 14 จะพบกับ ยูเออี.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

ผู้สมัคร “ภูมิใจไทย” ประกาศชัยชนะ เลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5

28 ก.ย. – “จินณ์ตวรรณ” ผู้สมัครหมายเลข 2 จากพรรคภูมิใจไทย ประกาศชัยชนะ หลังทราบผลคะแนนเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 อย่างไม่เป็นทางการ นำคู่แข่งจากพรรคเพื่อไทย ขอบคุณประชาชนที่ไว้วางใจให้เข้าไปทำหน้าที่ สำหรับผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 19.40 น. หมายเลข 1 ภูริกา สมหมาย พรรคเพื่อไทย ได้คะแนน 24,681 คะแนนหมายเลข 2 จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล พรรคภูมิใจไทย ได้คะแนน 31,653 คะแนน.-สำนักข่าวไทย

เร่งเคลียร์เศษวัสดุในหลุม คืนผิวจราจร 8 ต.ค.

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – แก้ถนนทรุดคืบหน้า จนท.ยุติการเทปูนแล้ว เร่งเคลียร์เศษวัสดุในหลุมออก เพื่อถมทรายผสมปูนอีก 5 เมตร คาดหากไม่มีอุปสรรคเพิ่ม จะคืนผิวจราจรได้อย่างน้อย 2 ช่องทาง 8 ต.ค.นี้.-สำนักข่าวไทย

“สีหศักดิ์” ย้ำจุดยืน ไทยยึดสันติภาพ โต้ถ้อยแถลงกัมพูชา

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – “สีหศักดิ์” ย้ำจุดยืน ไทยยึดสันติภาพ โต้ถ้อยแถลงกัมพูชา มองโอกาสนำไทยสู่จอเรดาร์โลก นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ก่อนการเดินทางกลับจากการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีการพูดถึงถ้อยแถลงในที่ประชุม ประเด็นเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา รวมถึงบทบาทของไทยในเวทีสหประชาชาติ (ยูเอ็น) นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า การเดินทางเข้าร่วมการประชุม UNGA ในครั้งนี้ ต้องการให้ประเทศต่างๆ เห็นว่า การต่างประเทศของไทยกำลังขับเคลื่อนประเทศไทย และไทยจะมีบทบาทสำคัญในเวทีโลก ถึงแม้รัฐบาลชุดนี้จะอยู่แค่ 4 เดือน แต่จะใช้ช่วงเวลานี้ให้มีความหมาย สำหรับประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชา นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า เดิมทีจะใช้ถ้อยแถลงใน UNGA เพื่อบอกว่าไทยอยากเห็นแนวทางในการแก้ไขปัญหานี้ เพราะช่วงที่ผ่านมาก็มีการประชุมที่ประเทศมาเลเซีย ที่มีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิง และการประชุมของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ทำให้เกิดข้อตกลงเรื่องการรักษาข้อตกลงหยุดยิง การเก็บกู้ทุ่นระเบิด การถอนอาวุธหนัก และการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ เป้าหมายของไทยคือ การสร้างความปลอดภัยและนำความสงบมาสู่ชายแดน หากต่างฝ่ายต่างมีความจริงใจและมุ่งมั่นทำให้ข้อตกลงต่างๆ เป็นรูปธรรม ก็คิดว่าไทยจะดำเนินการเป็นขั้นตอนในการปรับความสัมพันธ์ อย่างไรก็ตาม นายปรัก สุคน […]

นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ แต่ขณะเดียวกันก็กดดันความคาดหวังประชาชน ย้ำต้องทำงานหนักตอบแทน ไม่ให้กลายเป็นยาพิษ ยันยึดสันติแก้ชายแดน บอกไทยนี้รักสงบ แต่ถ้ารบก็ลองดู ลั่นที่ผ่านมาเห็นความอัปยศอดสู วันนี้จะไม่มีวันให้เกิดขึ้นกับประเทศไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ความพร้อมในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 29-30 ก.ย.นี้ว่า ร่างนโยบายได้ส่งให้ทุกฝ่ายศึกษาแล้ว พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) ตามรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรีต้องลุกขึ้นอ่านนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาให้ได้รับทราบ ส่วนถามว่ามีความกังวลหรือไม่ด้วยระยะเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด นายอนุทิน กล่าวว่า จริงๆ แล้วเราไม่ได้เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ สำหรับพรรคภูมิใจไทยทำงานต่อเนื่องมากกว่า 6 ปีแล้ว เพิ่งไปพักร้อนช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้น สิ่งที่ยังทำค้างอยู่ในช่วง 2 เดือนที่หยุดไป คงไม่ถึงขั้นที่ต้องทำให้ยกเลิก สิ่งที่เราอยากจะทำอะไรไป เราสามารถสานต่อ และมีนโยบายใหม่ๆ ในฐานะที่เรามาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะสามารถใช้นโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจได้เพิ่มมากขึ้น หลายคนมีความคาดหวังกับรัฐบาลใหม่ และผลโพลหลายสำนัก คะแนนความนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีเพิ่มสูงขึ้น จะสอดคล้องกับนโยบายและเป็นความคาดหวังให้กับประชาชนได้มากน้อยแค่ไหนนั้น […]