“ราเยวัช” ถูกปลดฟ้าผ่า

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 7 ม.ค.- บอลไทย พ่าย อินเดีย “ราเยวัช” โดนเด้ง ตั้ง “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย คุมทีมชั่วคราว ลุ้น 2 นัดที่เหลือ ไทยจะไปต่อหรือไม่ ในศึกเอเชียน คัพ 2019 


กระแสบอลไทยเดือดหลังจากประเดิมสนามฟุตบอลเอเชียน คัพ 2019 ที่แฟนบอลรอคอยมา 12 ปีในรายการนี้ พ่ายอินเดีย ไปขาดลอย 1-4 ทำให้ในสังคมโซเซียลวิพากษ์วิจารณ์การคุมทีมของมิโลวาน ราเยวัช รวมถึงเรียกร้องให้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ลาออกจากตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลด้วย


จนในที่สุดย้อนไปดูเกมหลังจากผลงานทีมชาติไทย อันดับ 118 ของโลก ลงประเดิมสนามนัดแรก พบกับ อินเดีย อันดับ 97 ของโลก ในศึกเอเชียน คัพ 2019 รอบแบ่งกลุ่ม นัดแรก ของกลุ่มเอ ที่สนามอัล นาห์ยาน สเตเดียม ในกรุงอาบูดาบี ประเทศ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งอินเดียได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 จากจุดโทษของ สุนิล เชตรี นาที 26 ก่อนที่ธีรศิลป์ แดงดา จะโหม่งตามตีเสมอ 1-1 นาที 33 ครึ่งหลัง อินเดีย มายิงเพิ่มอีก 3 ประตูจาก สุนิล เชตรี นาที 46 และเป็นประตู 2 เกมนี้ของเชตรี, อนิรุธ ทาปา นาที 68 และเจเจ ลัลเปคลัว นาที 80 จบเกม ทีมไทย แพ้ อินเดีย 1-4 ทำให้อินเดียนำจ่าฝูงของกลุ่ม

ซึ่งย้อนไปดูสถิติในเกมนี้ ทีมไทย มีโอกาสยิง 9 ครั้ง เข้ากรอบ 3 ครั้ง เป็นประตู 1 ลูก ส่วนอินเดีย ยิง 13 ครั้ง เข้ากรอบ 6 ครั้ง เป็นประตู 4 ลูก โดยทีมไทยครองบอลได้มากกว่า 65.2 เปอร์เซ็นต์ อินเดีย ครองบอล 34.8 เปอร์เซ็นต์ 


สรุปตารางคะแนน กลุ่มเอ หลังจากผ่านไปหนึ่งนัด อินเดีย ฟอร์มแรงขึ้นนำเป็นจ่าฝูง มี 3 คะแนน อันดับ 2 บาห์เรน อันดับ 3 ยูเออี มี 1 คะแนนเท่ากัน อันดับ 4 ทีมไทย มี 0 คะแนน

พอจบเกมในสังคมโซเซียล มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในการคุมทีมของมิโลวาน ราเยวัช โดยอยากให้สมาคมกีฬาฟุตบอลปลดราเยวัช รวมถึงให้ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลลาออกด้วย และมีการขุดคำสัมภาษณ์เก่าๆของ “บิ๊กอ๊อด” มาโจมตี 

แต่ไม่ทันที่ราเยวัช ได้กลับไปแก้ไขข้อบกพร่องในเกมต่อไป ในช่วงเช้ามืด “บิ๊กอ๊อด” ได้แถลงการณ์ ว่า “ขอขอบคุณในทุกๆ แรงเชียร์ของพี่น้องแฟนฟุตบอลชาวไทยทุกท่านที่ได้ร่วมส่งกำลังใจเชียร์ทัพช้างศึก นอกจากภาระหน้าที่และการสนับสนุนอย่างเต็มกำลังของสมาคมฯ ในอีกมุมหนึ่ง ผมคือแฟนบอลไทยคนหนึ่ง ที่รู้สึกผิดหวังกับผลการแข่งขันของทีมชาติไทยในเกมนี้ เช่นเดียวกับแฟนฟุตบอลไทยทั้งประเทศ จึงขอประกาศ ยุติสัญญาการทำหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยของมิโลวาน ราเยวัช พร้อมทีมงานสต๊าฟโค้ชบางส่วน และแต่งตั้งให้ “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย คุมทีมชั่วคราว โดยมีโชคทวี พรหมรัตน์ เป็นผู้ช่วยผู้ฝึกสอน ลงทำการแข่งขันฟุตบอลใน เอเชียนคัพ 2019 ในแมตช์ที่เหลือ 

ขณะที่ ราเยวัช ได้ออกมากอดและอำลานักเตะในทีมแล้ว ด้วยสีหน้าที่เศร้าสร้อย และไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ พร้อมกับเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมที่พักแล้ว

สำหรับ ราเยวัช คุมทีมชาติไทยในระยะเวลา 1 ปี 6 เดือน นำทัพช้างศึกลงสนาม 19 เกมรวมทุกรายการ ชนะ 8 นัด เสมอ 4 นัด แพ้ 7 นัด ยิงได้ 33 ประตู เสีย 26 ประตู ซึ่งราเยวัช คุมทีมไทยแทน “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง นัดแรกในเกมกระชับมิตร พบ อุซเบกิสถาน เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ปี 2560 โดยแพ้ 0-2 จากนั้นคุมฟุตบอลโลก 3 นัดที่เหลือ เสมอ ยูเออี 1-1 แพ้ อิรัก 1-2 และแพ้ออสเตรเลีย 1-2 ก่อนที่จะมาแพ้อินเดีย ในเกมล่าสุด 1-4 

ส่วน “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย วัย 49 ปี เคยเป็นอดีตทีมชาติไทย เล่นตำแหน่งกองกลาง และเล่นกับสโมสรโอสถสภา ตั้งแต่ปี 2531 จนแขวนสตั๊ด และทำงานเป็นผู้ช่วยโค้ชทีมโอสถสภา 17 ปี ก่อนจะไปเป็นกุนซือเต็มตัวคุมทีมไทยฮอนด้า ลาดกระบัง ในศึกดิวิชั่น 1 ก่อนจะนำทีมคว้าแชมป์ และได้รับรางวัลโค้ชอาชีพยอดเยี่ยม ของการกีฬาแห่งประเทศไทย และมาเป็นผู้ช่วยราเยวัช และได้เปิดใจว่า “ยอมรับว่าการขึ้นมาทำหน้าที่ครั้งนี้ คงเป็นงานที่หนัก แต่อีกมุมหนึ่ง ผมยังเชื่อว่า ศักยภาพผู้เล่นไทยไม่ด้อยไปกว่าใคร ดังนั้น ถ้าเราร่วมมือกัน สนับสนุนซึ่งกันและกัน ผมเชื่อว่า เราจะมีผลงานที่ดีขึ้น และก็หวังว่า ทั้งผมและโค้ชโชค จะทำให้สถานการณ์ รวมถึงบรรยากาศของทีมดีขึ้น ใน 2 นัดต่อจากนี้”

นอกจากนี้ “โค้ชโต่ย” ยังกล่าวต่อว่า “เท่าที่คุยกับ โค้ชโชค เบื้องต้นสิ่งที่เราจะเปลี่ยนแปลง ก็น่าจะเป็นเรื่องของระบบ, แทคติก และแนวทางการเล่น รวมถึงในเรื่องเกมรับ เพราะจากที่ทีมชุดนี้ เล่นเกมรับกันได้ดี เรากลับมาเสียประตูบ่อยมากในช่วงหลัง ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะ เรื่องของสมาธิ ดังนั้นเราต้องรัดกุมมากขึ้น ที่สำคัญ 2 นัดที่เหลือ เราเป็นรองทั้ง บาห์เรน และ ยูเออี อยู่แล้ว ผมจึงมองว่า เราต้องเล่นแบบถ่อมตัว และหาวิธีการเข้าทำที่หลากหลายขึ้น อย่างน้อยๆ เราต้องมีแต้มให้ได้” 

“โค้ชหรั่ง” ชาญวิทย์ ผลชีวิน อดีตกุนซือทีมชาติไทย คนเดียวที่คุมทีมชาติไทยสู้ศึกเอเชียน คัพ นำทีมไทยเก็บชัยชนะได้ จากการผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้าย 6 ครั้งก่อนหน้านี้ “โค้ชหรั่ง” นำทีมไทยเอาชนะ โอมาน 2-0 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพเมื่อปี 2007 ได้พูดถึงผลงานของทีมไทยว่า สาเหตุที่ทำให้ผลงานของทีมฟุตบอลไทยตกต่ำในครั้งนี้ เกิดจากการที่สมาคมกีฬาฟุตบอลปลดเลขาธิการสมาคม รวมถึงประธานเทคนิค ทำให้ไม่มีใครเข้ามาดูแลรับผิดชอบ  ทีมชุดนี้เก็บตัวกันมานาน แต่ผลงานไม่ได้เข้าเป้า ตามที่นายกสมาคมอยากให้เป็น 

ด้าน “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตกุนซือทีมชาติไทย ออกมาให้กำลังใจนักเตะทีมชาติไทย โดยมีส่งข้อความไปทางไลน์ส่วนตัว พร้อมพูดกรณีที่แฟนบอลเรียกร้องให้กลับมาเป็นหัวหน้าโค้ชทีมชาติไทยอีกครั้ง ซิโก้ ตอบว่า ตนเองอยากจะทำงานช่วยทีมชาติไทย แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา

สำหรับโปรแกรมนัดต่อไปทีมไทย พบกับ บาห์เรน ที่สนาม อัล มัคตูม ในนครดูไบ วันที่ 10 มกราคม และวันที่ 14 จะพบกับ ยูเออี.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“เสธ.เบิร์ด” ชี้เขมรขู่ขยับ “ขีปนาวุธ PHL-03” ถือเป็นภัยคุกคาม

26 ก.ค.- “เสธ.เบิร์ด” ชี้ เขมรขู่ขยับ “ขีปนาวุธ PHL-03” วิถีไกล 130 กม. ถือเป็นภัยคุกคาม มองไทยใช้การทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม จากกรณีกองทัพภาคที่ 2 เตือนเฝ้าระวังกัมพูชายิงขีปนาวุธ PHL-03 วิถีไกล 130 กม. เพื่อพุ่งเป้าหมายพื้นที่ยุทธศาสตร์และที่ตั้งทหารนั้น ล่าสุด พล.ต.วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวว่า การขยับขีปนาวุธ PHL-03 เป็นการขู่ และถือเป็นภัยคุกคาม ดังนั้นถ้าไทยใช้การทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม จากการที่กัมพูชากล่าวหาว่า ไทยใช้ปฏิบัติการทางอากาศเกินกว่าเหตุนั้น เราไม่ทำเกินกว่าเหตุ แต่สิ่งที่เราทำนี้เป็นเหตุผล เพราะฝ่ายกัมพูชา เคลื่อนกำลังจำนวนมากมาประชิดชายแดน ใช้อาวุธยิงระยะไกลทำร้ายประชาชนของไทย ทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน สถานีบริการน้ำมัน ทำให้ประชาชนชาวไทยบาดเจ็บ และเสียชีวิต จากการมีภาพข่าวการเคลื่อนอาวุธยิงระยะไกล ถือว่าเป็นการข่มขู่คุกคามความมั่นคงของไทยอย่างชัดเจน ดังนั้นการปฏิบัติการทางอากาศ เพื่อลดการสูญเสีย สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้การปฏิบัติการทางอากาศของไทยทำลายเป้าหมายทางทหารเท่านั้น และมีความแม่นยำ -สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านลดต่อเนื่อง ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย

น่าน 26 ก.ค.- สถานการณ์น้ำท่วมตัวเมืองน่าน ลดลงต่อเนื่อง ส่วนอีกหลายจุดยังอ่วม ท่วมสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย ย่านการค้าและเศรษฐกิจสำคัญของเมืองน่าน บริเวณถนนสุมณเทวราช ซึ่งเคยน้ำท่วมสูงเกือบถึงคอ แต่ตอนนี้น้ำลดลงเหลือประมาณหน้าขา เท่ากับลดไปราว 1 เมตร แต่บริเวณโดยรอบยังมีน้ำท่วมเต็มพื้นที่ โดยเฉพาะที่ลุ่มต่ำ ยังท่วมสูงกว่า 1 เมตร ทีมข่าวได้เข้าไปสำรวจความเสียหายของโรงแรงแห่งหนึ่งกลางเมืองน่าน ซึ่งสภาพภายในเต็มไปด้วยคราบโคลน รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ที่จอดไว้เสียหายจำนวนมาก ขณะที่เจ้าของร้านค้าย่านนี้ เริ่มสำรวจความเสียหายจากน้ำท่วม อีกจุดหนึ่งที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักคือที่โรงพยาบาลน่านที่ถูกน้ำท่วมสูงเต็มพื้นที่ 40 ไร่ บางจุดท่วมเกือบมิดหัว ตอนนี้น้ำลดแล้ว แต่ตามอาคารต่างๆ น้ำทะลักท่วมยาเวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ได้รับความเสียหาย แต่ผู้ป่วยใน ราว 3 ร้อยคน ยังปลอดภัย คุณหมอ พยาบาลและเจ้าหน้าที่เร่งช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาด เพื่อให้โรงพยาบาลกลับมาเปิดบริการตามปกติให้เร็วที่สุด ช่วงสายที่ผ่านมา นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายใจกลางเขตเศรษฐกิจเมืองน่านด้วย -สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงย้ำเวทีโลกกัมพูชาเปิดฉากโจมตีก่อน UNSC แนะเจรจาสันติวิธี

กระทรวงการต่างประเทศ 26 ก.ค.- “มาริษ” เผยเวที UNSC ให้ไทยกัมพูชายับยั้งชั่งใจ เจรจา 2 ฝ่ายสันติวิธียุติขัดแย้ง ย้ำแจงเวทีโลกแล้วกัมพูชาละเมิดอธิปไตยไทย-เปิดฉากโจมตีก่อน บอกสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ได้เป็นการคุกคามสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ สั่งกรมสนธิฯ พิจารณายื่นศาลอาญาโลกฟ้องเขมรฐานอาชญากรสงคราม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกา เพื่อนำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมเวทีหารือทางการเมืองระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน ประจำปี ค.ศ. 2025 (High-Level Political Forum on Sustainable Development 2025) หรือ HLPF2025 ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์กว่า ในห้วงการประชุมดังกล่าว ตนเองได้ใช้โอกาสนี้ พบหารือกับผู้แทนระดับสูงจากสหประชาชาติ และผู้แทนระดับสูงประเทศต่าง ๆ เพื่อชี้แจงพัฒนาการชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งตนเองได้ยืนยันให้ทุกประเทศ และผู้แทนระดับสูงของสหประชาชาติได้รับทราบมาโดยตลอดการปฏิบัติภารกิจว่า การปะทะกันเมื่อช่วงเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม ฝ่ายกัมพูชา เป็นผู้เริ่มโจมตีก่อน พร้อมแสดงความกังวล ต่อการโจมตีในสถานที่ที่ไม่ใช่เป้าหมายทางทหาร เช่น โรงพยาบาล ปั๊มน้ำมัน และร้านสะดวกซื้อ ซึ่งสะท้อนการโจมตีพื้นที่พลเรือนไทย […]

องคมนตรีมอบสิ่งของพระราชทาน ศูนย์อพยพ จ.ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ 26 ก.ค.- สถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนศรีสะเกษ ดุเดือดกว่าทุกวัน ขณะองคมนตรีมอบสิ่งของพระราชทานแก่ประชาชนที่ศูนย์อพยพ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรีเดินทางมายังที่พักอาศัยของผู้อพยพ จ.ศรีสะเกษ มอบสิ่งของพระราชทานให้กับประชาชน พร้อมแจ้งให้ทราบถึงกระแสความห่วงใย หลังทราบข่าวประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ทรงมีความห่วงใยประชาชนและไม่ประสงค์ที่จะเห็นมีการบาดเจ็บล้มตายเพิ่มอีก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่เรียบร้อย ขอให้ประชาชนอยู่ในพื้นที่อพยพไปอีกสักระยะ ขณะเดียวกัน พยาบาลจากคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนา ให้บริการตรวจดูแลสุขภาพเบื้องต้นและปฏิบัติการทางจิตรฉรีญาพร้อมมอบสิ่งของให้กับผู้อพยพหลังต้องจากบ้านมาวันนี้เป็นวันที่ 3 แล้ว ซึ่งตามหลักบางรายอาจเกิดความเครียดสะสมขึ้นได้ ปกติแล้วบริเวณศูนย์อพยพแห่งนี้ซึ่งห่างจากชายแดนประมาณ 40 กิโลเมตร จะไม่ได้ยินเสียงปืนใหญ่ แต่วันนี้แม้จะอยู่ที่ศูนย์อพยพก็สามารถได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังขึ้น ไม่น้อยกว่า 9 นัดแล้วในขณะนี้ -สำนักข่าวไทย