ทนายษิทรา พาเหยื่อแจ้งจับ”อัจฉริยะ”

กทม.7 ม.ค.- ทนายษิทรา นำผู้เสียหายแจ้งกองปราบเอาผิด”อัจฉริยะ”เปิดข้อมูลทะเบียนราษฎร์ ยันไม่ใช่เรื่องส่วนตัว


นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ นำนายเศรษฐ เดชสุภา ที่ถูกนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ให้รองผู้กำกับการสืบสวน สภ.บางปะอิน  ค้นข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของภรรยานายเศรษฐ เพื่อนำไปเผยแพร่ในสื่อโซเชียล จนได้รับความเสียหาย เข้าแจ้งความกับตำรวจกองปราบปรามเพื่อให้ดำเนินคดีกับนายอัจฉริยะ และตำรวจนายดังกล่าว ในข้อหา ร่วมกันปลอมแปลงเอกสารราชการ และร่วมกันทำพยานหลักฐานเท็จ  


นายษิทรา ระบุว่า เมื่อวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา ภรรยานายเศรษฐเข้าแจ้งความที่ สภ.บางปะอิน ว่าถูกพันตำรวจโทนายหนึ่งคัดทะเบียนราษฎร์ของภรรยาเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน เพื่อนำไปให้นายอัจฉริยะ เผยแพร่ หลังเป็นข่าวคู่กรณีพยายามจะแก้ไขและเขียนแทรกบันทึกประจำวันย้อนหลังให้เหมือนนายอัจฉริยะ แจ้งความให้ตำรวจตรวจสอบเพจ red skull ทำให้มีการค้นหาทะเบียนราษฎร์วันดังกล่าว  โดยมีพันตำรวจโทคนดังกล่าว เป็นผู้ลงบันทึกประจำวัน ทั้งที่ตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุให้ต้องเป็นร้อยเวร และสมุดรายงานประจำวันรับแจ้งเป็นหลักฐานจะต้องเขียน 1 เรื่องต่อ 1 หน้า ห้ามมีการเขียนแทรก การกระทำของตำรวจนายดังกล่าวและนายอัจฉริยะจึงเป็นการพยายามสร้างพยานหลักฐานเท็จและปลอมแปลงเอกสารราชการ  

ด้านนายเศรษฐ ระบุว่า ความขัดแย้งระหว่างตนเและนายอัจฉริยะ เริ่มจากนายอัจฉริยะ มีปัญหากับแอดมินเพจ red skull และเข้าใจผิดว่า ตนเป็นแอดมินเพจ จึงนำข้อมูลของภรรยามาเผยแพร่ ให้ลูกเพจวิพากวิจารณ์ในลักษณะดูหมิ่น และถูกข่มขู่จะทำร้าย ทำให้ตนและครอบครัวได้รับความเดือดร้อน ทั้งที่ตนเป็นเพียงลูกเพจเท่านั้น การกระทำของนายอัจฉริยะที่นำรูป และข้อมูลส่วนตัวของภรรยาไปให้ผู้อื่นวิพากษ์วิจารณ์ เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ  

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนกองกำกับการ 2  กองปราบปราม ได้รับเรื่องไว้ และจะสอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป ส่วนกรณีหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าการออกมาแจ้งความดำเนินคดีกับนายอัจฉริยะ เป็นเรื่องความขัดแย้งส่วนตัวระหว่างนายอัจฉริยะและนายษิทรานั้น นายษิทรา ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้องข้องเพราะเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายต้องได้รับโทษ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง