นนทบุรี 3 ม.ค. – กรมการค้าภายในประเมินทิศทางสินค้าเกษตรยังคงเป็นปีทองของเกษตรกร พร้อมเตรียมแผนทำงานเชิงรุกเข้าไปแก้ไขปัญหาเป็นการล่วงหน้า เบื้องต้นทำแผนดูแลราคาสินค้าเกษตร 7 รายการ ขณะที่สินค้าอุปโภคบริโภค ยืนยันว่าขณะนี้ยังปัจจัยที่จะทำให้ราคาสินค้าปรับเพิ่มขึ้น
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน ประเมินว่าสินค้าเกษตรหลัก ทั้งข้าว มันสำปะหลัง และข้าวโพด ราคายังคงดีต่อเนื่อง ถือเป็นปีที่ดีของเกษตรกร โดยข้าวหอมมะลิยังคงเฉลี่ยตันละ 16,000-17,000 บาท มันสำปะหลังไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 2.50 บาท บางพื้นที่ถึง 3 บาทต่อกิโลกรัม และข้าวโพด ราคาหน้าโรงงานรับซื้อกิโลกรัมละ 9-10 บาท ข้าวโพดฝักราคาเฉลี่ยเกินกิโลกรัมละ 5 บาท แต่ยอมรับว่า ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 2561 สินค้าเกษตรมีปัญหาหลายรายการ ทั้งปาล์มน้ำมัน และมะพร้าว ซึ่งปาล์มน้ำมันกำลังเร่งแก้ไขปัญหา โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) อยู่ระหว่างประกาศเข้ารับซื้อปาล์มน้ำมันในพื้นที่เป้าหมาย 160,000 ตัน คาดว่าจะรู้ผลภายในวันที่ 10 มกราคมนี้ และจะเริ่มระบายสตอกปาล์มน้ำมันได้
สำหรับปีนี้ กรมการค้าภายในจะทำงานเชิงรุกมากขึ้น โดยกำหนดเป้าหมายราคาสินค้าเกษตรที่ดูแล 7 รายการ ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร หรือ คชก. แล้ว หากมีราคาต่ำกว่าราคาเป้าหมาย กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายในจะเข้าไปดูแล ทำให้ราคาสินค้าของเกษตรกรมีเสถียรภาพมากขึ้น ได้แก่ ปาล์มน้ำมัน ไข่ไก่ มะพร้าว หอมแดง หอมใหญ่ กระเทียม และผลไม้ที่ออกตามฤดูกาล ระยะแรกจะดูแลราคาสับปะรดก่อน
ส่วนสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไปนั้น ราคายังคงทรงตัว แม้จะมีปัจจัยจากราคาน้ำมันที่ยังผันผวนบ้าง แต่ถือว่าเป็นเพียงปัจจัยชั่วคราวที่ยังไม่เป็นเหตุผลเพียงพอที่จะทำให้ราคาสินค้าปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีสินค้ารายการใดยื่นขอปรับราคา และหากพบการขึ้นราคาเกินสมควรจะมีการดำเนินทางกฎหมายขั้นเด็ดขาด
นอกจากนี้ กรมการค้าภายในอยู่ระหว่างเฝ้าติดตามและจะมีการสุ่มตรวจเครื่องชั่งขนาดใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ที่มีการรับซื้อพืชผลทางการเกษตรจากเกษตรกรในพื้นที่โดยเกษตรกรมักจะถูกโกงในเรื่องของปริมาณน้ำหนักไม่ตรงตามมาตรฐาน เนื่องจากตรวจพบว่าผู้ประกอบการที่รับซื้อสินค้าเกษตรได้ไปจัดซื้อตัวคัดแปลงตรงชั่งมาจากต่างประเทศ เพื่อจะคัดแปลงเครื่องชั่งกันเอง ดังนั้น ทางกรมฯ กำลังติดตามหากตรวจพบและคัดแปลงเครื่องชั่งขนาดใหญ่จะถือว่ากระทำผิดกฎหมายชั่งตวงวัดโดยทันที เพราะถือเป็นการเอาเปรียบและโกงตรงชั่ง นอกจากนี้ ทางกรมฯ ยังได้มอบหมายให้เจ้าของตลาดสดเป็นผู้ตรวจสอบตราชั่งสปริงในตลาดสดแทนเจ้าหน้าที่กรมการค้าภายใน และทางกรมฯ จะเฝ้าตรวจสอบแบบสุ่มตรวจหากพบตลาดสดใดเครื่องชั่งผิดปกติหรือไม่ได้มาตรฐานที่กรมกำหนดไว้ เจ้าของตลาดสดจะต้องรับผิดชอบ โดยเพิ่มโทษดัดแปลงเครื่องชั่งขนาดใหญ่ คือ จำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 280,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อย่างไรก็ตาม กรมการค้าภายในกำลังอยู่ระหว่างหารือกับสมาคมภัตตาคารไทย เพื่อที่จะดูแลในเรื่องของการคิดค่าบริการ หรือค่า service charge ภายในร้านอาหารและภัตตาคาร เพื่อให้อยู่ระดับที่เหมาะสม เนื่องจากปัจจุบันมีการกำหนดอัตราค่าบริการที่ร้อยละ 10 ซึ่งบางส่วนเห็นว่าเป็นอัตราที่ตายตัวเกินไป อย่างไรก็ตาม การกำหนดราคาสินค้าที่มีการปิดป้ายแสดงราคานั้น จะต้องรวมในเรื่องของภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT ลงไปในราคาสินค้าเพื่อให้ลูกค้าได้รู้ราคาจริง และไม่สามารถเก็บเพิ่มได้
ส่วนกรณีพายุปาบึกนั้น ได้สั่งการและจะส่งเจ้าหน้าที่ส่วนกลางลงไปประสานทีมภาคใต้ เพื่อช่วยกันดูแลเรื่องของสินค้าอุปโภคและบริโภคไม่ให้เกิดการขาดแคลนไปมากนัก แต่ยอมรับว่าตอนนี้หลายพื้นที่ตกใจกักตุนสินค้าไว้ จึงเกิดการขาดแคลนสินค้าบางรายการบ้าง ซึ่งช่วงนี้จะติดตามสถานการณ์ของพายุลูกนี้ก่อนว่าจะยาวนานแค่ไหน หากไม่ได้รุนแรงมากเชื่อว่าทุกอย่างจะเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วและกรมได้ประสานกับทางห้างขนาดใหญ่ที่จะร่วมกันเร่งระบายสินค้าไปยังพื้นที่ต่าง ๆ กันต่อไป .-สำนักข่าวไทย