เงินบาทหลังปีใหม่เคลื่อนไหว32.30-32.70 บาทต่อดอลลาร์ฯ

กรุงเทพฯ 30 ธ.ค.-ธนาคารกสิกรไทย 
ประเมินเงินบาทหลังเทศกาลปีใหม่ เคลื่อนไหวอยู่ที่ 32.30-32.70
บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยตลาด จับตาอยู่ที่ตัวเลขเงินเฟ้อของไทยในเดือนธ.ค. 2561 และสัญญาณนโยบายการเงินของสหรัฐฯ


ผู้สื่อข่าวรายงาน ความเคลื่อนไหว ค่าเงินบาทซึ่งแข็งค่าขึ้นทดสอบแนว
32.40 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงปลายสัปดาห์ท่ามกลางแรงเทขายเงินดอลลาร์ฯ
จากความกังวลเกี่ยวกับภาวะชัตดาวน์หน่วยงานราชการของสหรัฐฯ
แนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และเศรษฐกิจโลก
รวมถึงประเด็นข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน

อย่างไรก็ดี เงินบาทอ่อนค่ากลับมาปิดตลาด สิ้นปี 2561 ที่ 32.55
บาทต่อดอลลาร์ฯ ตามแรงขายเงินหยวนในตลาดออฟชอร์
แต่ยังแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดวันศุกร์ก่อนหน้า  (21 ธ.ค.) ที่ 32.66 บาทต่อดอลลาร์ฯ


โดยสรุปภาพรวมการเคลื่อนไหวของเงินบาทในปี 2561เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ
31.10-33.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในปี 2561
ทั้งนี้เงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นในช่วงต้นปี
โดยได้รับแรงหนุนจากสถานการณ์เงินทุนไหลเข้าตลาดตราสารหนี้
ประกอบกับการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของไทย
ทำให้เงินบาทมีแรงหนุนเพิ่มเติมในฐานะที่เป็นสกุลเงินปลอดภัยท่ามกลางความกังวลต่อความเสี่ยงของประเทศในกลุ่มตลาดเกิดใหม่
อย่างไรก็ดี เงินบาททยอยอ่อนค่าลงในช่วงต่อมา ท่ามกลางปัจจัยหนุนค่าเงินดอลลาร์ฯ
โดยเฉพาะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี เงินบาทลดช่วงติดลบทั้งหมดลงได้ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี
ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ กลับมาถูกกดดันจากสัญญาณชะลอจังหวะการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด
ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ตลอดจนความกังวลต่อภาวะชัตดาวน์ของสหรัฐฯ
และข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน  เงินบาทปิดตลาดสิ้นปี 2561 ที่ 32.55
บาทต่อดอลลาร์ฯ แข็งค่าขึ้นเพียง 0.1% จากระดับปิดตลาดปี 2560 ที่ 32.58
บาทต่อดอลลาร์ฯ

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (2-4 ม.ค. 2562)
ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 32.30-32.70 บาทต่อดอลลาร์ฯ
โดยจุดสนใจของตลาดในประเทศช่วงต้นสัปดาห์
น่าจะอยู่ที่ตัวเลขเงินเฟ้อของไทยในเดือนธ.ค. 2561 ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตาม
ได้แก่ สัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้มนโยบายการเงินของสหรัฐฯ จากถ้อยแถลงของประธานเฟด
สถานการณ์ชัตดาวน์ของสหรัฐฯ และประเด็นเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ
และจีน ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญในระหว่างสัปดาห์ ประกอบด้วย ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร
ดัชนี
PMI ภาคการผลิตและภาคบริการ
ข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนเดือนธ.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์.-สำนักข่าวไทย


 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย ขณะที่ ผบ.ตร. อาลัยตำรวจกล้า สั่งต้นสังกัดดูแลสิทธิประโยชน์ เลื่อนเงินเดือนและชั้นยศ

นักโทษกลับใจ

อดีตนักโทษกลับใจ หลังติดคุก 30 ปี โทรคุยกับพ่อทั้งน้ำตา

อดีตนักโทษชีวิตโตมาในคุก ตั้งแต่อายุ 19 จนตอนนี้ อายุ 49 ปี ร่ำไห้กับตำรวจ ขอให้ช่วยพากลับบ้านที่จากมา 30 ปี ตำรวจโทรศัพท์หาพ่อ ให้ 2 พ่อลูกคุยกันทั้งน้ำตา

ตำรวจจีนพาผู้ต้องสงสัยฉ้อโกง 200 ราย กลับจากเมียนมา

พลเมืองจีน 200 รายที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ถูกส่งตัวจากเมืองเมียวดีในเมียนมากลับจีนแล้วเมื่อวานนี้ ภายใต้การคุ้มกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจจีน

เด็ก 12 สูบบุหรี่ไฟฟ้า-ดื่มน้ำกระท่อม ทำปอดหาย

ย่าช็อก หลานวัย 12 ปี อาการวิกฤติ ปอดหายเกือบทั้งหมด ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หลังสูบบุหรี่ไฟฟ้าและดื่มน้ำกระท่อมตั้งแต่ ป.4

ข่าวแนะนำ

บ่อนดังย่านดอนเมืองปิดเงียบ ขึ้นป้ายห้ามเข้าออก

บ่อนดังย่านดอนเมืองปิดเงียบ ขึ้นป้ายพื้นที่ส่วนบุคคลห้ามเข้าออก พบปิดกิจการตั้งแต่ 16 มี.ค.63 ขณะที่มีกล้องวงจรปิดติดตั้งโดยรอบ

ฮั้วเลือก สว.67

ประธานวุฒิสภา นำทีมแถลงด่วน โต้คดีฮั้วเลือก สว.67

ประธานวุฒิสภา นำทีมแถลงด่วน โต้คดีฮั้วเลือก สว.67 เชื่อเป็นเกมการเมือง หวังเกิดวิกฤต รธน. เพื่อรื้อใหม่ทั้งฉบับ ขู่ใช้ช่องทางกฎหมายกลับ หากทำเสียหาย-บั่นทอนความเชื่อมั่น เพื่อปกป้องศักดิ์ศรี จวก “ทวี” กล่าวหาอั้งยี่ ซ่องโจรทำวุฒิเสื่อมเสีย พร้อมเปิดเวทีซักฟอก

ไทยเข้าฤดูร้อน

กรมอุตุฯ ประกาศเข้าสู่ฤดูร้อนของไทย 28 ก.พ.68

กรมอุตุนิยมวิทยา เตือน 23-25 กุมภาพันธ์นี้ ไทยตอนบนอากาศแปรปรวน ภาคใต้ฝนตกหนัก ส่วนอ่าวไทยตอนล่างคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร พร้อมประกาศประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการ 28 ก.พ.68 จนถึงกลางเดือน พ.ค.

“ไทย จีน เมียนมา” จับมือโชว์ภารกิจราบรื่น ส่งชาวจีนกลับประเทศ

“ไทย จีน เมียนมา” จับมือโชว์แสดงผลภารกิจราบรื่น ส่งชาวจีนเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับประเทศ 200 คน ปรับแผนจีนส่งเครื่องบินรับอีก 400 คน สองวันติด “ภูมิธรรม” เผยพร้อมเสนอนายกฯ เซ็นตั้ง ศปช.ส่วนหน้า ทำงานให้ชัดเจน มีกฎหมายรองรับผู้ปฏิบัติ ย้ำไทยไม่ตั้งศูนย์อพยพรองรับเหยื่อที่เหลือ แต่ประสานให้ต้นทางรับกลับทันที