แรงงาน 19 สาขาเฮ!! ราชกิจจาประกาศขึ้นค่าแรง เริ่ม 1 ม.ค.62

สำนักข่าวไทย 27 ธ.ค.–แรงงาน 19 สาขาเฮ! ราชกิจจาประกาศขึ้นค่าแรง เริ่ม 1 ม.ค.62 ด้าน ปธ.สมานฉันท์แรงงานไทย ห่วงแรงงานไม่ได้เงินตามที่ระบุ เพราะไม่มีคำสั่งชัดเจนที่ระบุต้องให้นายจ้างทำตาม


เมื่อวันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง เรื่องอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ โดยปรับปรุงอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือในกลุ่มสาขาอาชีพช่างเครื่องกล กลุ่มสาขาอาชีพอุตสาหกรรมศิลป์ กลุ่มอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ และกลุ่มอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ รวม 19 อาชีพ ให้เหมาะสมกับสถานการณ์และสภาพข้อเท็จจริงในปัจจุบัน 


ทั้งนี้คณะกรรมการค่าจ้างชุดที่20 มีมติในวันที่17ตุลาคม 2561ให้ปรับปรุงอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือดังกล่าว 19 อาชีพ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 เป็นต้นไป ได้แก่


1.สาขาอาชีพช่างสีรถยนต์ ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 440 บาท ระดับ 2 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 550 บาท และระดับ 3 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 585 บาท

2. สาขาอาชีพช่างเคาะตัวถังรถยนต์ ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 465 บาท ระดับ 2 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 560 บาท และระดับ 3 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 650 บาท

3.สาขาอาชีพช่างซ่อมรถยนต์ ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 400 บาท ระดับ 2 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 490 บาท และระดับ 3 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 585 บาท

4.สาขาอาชีพช่างเย็บ ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 345 บาท ระดับ 2 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 410 บาท และระดับ 3 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 550 บาท

5.สาขาอาชีพช่างเครื่องประดับ (ประดับอัญมณี) ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 440 บาท ระดับ 2 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 605 บาท และระดับ 3 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 825 บาท

6. สาขาอาชีพช่างเครื่องเรือนไม้ ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 370 บาท ระดับ 2 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 425 บาท และระดับ 3 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 480 บาท

7. สาขาอาชีพช่างบุครุภัณฑ์ ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 355 บาท ระดับ 2 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 410 บาท และระดับ 3 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 465 บาท

8. สาขาอาชีพช่างสีเครื่องเรือน ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 385 บาท และระดับ 2 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 495 บาท

9. สาขาอาชีพช่างบำรุงรักษารถยนต์ ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 375 บาท และระดับ 2 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 440 บาท

10. สาขาอาชีพช่างซ่อมเครื่องยนต์ดีเซล ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 400 บาท ระดับ 2 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 490 บาท และระดับ 3 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 585 บาท

11. สาขาอาชีพช่างเครื่องปรับอากาศรถยนต์ขนาดเล็ก ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 400 บาท ระดับ 2 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 490 บาท และระดับ 3 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 585 บาท

12. สาขาอาชีพนักบริหารการขนส่งสินค้าทางถนน ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 460 บาท และระดับ 2 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 550 บาท

13. สาขาอาชีพผู้ควบคุมรถยกสินค้าขนาดไม่เกิน 10 ตัน ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 400 บาท และระดับ 2 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 475 บาท

14. สาขาอาชีพผู้ควบคุมสินค้าคงคลัง ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 385 บาท และระดับ 2 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 465 บาท

15. สาขาอาชีพผู้ปฏิบัติการคลังสินค้า ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 375 บาท และระดับ 2 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 455 บาท

16. สาขาอาชีพพนักงานเตรียมวัตถุดิบสำหรับอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ไม้จริง ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 350 บาท และระดับ 2 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 380 บาท

17. สาขาอาชีพพนักงานผลิตชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์ไม้จริงด้วยเครื่องจักรอัตโนมัติ ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 395 บาท และระดับ 2 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 455 บาท

18. สาขาอาชีพพนักงานประกอบเฟอร์นิเจอร์ไม้จริง ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 365 บาท และระดับ 2 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 450 บาท

19. สาขาอาชีพช่างทำสีเฟอร์นิเจอร์ไม้จริง ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 375 บาท และระดับ 2 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละ 415 บาท

ประกาศ ณ วันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 นายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน ปะธานกรรมการค่าจ้าง

ในประเด็นนี้นายชาลี ลอยสูง ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย ให้ความเห็นว่า เรื่องนี้เป็นผลมาจากการที่ตนและเครือข่ายแรงงานได้เรียกกร้องให้ขึ้นค่าแรง 300 บาทให้เท่ากันทั่วประเทศ โดยที่ต้องต่อสู้กันมานานจนนำมาสู่การปรับค่าจ้างแรงงานในแต่ละสาขาอาชีพให้เป็นไปตามมาตรฐานฝีมือในแต่ละสายงาน หลังมีการประกาศออกมาส่วนเห็นด้วยในหลักการ เป็นเรื่องดีที่แรงงานมีฝีมือมากประสบการณ์ควรได้รับค่าจ้างที่สมน้ำสมเนื้อกับเนื้องานที่ทำ 

แต่ปัญหาที่น่ากังวลคือในประกาศที่ออกมาไม่ได้มีข้อใดระบุให้บรรดานายจ้าง ห้างร้านปฎิบัติตามคำสั่งประกาศ เลยแม้แต่ข้อเดียว โดยผู้ที่จะได้เงินขั้นต่ำตามที่ระบุจะต้องผ่านเกณฑ์การอบรมที่กระทรวงแรงงานกำหนดจึงจะได้เงินตามที่ระบุ หากนายจ้าง หรือห้างร้าน ส่งแรงงานที่มีไปอบรมก็ไม่มีปัญหา แต่หากตรงข้ามลูกจ้างไปอบรมเองเพื่อหวังผ่านเกณฑ์และได้เงินเพิ่ม นายจ้างก็อาจใช้ข้ออ้างตรงนี้ เลือกที่จะไม่จ่ายเงินเพิ่มได้

“เรื่องนี้หลักการดีเห็นด้วยแต่การที่ออกประกาศโดยไม่มีตัวไหนกำหนดให้นายจ้างต้องทำตาม ยิ่งในยุคที่เศรษฐกิจเป็นแบบนี้ นายจ้างก็อาจจะเลือกจ้างคนที่มีฝีมือใกล้เคียงมาทำงาน  โดยที่จ่ายเงินเท่าเดิม เพราะใครๆก็อยากได้งานทำในช่วงเวลาแบบนี้ โดยที่ไม่เลือกมาก เปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายๆ จากที่เคยจ้างคนจบปริญญญาตรี นายจ้างต้องจ่ายเงินเดือนละ 15,000 บาทแต่มีคนจบในสาขาใกล้เคียงกัน ฝีมือต่างกัน แต่จบแค่ ปวส.เงินเดือนแค่12,000 นายจ้างก็เลือกที่จะจ้างลักษณะเช่นนี้แทน จึงไม่แน่ใจว่าที่ประกาศออกมาในช่วงนี้จะเป็นการหาเสียงหรือไม่” นายชาลี กล่าว. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ.จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ 4 ทหารหาญ พร้อมปูนบำเหน็จ

กทม. 30 ก.ค.-กองทัพบกสดุดีทหารกล้า จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ 4 ทหารหาญ พร้อมปูนบำเหน็จ ขอพระราชทานยศทหารเลื่อนขั้นอย่างสมเกียรติ วันที่ 30 ก.ค. 68 กองทัพบกร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมและส่วนราชราชการพื้นที่ จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพทหารกล้าที่สละชีพเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ จากเหตุการณ์พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยใน พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้มอบให้คณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพบก ร่วมเป็นเกียรติในพิธีพระราชทานเพลิงศพของทหารหาญ จำนวน 4 นาย ดังนี้ 1.ส.อ.จิรายุ สิงห์อ้น ตำแหน่งพลลาดตระเวน กองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 6 (ร้อย ลว.ไกล 6) กองพลทหารราบที่ 6 ซึ่งเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ (25 ก.ค.68) ณ วัดตลาดราชมงคล อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด โดยมี พล.อ. ณัฐวุฒิ นาคะนคร รองผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในพิธีพระราชเพลิงศพ โดยกองทัพบกได้ดำเนินการปูนบำเหน็จพิเศษ 7 ขั้น ขอพระราชทานยศทหารเป็นร้อยโท […]

ทบ.ยันไทยมีแผนพานานาชาติดูจุดเขมรถล่มเหมือนกัน

กทม. 30 ก.ค.-กองทัพบก ยันไทยมีแผนพานานาชาติดูจุดเขมรถล่มเหมือนกัน ประชาคมโลกต้องเห็นความเสียหาย ทั้งบ้านเรือน-โรงเรียน-โรงพยาบาล เร็วๆ นี้ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีฝ่ายกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ เข้าดูพื้นที่บริเวณจุดปะทะ บริเวณช่องอานม้า จ.อุบลราชธานีว่า จุดที่ฝ่ายกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศลงไปดูพื้นที่ปฏิบัติการทางทหาร บริเวณจุดที่เคยมีการปะทะกันนั้น เป็นบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี จึงเห็นมีภาพปรากฏถึงความเสียหายที่เกิดจากการใช้อาวุธจากทั้งสองฝ่าย ซึ่งคงเป็นเรื่องปกติ เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ในบริบทของพื้นที่ทางยุทธการ และบริเวณนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายทางทหาร สำหรับฝ่ายไทยมีแผนจะจัดกิจกรรมในลักษณะดังกล่าวเช่นกัน โดยฝ่ายไทยจะไม่เน้นการสร้างภาพลวงแบบฉาบฉวย แต่จะเน้นสื่อสารเชิงคุณภาพ สิ่งที่จำเป็นจะต้องสื่อถึงประชาคมโลกคือ ความเสียหายต่อบ้านเรือน โรงเรียน โรงพยาบาล ที่ฝ่ายทหารกัมพูชาจงใจพุ่งเป้าโจมตีไปยังเป้าหมายเหล่านั้น จนมีพลเรือน ประชาชน เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งที่พื้นที่ดังกล่าวอยู่ลึกไกลเข้ามาภายในประเทศไทย และห่างจากพื้นที่สู้รบเข้ามาในไทยไกลมากถึง 10-30 กิโลเมตร พล.ต.วินธัย กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดอธิปไตยของไทย รวมถึงขัดต่อหลักปฏิบัติทางทหารตามกฎหมายสากล และหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการเจตนาละเมิดอนุสัญญาระหว่างประเทศหลายฉบับ ที่ห้ามการโจมตีพื้นที่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรบ กองทัพบกไทยขอยืนยันอีกครั้งว่า เราปฏิบัติการเฉพาะต่อเป้าหมายทางทหารเป็นหลักเท่านั้น และยึดมั่นในกติกาสากล โดยขอย้ำว่า ฝ่ายไทยไม่ได้รุกรานใคร แต่เรามีสิทธิชอบธรรมในการปกป้องประชาชนและผืนแผ่นดินของเรา.-313.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพโรงพยาบาลไทยเสียหายหนัก หลังถูกกัมพูชาโจมตีด้วยอาวุธหนัก

ทำเนียบ 30 ก.ค.-โฆษกรัฐบาล เปิดภาพโรงพยาบาลไทยเสียหายหนัก หลังถูกกัมพูชาโจมตีด้วยอาวุธหนัก พร้อมประณามกัมพูชาละเมิดมนุษยธรรมร้ายแรง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ประณามการกระทำของรัฐบาลและกองทัพกัมพูชาอย่างรุนแรง กรณีการใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายที่เป็นสถานพยาบาลของไทยในหลายพื้นที่ ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักมนุษยธรรมขั้นพื้นฐานและเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดเจน พร้อมกันนี้นายจิรายุ ยังเปิดภาพโรงพยาบาลบางส่วนที่ได้รับความเสียหาย ได้แก่ โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) คำโปรย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โคก, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ซำเม็ง “ประเทศไทยขอเรียกร้องให้ประชาคมโลกจับตามองและประณามการกระทำดังกล่าว ซึ่งต่างจากประเทศไทยที่ยึดมั่นในหลักมนุษยธรรมอย่างเคร่งครัด โดยปฏิบัติการเฉพาะต่อเป้าหมายทางทหารเท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียแก่พลเรือ” โฆษกรัฐบาล ระบุ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า ข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงสาธารณสุข ณ วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00 น. พบว่า จากการโจมตีโดยไม่เลือกเป้าหมายของกัมพูชา ได้ส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิตแล้ว 15 ราย ในพื้นที่จ.อุบลราชธานี และศรีสะเกษ บาดเจ็บสาหัส 12 […]

เหตุพลุระเบิด เสียชีวิตเพิ่มเป็น 10 คน

สุพรรณบุรี 30 ก.ค. – เหตุพลุระเบิด จ.สุพรรณบุรี พบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย ที่โรงพยาบาล รวมเสียชีวิต 10 ราย บาดเจ็บ 1 ราย สั่งการตั้งศูนย์ ศปก. ที่วัดโพธิ์ท่าทราย ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย คืบหน้าเหตุพลุระเบิดที่จังหวัดสุพรรณบุรี ล่าสุด พล.ต.ต.วัชรินทร์ ประสพดี ผู้บังคับการภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้มียอดผู้เสียชีวิต จำนวน 10 ราย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 9 ราย และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย ขณะนี้ได้สั่งการตั้งศูนย์ ศปก. ที่วัดโพธิ์ท่าทราย ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงประสานชุด EOD เข้าเก็บกู้ดินปืน เนื่องจากตรวจสอบพบหลุมขนาดใหญ่สีดำจำนวน 2 หลุม และดินปืนจำนวนหนึ่ง อีกทั้งยังพบร่างผู้เสียชีวิต ชิ้นส่วนจำนวนหนึ่งบริเวณที่เกิดเหตุ ส่วนข้อมูลการตรวจสอบ พบว่าบ้านหลังนี้มีการลักลอบผลิตพลุไล่นก.-สำนักข่าวไทย