ปชป.เปิดชื่อผู้สมัคร ส.ส. กทม.-ภาคกลาง

พรรคประชาธิปัตย์ 27 ธ.ค.- ปชป.เปิดชื่อผู้สมัคร ส.ส. กทม.-ภาคกลาง ครบทุกเขตแล้ว เหลือ พิจิตร ชุมพร เขต 1 และอีสาน 6 เขต เคาะอีกครั้ง 5 ม.ค. อดีต ส.ส. “เจือ”ต้องขยับขึ้น ปาร์ตี้ลิสต์


นายธนา ชีรวินิจ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงผลการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ที่ประชุมเมื่อวานนี้ (26 ธ.ค.) ที่ผ่านมาว่า ที่ประชุมได้อนุมัติรายชื่อผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในเขตกรุงเทพมหานคร 30 เขต และ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในภาคกลาง 26 จังหวัด 92 เขต เสร็จเรียบร้อยแล้ว  แต่ยังมีจังหวัดที่พิจารณาไม่จบ ได้แก่จังหวัดชุมพร เขต 1 เนื่องจากนายชุมพล จุลใส ซึ่งทางพรรคเห็นว่ายังมีความไม่ชัดเจนทางการเมืองในพื้นที่ ทำให้ประชาชนในพื้นที่เกิดความสับสนจึงต้องการให้นายชุมพลทำให้เกิดความชัดเจนก่อน

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์  กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ภาคใต้ที่มีปัญหาในเขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดสงขลา ระหว่างนายเจือ ราชสีห์ กับ นายสรรเพชญ บุญญามณี ซึ่งกรรมการบริหารพรรคมีมติให้นายสรรเพชญ เป็นผู้ลงสมัคร ซึ่งปัญหานี้ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคใช้เวลานานในการพิจารณา เนื่องจากผู้สมัครทั้ง 2 คนเป็นผู้ที่มีศักยภาพในการทำงานให้กับพรรค ซึ่งท้ายที่สุดทางกรรมการบริหารพรรคพิจารณาแล้วว่า การที่ทั้งคู่มีคุณสมบัติ ดังนั้นการจัดสรรผู้ลงสมัครทั้ง ส.ส.เขตและบัญชีรายชื่อจะต้องทำให้พรรคได้ประโยชน์สูงสุด 


นายธนา กล่าวว่า เนื่องจากนายเจือเป็นอดีต ส.ส.หลายสมัย ซึ่งได้ทำงานให้กับพรรคมาอย่างมากมาย การให้นายเจือขึ้นระบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งทำให้นายเจือจะสามารถทำงานให้กับพรรคในภาพรวมได้มากขึ้น ยืนยันว่า นายเจือจะขึ้นบัญชีรายชื่อในลำดับที่ได้เป็น ส.ส. เพราะถือว่านายเจือได้ทำงานให้กับพรรคมาเป็นเวลานาน แต่เพื่อให้การ ดำเนินยุทธศาสตร์การเลือกตั้งทางภาคใต้มีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งจังหวัดสงขลาถือว่าเป็นเมืองหลวงเมืองหนึ่งของพรรคประชาธิปัตย์  การที่จะได้นายสรรเพชญมาช่วยงานในเขตจะทำให้กำลังในการทำงานรับใช้ประชาชนในจังหวัดสงขลามีประสิทธิภาพมากขึ้น  อย่างไรก็ตาม คิดว่านายเจือไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะนายเจือมีความเป็นนักการเมืองอาชีพ ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้วเป็นประโยชน์ต่อพรรค และนายเจือจะยังมีสถานะที่จะได้เป็น ส.ส. ก็ไม่น่าจะมีปัญหา

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ส่วนจังหวัดที่ยังมีปัญหาคือ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 6 เขต จังหวัดอุดรธานี ในเขต 2, 5 ,6  จังหวัดยโสธรทั้งจังหวัด จังหวัดเลย เขต 2  จังหวัดพิจิตร ทั้ง 3 เขต เนื่องจากการเลือกตั้งครั้งนี้มีการแบ่งเขตใหม่ และเป็นเขตที่มีการต่อสู้ที่ต้องยอมรับว่ารุนแรง ซึ่งที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคได้พิจารณาเหตุผลสำคัญ ถึงการส่งผู้สมัครว่าพรรคจะต้องได้รับประโยชน์สูงสุด และจะต้องได้รับคะแนนนิยมสูงสุดและสามารถสร้างกระแสให้พรรคประชาธิปัตย์ได้รับชัยชนะในทุกเขตเลือกตั้ง 

นายธนา กล่าวว่า ในที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคได้พูดคุยกันในหลายสูตรทางการเมืองและหลายประเด็น แต่ท้ายที่สุดยังไม่ได้ข้อสรุป จึงให้ผู้ที่รับผิดชอบคือนายนราพัฒน์ แก้วทอง รองเลขาธิการพรรค ซึ่งดูแลพื้นที่จังหวัดพิจิตร ไปแก้ปัญหาทั้ง 3 เขตของจังหวัดพิจิตรกับหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากขณะนี้การแบ่งเขตเลือกตั้งมีความซับซ้อน ซึ่งอาจมี ส.ส. เขตบางคนต้องขึ้นบัญชีรายชื่อ ทางกรรมการบริหารพรรคจึงได้ขยายเวลาในการสรรหาในส่วนของ ส.ส. บัญชีรายชื่อและระบบเขต ไปจนถึงในวันที่ 4 มกราคม 2562 เพื่อที่ กรรมการบริหารพรรคจะได้พิจารณาอนุมัติอีกครั้งในวันที่ 5 มกราคม 2562 


ด้านนายธัญญ์นิธิ ชวรัตน์นิธิโชติ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในเขตกรุงเทพมหานคร ผู้สมัครส่วนใหญ่เป็นอดีต ส.ส.ในพื้นที่เดิมเป็นส่วนใหญ่ และมีผู้สมัครหน้าใหม่และผู้สมัครจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ของพรรคในนาม นิวเดม อาทิ เขตเลือกตั้งที่ 7 เขตบางซื่อ เขตดุสิต (เฉพาะแขวงถนนนครไชยศรี) ส่งนายคณวัฒน์ จันทรลาวัณย์ หรือ หมอเอ้ก เขตเลือกตั้งที่13 เขตบางกะปิ เขตวังทองหลาง (เฉพาะแขวงพลับพลา) ส่ง นายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือไอติม จากกลุ่มนิวเดม เขตเลือกตังที่ 14 เขตบึงกุ่ม เขตคันนายาว (เฉพาะแขวงรามอินทรา ) ส่งนายพรพรหม ณ สงขลา วิกิตเศรษฐ์  

รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีเขตที่น่าสนใจ อาทิ เขตเลือกตั้งที่ 9 เขตหลักสี่ เขตจตุจักร (ยกเว้นแขวงจตุจักรและแขวงจอมพล) ส่ง พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ หรือผู้การแต้ม อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เขตเลือกตั้งที่10 เขตดอนเมือง ส่งนายธัญญ์นิธิ ชวรัตน์นิธิโชติ รองโฆษกพรรค หรือที่ในวงการเซียนพระรู้จักกันในชื่อ เชง สุพรรณ  

นายธัญญ์นิธิ กล่าวว่า ส่วนตระกูลม่วงศิริ ได้ลงถึง 3 เขต ประกอบด้วย เขตเลือกตั้งที่ 24 เขตราษฎร์บูรณะ เขตทุ่งครู ส่งนายสาทร ม่วงศิริ เขตเลือกตั้งที่ 25 เขตบางขุนเทียน ส่งนายสากล ม่วงศิริ เขตเลือกตั้งที่ 26 เขตบางบอน เขตหนองแขม (เฉพาะแขวงหนองแขม) ส่ง พ.ต.อ.นายแพทย์สามารถ ม่วงศิริ 

ด้านนายเชาว์ มีขวด รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ผู้สมัคร ส.ส.ภาคกลาง 26 จังหวัด  92 เขตเลือกตั้งมีรายชื่อบุคคลที่น่าสนใจ อาทิ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ลงสมัคร ส.ส.สมุทรสาคร เขต 2 นายอมร อมรรัตนานนท์ อดีตโฆษกเวทีเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ลงสมัคร ส.ส.สระบุรี เขต 2  นายวัชระ ปิ่นเจริญ กรรมการผู้จัดการบริษัท วัชราดล จำกัดและนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ จังหวัดฉะเชิงเทรา เขต 1 พล.ท.ทำนุ โพธิ์งาม อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองบัญชาการกองทัพไทย ลงสมัคร ส.ส.กาญจนบุรี เขต 4  

พ.ท.สินธพ แก้วพิจิตร อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา มาลงสมัคร ส.ส.นครปฐม เขต 1  นายชวินชยาทิต ภาณุหสตังไทรแก้ว อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) นิลเพชร และเป็นหนึ่งในทีมท่อสูบน้ำซิ่งซึ่งไปช่วยเยาวชนทีมหมูป่า 13 คนออกจากถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ลงสมัคร ส.ส.นครปฐม เขต 3  นายจงรวย สมจิตรนา หรือหยอง ลูกหยี ศิลปินตลกชื่อดัง และนายกสมาคมศิลปินตลก (ประเทศไทย) ลงสมัคร ส.ส.ลพบุรี เขต 4 .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยืนยัน ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ เตรียมยื่นเรื่องไปที่ “ยูเอ็น”

19 ก.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันผลตรวจสอบทุ่นระเบิดบริเวณเนิน 481 เป็นของใหม่ พบในเขตประเทศไทย คาดยังมีอีกกว่าร้อยลูกในพื้นที่ วันนี้ ที่กองบัญชาการกองกำลังสุรนารี เมื่อเวลา 15.30 น. พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 นำแถลงผลการตรวจสอบทุ่นระเบิด บริเวณเนิน 481 จ.อุบลราชธานี โดย พันเอกสมโชค จันทาสี ผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 ระบุว่า ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจำนวน 7 นาย โดยจุดแรกที่เจอได้มีการวางจำนวน 3 ทุ่น ลักษณะการวางผิวดิน รัศมีห่างกัน 40 เซนซิเมตร มีใบไม้ปกคลุม ส่วนจุดที่ 2 เจอจำนวน 5 ทุ่น รัศมีการวางกระจัดกระจาย รวมที่พบทั้งหมดจำนวน 8 ลูก ซึ่งจากการกู้ระเบิดทั้ง 8 ลูก ทุ่นระเบิดมีความใหม่ ตัวอักษรชัดเจน เพราะถ้าเป็นของเก่าจะมีวัชพืชปกคลุม […]

“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน”

วัดบ้านไร่ 19 ก.ค.-“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน” หวั่นโดนอัดเทปซ้ำรอย ชี้หากพิสูจน์ได้ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิดใหม่ต้องประท้วงตามกติกา ซัดหากเล่นนอกบทต้องดำเนินการ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ทหารพรานถูกเหยียบทุ่นระเบิด ที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ที่มีกระแสข่าวว่ากว่า 80% จากการตรวจสอบเป็นระเบิดใหม่ว่า ทั้งสองฝ่ายต้องพูดคุยกัน ถ้าไม่คุยกันอยู่อย่างนี้ไม่เป็นผลดี และขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ว่าเป็นระเบิดใหม่หรือเก่า ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า แต่ล่าสุดกระแสข่าวจากภาคสองยืนยันว่ากว่า 80% เป็นระเบิดใหม่ นายทักษิณ กล่าวว่าก็ต้องว่ากันไป ก็ต้องประท้วงตามกติกา และประท้วงเสร็จก็ต้องมาคุยกันทั้งสองฝ่าย ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า ฝั่งกัมพูชามักเล่นนอกเกมบ่อยๆ เราต้องรับมืออย่างไร นายทักษิณ ระบุว่าก็ว่ากันไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น ถ้าเขาทำอะไรที่นอกกติกา เราก็ต้องดำเนินการ เมื่อถามว่าถ้าพิสูจน์ได้แล้วเป็นเรื่องจริง จะร้ององค์กรโลกหรือไม่ เนื่องจากมีสนธิสัญญาออตตาวา ว่าด้วยเรื่องทุ่นระเบิด นายทักษิณ ระบุว่าที่จริงแล้ว เรามีสนธิสัญญาหลายฉบับ แต่ไม่ได้หยิบขึ้นมาใช้ เมื่อถามย้ำว่าหลังจากนี้จะไม่เจรจาโดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวแล้วใช่หรือไม่ นายทักษิณ ยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นว่าไม่มีอีกแล้ว เพราะกลัวโดนอัดเทปเหมือนกัน.-313.-สำนักข่าวไทย

ศบ.ทก. เรียกถกด่วนพรุ่งนี้ นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น

กทม. 19 ก.ค.-ศบ.ทก.เรียกถกด่วน 20 ก.ค. หารือ กต. นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา พร้อมส่งทหารช่าง ปูพรมเก็บกู้วัตถุระเบิดช่องบก พื้นที่อธิปไตยไทย 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เตรียมนัด ศบ.ทก.ประชุมในวันที่ 20 ก.ค.นี้ เวลา14.00 น. กำหนดแนวทางการดำเนินการ กรณีกำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบกและประสบเหตุเหยียบกับระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ซึ่งจากหลักฐานพลว่าเป็นการวางกับระเบิดใหม่นั้น เบื้องต้น พล.อ.ณัฐพล ได้สั่งการกองทัพภาคที่2 เก็บข้อมูลหลักฐานทั้งหมด พร้อมให้แถลงข่าว และรายงานผลเป็นลายลักษณ์อักษรมาให้ทราบ เนื่องจากต้องเก็บทุกอย่างเป็นหลักฐาน เพื่อส่งให้กระทรวงการต่างประเทศต่อไป โดยในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) จะมีกระทรวงการต่างประเทศเข้ามาร่วมประชุม ศบ.ทก.ด้วย เพื่อมาให้คำแนะนำว่าขั้นตอนต่อไปในการดำเนินการ ควรจะทำอย่างไร ร่วมถึงตรวจสอบข้อมูลหลักฐานของแต่ละฝ่ายว่าตรงกันหรือไม่ เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะแถลงเป็นทางการ ในการประชุม ศบ.ทก. 21 ก.ค.นี้ […]

สำนักพุทธฯ สั่งเข้มทุกวัด เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส.

19 ก.ค.-สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ ให้เร่งดำเนินการจัดทำบัญชีเงินฝาก รายรับ-รายจ่าย และงบดุลของวัด ให้ถูกต้องและเป็นระบบ ตามมติมหาเถรสมาคม ที่มีผลบังคับใช้แล้ว โดยการเปิดบัญชีและการเบิกถอนเงินฝากธนาคารของวัด จะต้องเปิดกับธนาคารที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในเขตจังหวัดเดียวกับวัด และระบุชื่อบัญชีเงินฝากเป็นชื่อวัดเท่านั้น โดยมีรายชื่อผู้มีอำนาจถอนเงินอย่างน้อย 3 คน ซึ่งในการถอนเงินต้องมีผู้ลงนามจำนวน 2 ใน 3 และมีเจ้าอาวาสลงนามด้วยทุกครั้ง โดยใช้ใบถอนเงินของธนาคารและสมุดบัญชีเท่านั้น ในส่วนของบัญชีรายรับ-รายจ่าย ให้รายงานบัญชีของวัดทุกบัญชี สรุปเป็นรายเดือน จำนวน 12 เดือน ส่งสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ภายในวันที่ 20 มกราคมของปีถัดไป โดยสำเนาเอกสารไว้ที่วัดด้วยทุกฉบับ นอกจากนี้ทุกวัดควรพิจารณาใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ร่วมด้วย เพื่อแสดงข้อมูลบริจาคที่ครบถ้วน และให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ ติดตามอย่างเคร่งครัด โดยสำนักพระพุทธศาสนาฯ จะกำกับดูแล หรือประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบบัญชี และรายงานการตรวจสอบให้มหาเถรสมาคมทราบ.-สำนักข่าวไทย