บุรีรัมย์ 26 ธ.ค.- คืบหน้าเหตุนายทหารบุกเดี่ยวจี้ชิงทรัพย์แบงก์กรุงไทยใน จ.บุรีรัมย์ ฉกเงิน 1 ล้านบาท ล่าสุด ยกเลิกทำแผนประกอบคำรับสารภาพ แต่พาตำรวจไปติดตามเงินได้คืนแล้ว 850,000 บาท ส่วนที่เหลืออ้างใช้หนี้
ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ยกเลิกการนำตัว ร.ท.จารุภูมิ ปานาโต ผู้ต้องหาจี้ชิงทรัพย์ธนาคารกรุงไทย สาขาย่อยศูนย์ราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในจุดเกิดเหตุ เนื่องจากเป็นความประสงค์ของผู้ต้องหา โดยอ้างผู้ต้องหาให้ข้อมูลเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ซึ่งผู้ต้องหานำเจ้าหน้าที่ไปติดตามเงินที่ซ่อนไว้ 850,000 บาท ในบ้านพัก 500,000 บาท ฝังดินไว้หลังบ้าน 300,000 บาท และซุกซ่อนในรถกระบะคันก่อเหตุอีก 50,000 บาท รวมถึงชี้จุดที่ซุกซ่อนสิ่งเทียมอาวุธปืน ปรือปืนบีบีกัน ส่วนเงินที่เหลืออีก 150,000 บาท ที่อ้างว่านำไปใช้หนี้ ตำรวจมั่นใจสามารถติดตามเงินคืนมาได้ทั้งหมด
พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ศรีเสริม ผู้กำกับการ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ระบุว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหายอมรับว่า ก่อนจะลงมือก่อเหตุ ได้เดินผ่านไปดูลาดเลา 2 รอบ เมื่อสบโอกาสไม่มีลูกค้าเข้าไปใช้บริการในธนาคาร จึงตัดสินใจก่อเหตุเข้าไปใช้ปืนจี้ชิงเงิน ส่วนที่ผู้ต้องหารู้ความเคลื่อนไหวของธนาคาร เนื่องจากทำงานที่ศูนย์ราชการฯ และเคยไปใช้บริการที่ธนาคารสาขาดังกล่าวบ่อยครั้ง ส่วนเหตุจูงใจในการก่อเหตุ อ้างว่ามีหนี้สินส่วนตัว ไม่มีทางออก จึงตัดสินใจก่อเหตุเพื่อหวังจะนำเงินไปใช้หนี้ เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา “ชิงทรัพย์โดยทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุมหรือรับของโจร”
ในวันพรุ่งนี้ เจ้าหน้าที่จะส่งตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลทหาร และในระหว่างนี้ให้พักราชการ พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง อย่างไรก็ตาม หากสืบสวนขยายผลพบว่ามีบุคคลอื่นร่วมก่อเหตุด้วย หากเป็นพลเรือนจะถูกส่งตัวไปดำเนินคดีศาลปกติ.-สำนักข่าวไทย