สำนักข่าวไทย 26 ธค..-เพจ BIOTHAIชี้ คำขอสิทธิบัตรที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายจำนวน 10 สิทธิบัตรที่ยังไม่ถูกยกเลิกจะก่อความเสียหายต่อประเทศอย่างมาก
เพจ BIOTHAI ได้อ้างถึง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฉบับแก้ไข เพื่อให้มีการใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ซึ่งผ่านการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2561 ว่า แทนที่จะเป็น “ของขวัญปีใหม่แก่ประชาชน” แต่กลับกลายเป็น “ของขวัญวันคริสต์มาสแก่บริษัทยาข้ามชาติ” เสียมากกว่า เนื่องจากคำขอสิทธิบัตรที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายจำนวน 10 สิทธิบัตรยังไม่ถูกยกเลิกแต่ประการใด (โดยในจำนวนนั้นมี 3 สิทธิบัตรที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์แถลงเมื่อกลางเดือนพฤศจิกายนว่าได้ปฏิเสธรับจดสิทธิบัตรแล้ว)
คำขอสิทธิบัตรที่ไม่ยกเลิกจำนวน 10 สิทธิบัตรนั้นครอบคลุมการรักษาโรคกว้างขวาง ทั้งรักษาโรคมะเร็ง โรคจิตประสาท ลมชัก และการใช้สำหรับระงับปวด เป็นต้น โดยบริษัทที่ยื่นขอจดสิทธิบัตรมากที่สุดคือ บริษัทโอซึกะ/จีดับเบิลยู ฟาร์มา จำนวน 7 สิทธิบัตร บริษัทยูโรเซลติเกอ 2 สิทธิบัตร และบริษัทโซลเวย์ ฟาร์มาซูติคอล 1 สิทธิบัตร
โดยสถานะของคำขอสิทธิบัตรนั้น อยู่ในชั้น แก้ไขคำขอ 1 คำขอ ประกาศโฆษณาแล้ว 5 คำขอ ยื่นให้มีการตรวจสอบการประดิษฐ์ 2 คำขอ และระบุว่า “ระหว่างจัดทำเอกสารตอบรับและจัดส่งเอกสาร” จำนวน 2 คำขอ
จากการวิเคราะห์ของไบโอไทยและเครือข่ายนักวิชาการด้านเภสัชศาสตร์พบว่าทั้ง 10 คำขอสิทธิบัตรนั้น เป็นคำขอสิทธิบัตรที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เช่น ขัดมาตรา 5 และมาตรา 9
หากรัฐบาล และกระทรวงพาณิชย์ ไม่กำกับดูแลและสั่งการให้กรมทรัพย์สินทางปัญญาดำเนินการเกี่ยวกับคำขอสิทธิบัตรที่ไม่ชอบดังกล่าวแล้ว ในที่สุดแล้วจะเกิดความเสียหายต่อประเทศใน 3 เรื่องใหญ่ ดังนี้
1) การปล่อยให้สถานะของคำขอสิทธิบัตรที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายคาราคาซังอยู่เช่นนี้่ จะเป็นการปิดกั้นการวิจัยและพัฒนาขององค์การเภสัชกรรม มหาวิทยาลัยและหน่วยงานของรัฐ เอกชน หรือ วิสาหกิจขนาดเล็กในประเทศไทย เพราะตามมาตรา 35 ใน พ.ร.บ.สิทธิบัตรได้ให้การคุ้มครองชั่วคราวแก่ผู้ยื่นคำขอสิทธิบัตร (โดยสามารถยื่นหนังสือคัดค้านว่าการวิจัยดังกล่าวนั้นตนได้ยื่นขอสิทธิบัตรไว้แล้ว) โดยมีผลนับตั้งแต่วันที่ยื่นขอสิทธิบัตร อีกทั้งสามารถเรียกค่าเสียหายได้หากคำขอสิทธิบัตรนั้นได้รับการจดทะเบียน
2) หากสิทธิบัตรของต่างชาติดังกล่าวได้รับการจดทะเบียน บริษัทยาของต่างชาติจะเป็นผู้ได้รับประโยชน์จากการพัฒนายาจากกัญชา ทั้งจากการผลิต นำเข้า ส่งออก หรือจำหน่ายยาจากกัญชาในประเทศไทย แทนที่จะเป็นประชาชนในประเทศซึ่งได้เคยพัฒนาและใช้ประโยชน์จากกัญชาเป็นยารักษาโรคมาอย่างยาวนาน
3) ประชาชนและผู้ป่วยจากโรคพาร์กินสัน ลมชัก มะเร็ง เนื้องอก โรคเกี่ยวกับจิตประสาท อาการปวดจากโรคต่างๆ และอื่นๆ จะต้องซื้อยาในราคาแพง ซึ่งเป็นผลมาจากการผูกขาดตลาดและอุปสรรคในการวิจัยซึ่งเกิดจากการเพิกเฉยของกรมทรัพย์สินทางปัญญาดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย
