พรรคประชาธิปัตย์ 26 ธ.ค.-ปชป. เปิดนโยบาย 5 คูณ 2 เพื่อคืนความเป็นธรรมและฟื้นชีวิตเกษตรกร แก้ปัญหาราคาปาล์มและยาง ตกต่ำ ชู ประกันรายได้ปาล์ม 4 บาท ยาง 60 บาทต่อกิโล 25 ไร่ ได้ทุกคน ดันใช้ยางในประเทศเพิ่มปีละ 1 ล้านตัน ใช้โฉนดสีฟ้า ช่วยชาวสวนยาง 3 แสนครัวเรือน แก้ปัญหาไร้เอกสารสิทธิ์ มั่นใจแก้ปัญหายั่งยืน ช่วยเกษตรกรมีชีวิตมั่นคง
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำว่าที่ผู้สมัครส.ส.ภาคใต้ 50 เขต ร่วมแถลงนโยบายหลักในการแก้ไขปัญหายางพารา ปาล์มน้ำมัน ภายใต้นโยบายปาล์มและยาง 5 คูณ 2 กล่าวว่า หากพรรคได้เป็นรัฐบาลจะผลักดันนโยบายเหล่านี้ให้เกิดขึ้นให้ได้ โดยจะประกันรายได้ยางพาราที่ 60 บาทครอบครัวละไม่เกิน 25 ไร่ ไม่ว่าจะมีที่ดินหรือไม่ แต่ต้องมีการลงทะเบียนไว้ เพราะนโยบายเดิมที่ชดเชยให้เกษตรกร ชาวสวนจะได้รับ แต่คนกรีดยางจะไม่ได้รับ ดังนั้นพรรคจะประกันรายได้ภายใต้นโยบาย “60 บาท 25 ไร่ ได้ทุกคน
นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า ผลักดันการใช้ยางพาราในประเทศ 20 % หากทำได้ รัฐก็ไม่จำเป็นต้องแทรกแซงราคา ตั้งกองทุนสวัสดิการชาวสวนยางแบบสมัครใจ จ่ายสมทบ ตามมาตรา 49 (5) พ.ร.บ.การยางแห่งประเทศไทย พ.ศ.2558 แก้ปัญหาเกษตรกรชาวสวนยางที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ จำนวน 300,000 ครัวเรือน พื้นที่สวนยาง 5 ล้านไร่ ด้วยโฉนดสีฟ้า คือการยกระดับโฉนดชุมชน เพื่อให้พี่น้องได้รับสิทธิการใช้ประโยชน์ในที่ดินตามกฎหมาย ที่ไม่ใช่กรรมสิทธิ์และสร้างความมั่นคงในอาชีพการทำสวนยางด้วยชุดความคิดสวนยางยั่งยืน เพื่อเปลี่ยนสวนยางเชิงเดี่ยว ให้เป็นป่ายางที่มีสมดุลนิเวศ ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า สำหรับนโยบายการแก้ปัญหาราคาปาล์มตกต่ำนั้น พรรคมีนโยบายประกันรายได้เกษตรกร ที่กก.ละ 4 บาท 25ไร่ ได้ทุกคน ประกาศใช้น้ำมันดีเซลบี 10 ทั่วประเทศ บี 20 ในการขนส่ง การประมง และ บี100 เพื่อสิ่งแวดล้อมในการเกษตร ประมง และการท่องเที่ยว
นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า เสนอกฎหมาย พรบ.ปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม ฉบับสภาเกษตรกร ให้มีการซื้อปาล์มคุณภาพตามราคาคุณภาพ ที่ราคาหน้าโรงงาน ปรับสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มให้เอื้อกับเกษตรกร นำน้ำมันปาล์มไปใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าจังหวัดกระบี่ เพื่อปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศ และประกาศนโยบายสนับสนุนการส่งออกและใช้นโยบายชะลอการนำเข้า หรือการผ่านแดนของน้ำมันปาล์ม
“เชื่อว่า นโยบายปาล์ม-ยางพารา แบบ 5 คูณ 2 จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรทั้งสวนปาล์มและสวนยางพารา ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน พ้นจากความทุกข์ ที่สั่งสมมาเป็นเวลานาน จากปัญหาราคาปาล์มและยางพาราตกต่ำ ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา เพราะเป็นนโยบายแก้ไขปัญหาทั้งระบบแบบครบวงจร.- สำนักข่าวไทย