กรุงเทพฯ 6 ก.ย.- กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) ตรวจเข้มเหมืองแร่ช่วงหน้าฝน เพื่อลดความเสี่ยงต่อการยุบตัวและเกิดอันตรายต่อผู้ปฏิบัติงานและประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะเหมืองที่มีความเสี่ยงต่อการพังถล่มในช่วงหน้าฝนและควรเฝ้าระวัง 57 เหมืองจากจำนวนเหมืองแร่ 595 เหมืองทั่วประเทศ
นายชาติ หงส์เทียมจันทร์ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กล่าวว่า ในช่วงหน้าฝนที่มีฝนตกหนัก อุตสาหกรรมเหมืองแร่มีความเสี่ยงสูงที่อาจเกิดอุบัติเหตุจากเหมืองถล่ม โดยบริเวณที่มีความเสี่ยงในพื้นที่ประทานบัตรเหมืองแร่ ได้แก่ บริเวณที่มีหน้าเหมืองสูงชัน บริเวณที่มีรอยแตก รอยเลื่อน หรือมีดินแทรก ฯลฯ กพร. จึงได้มีการตรวจสอบอย่างเข้มงวดตามมาตรการกำกับดูแลและการเฝ้าระวังเหมืองถล่มทั่วประเทศในช่วงฤดูฝน โดยมอบหมายให้ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดทุกจังหวัด และสำนักงานอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ทุกเขต ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบกำกับดูแลการทำเหมืองแร่ โดยเฉพาะพื้นที่เหมืองแร่ที่มีความเสี่ยงสูงให้ปฏิบัติตามแผนผังโครงการทำเหมือง มาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ตามเงื่อนไขประทานบัตร รวมทั้งวิธีการป้องกันอันตรายตามหลักวิศวกรรมอย่างเคร่งครัด โดยจากการตรวจสอบพบพื้นที่หน้างานที่มีความเสี่ยง ได้แก่ หน้าเหมืองที่อาจจะมีหินร่วงหล่น หน้าเหมืองที่อาจจะมีการเลื่อนของชั้นหิน หน้าเหมืองสูงชัน และพื้นที่ที่มีเส้นทางขนส่งชำรุด
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการพังถล่มในช่วงหน้าฝนและควรเฝ้าระวังมีประมาณ 57 เหมืองจากจำนวนเหมืองแร่ 595 เหมืองทั่วประเทศ ในจำนวนนี้ส่วนมากเป็นเหมืองหินแร่อุตสาหกรรมชนิดหินปูนเพื่ออุตสาหกรรมโดยกระจายอยู่ในจังหวัดต่างๆ อาทิ ชลบุรี สระบุรี ประจวบคีรีขันธ์ นครศรีธรรมราช พะเยา ขอนแก่น และสุพรรณบุรี ซึ่งขณะนี้ กพร. ได้สั่งให้มีการปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้องตามมาตรการและการแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมและเงื่อนไขแนบท้ายการอนุญาตแล้วจำนวน 31 ราย มาตรการดังกล่าวเป็นมาตรการควบคุมให้เกิดความปลอดภัยในการประกอบการเหมืองแร่ตามกฎ ระเบียบ และเงื่อนไขต่างๆ -สำนักข่าวไทย
