แนะรัฐบาลเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองอย่างยั่งยืน

กรุงเทพฯ
22 ธ.ค.-นักวิชาการแนะรัฐบาลเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาฃฝุ่นละอองขนาดเล็ก
PM2.5  ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและเขตปริมณฑลในช่วงเช้าของวันนี้  พบค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน
ในพื้นที่ริมถนนอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 17
พื้นที่และมีผลกระทบต่อสุขภาพ 2 พื้นที่


 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลัง
มีปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก
PM2.5
 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและเขตปริมณฑลในช่วงเช้าของวันนี้  พบค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน
ในพื้นที่ริมถนนอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 17
พื้นที่และมีผลกระทบต่อสุขภาพ 2 พื้นที่ ได้แก่ ริมถนนกาญจนาภิเษก  เขตบางขุนเทียน และริมถนนคู่ขนานพระราม 2
ตรวจพบค่าระหว่าง 53 – 103 ไมโครกรัม ต่อลูกบาศก์เมตร
ซึ่งทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก

 นางนันทวรรณ
วิจิตรวาทการ  คณบดีวิทยาลัยโลกคดีศึกษา
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์     เผยว่า
สาเหตุจากการเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กในครั้งนี้ เกิดได้หลายปัจจัย
ส่วนหนึ่งเกิดจากอากาศ ซึ่งตอนนี้ประเทศไทย  
เข้าสู่ฤดูหนาวจึงทำให้สภาพอากาศแห้ง  การไหลเวียนของลมจึงไม่ค่อยดีนัก ทำให้เกิดการสะสม
 ในเรื่องของอุตสาหกรรม   ก็ส่งผลด้วยเช่นกัน เพราะในกรุงเทพฯ ก็มีอุตสาหกรรมมากมาย
  และอีกสาเหตุหนึ่งที่ก่อให้เกิดฝุ่นละอองได้นั้น
ก็คือยานพาหนะ ซึ่งทุกปีก็จะมีจำนวนรถเพิ่มมากขึ้น
แม้ว่าในเรื่องของอุปกรณ์การกรองน้ำมันหรืออะไรต่างๆของรถจะดีขึ้น
แต่อย่างไรก็ตามการมีปริมาณรถที่มากขึ้น ก็ก่อให้เกิดมลพิษที่มากขึ้นตามไปด้วย
และปัจจัยสุดท้ายคือ การเผาไหม้เกษตร ซึ่งปัจจุบันไม่ได้มีการควบคุม
จึงเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดมลพิษ 
และปัญหาการเกิดฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานมักจะพบเจอได้อยู่ทุกปี
รัฐบาลก็พยายามหาวิธีการในการจัดการแก้ไขปัญหาดังกล่าว แต่ก็ยังไม่สามารถจัดการปัญหาได้อย่างยั่งยืน


 การแก้ปัญหาในระยะยาวอย่างยั่งยืน
มีด้วยกันอยู่หลายวิธี เช่น เรื่องของการใช้น้ำมันดีเซลให้เป็นยูโร 5 และยูโร 6
ซึ่งรัฐบาลต้องเร่งดำเนินการปรับคุณภาพน้ำมันให้มีคุณภาพดีขึ้น เพื่อแก้ปัญหาที่ดังกล่าวจะสามารถช่วยได้ในระดับหนึ่ง
     ในส่วนของรถโดยสารประจำทาง รถบรรทุก ยังไม่ได้รับการควบคุมอย่างเข้มงวด
 อีกประการหนึ่งต้องเข้มงวด คือการเผาเกษตร
 สิ่งที่มักพบเจอคือการเผาสวน เผาขยะ ประกอบกับอากาศที่แห้งก่อให้เกิดการลุกลามจากการเผาไหม้ได้อย่างรวดเร็ว   

 

สำหรับฝุ่นละอองขนาดเล็กที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ขณะนี้
อาจก่อให้เกิดอาการคันจมูก คันคอ มีน้ำมูก วิธีการรับมือ       ในเบื้องต้นก็คือ ควรหลีกเลี่ยงการออกจากบ้าน
การออกกำลังกายกลางแจ้ง หรือการทำกิจกรรมกลางแจ้ง 
หลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในจุดที่ทางกรมควบคุมมลพิษประกาศ
ถ้าหากจำเป็นที่จะต้องไปยังจุดนั้นจริงๆ ในเวลาที่ไม่นานก็อาจจะใช้หน้ากากอนามัยปิดจมูก 
แต่สำหรับหน้ากากอนามัยที่ใช้กันทั่วไปมีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นขนาดใหญ่
ไม่สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็ก
PM2.5 ได้ ทางที่ดีควรใช้หน้ากากอนามัย N95 เพราะจะมีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นขนาดเล็กได้ดีที่สุด  แต่การแก้ไขในเบื้องต้นนั้นเป็นเพียงการแก้ไขที่ปลายเหตุ  ควรให้ความสำคัญและแก้ไขปัญหาแบบระยะยาวเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวอีกในอนาคต.-สำนักข่าวไทย
 


 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นหาร่างใต้ตึกถล่ม

คาดไม่เกิน 1 สัปดาห์ ทราบชัดมีผู้ติดค้างในซากอาคาร สตง.หรือไม่

คาดไม่เกิน 1 สัปดาห์ จะทราบชัดมีผู้ติดค้างในซากอาคาร สตง. หรือไม่ ปัจจุบันการทำงานบริเวณทางเชื่อมด้านอาคารจอดรถด้านหลังยังลงไปไม่ถึงพื้นของชั้นใต้ดิน

ผบ.ตร. สั่งเร่งตรวจสอบ ตร.พาผู้ต้องหาลอบนำข้อสอบฯ ออกจากโรงพัก

ผบ.ตร. สั่งเร่งตรวจสอบกรณีมีตำรวจพาผู้ต้องหาลักลอบนำข้อสอบฯ ออกจากโรงพัก ทั้งที่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ย้ำใครผิดว่าไปตามผิด

รวบมือปาหิน

รวบแล้วมือปาหินใส่รถ ย่านบางนา-ตราด อ้างขาดสติเพราะดื่มเหล้า

รวบแล้วมือปาหินใส่รถประชาชน ย่านบางนา-ตราด อ้างขาดสติเพราะดื่มเหล้า พบประวัติเคยถูกจับมาแล้ว 12 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 13

ข่าวแนะนำ

สร้างสถานการณ์ ปาประทัดบอลใส่บ้านชาวไทยพุทธที่ปัตตานี

คนร้ายสร้างสถานการณ์ปาประทัดบอลใส่บ้านชาวไทยพุทธ ในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบลายนิ้วมือ หาตัวผู้ก่อเหตุ

กำชับเฝ้าระวังโรค “แอนแทรกซ์” เข้มข้น

“สมศักดิ์” กำชับเฝ้าระวังโรค “แอนแทรกซ์” เข้มข้น จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย จับมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันจำกัด-ยับยั้ง การแพร่ระบาด พร้อมเตือนรับประทานหมูดิบ เสี่ยงโรคหูดับตลอดชีวิต

ผู้ว่าฯ กทม. คาด 4 วันเคลียร์ซากตึก สตง. ก่อนส่งคืนพื้นที่

ผู้ว่าฯ กทม. คาด 4 วัน เคลียร์พื้นที่ซากอาคาร สตง. เพื่อค้นหาผู้สูญหายได้หมด ก่อนส่งมอบพื้นที่คืนหน่วยงานที่รับผิดชอบต่อไป