รัฐสภา 23 ม.ค.-รมว.อุตสาหกรรม แจงสภาฯ ไม่เลือกปฏิบัติ ปมปิดโรงงานน้ำตาลอุดรฯ เผยผลสอบชี้รับซื้ออ้อยเผา 40% ย้ำเป็นนโยบายรัฐบาล ลดปัญหาฝุ่น ไม่มีเส้นแบ่งระหว่างพรรค พร้อมแฉเป็นรัฐมนตรีมีค่าหัว 200-300 ล้านบาท ถูกจ้องย้าย
ในการประชุมสภาฯ วาระกระทู้ถามสด นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม ชี้แจงกระทู้ถามสดของนายธีระชัย แสนแก้ว สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ต่อกรณีการปิดโรงงานน้ำตาลไทยอุดรธานี จ.อุดรธานี ซึ่งตั้งข้อสังเกตเป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่ เนื่องจากพื้นที่ที่พบว่ามีรับซื้ออ้อยเผาสูงกว่า จ.อุดรธานี ไม่พบการสั่งปิดโรงงานเพราะรับซื้ออ้อยเผา เกิน 25%
โดยนายเอกนัฏ ชี้แจงว่า ตนยืนยันว่าไม่มีการเลือกปฏิบัติแน่นอน และตั้งแต่ตนทำหน้าที่ รมว.อุตสาหกรรมไม่ใช่นั่งเฉยๆ ในห้องแอร์ แต่ได้ลงพื้นที่ตรวจจับและจัดระบบใหม่ในภาคอุตสาหกรรม ปัญหากากอุตสาหกรรม สินค้าด้อยคุณภาพนำเข้าประเทศ ตนสั่งปิดและจับ ดำเนินคดีเด็ดขาด ทั้งนี้ มีวางค่าตัวไว้ว่า มีเงิน 200-300 ล้านบาท เพื่อย้ายรัฐมนตรี ตนไม่กลัวเพราะตนมีหน้าที่ที่ต้องการรักษาประโยชน์ของส่วนรวม
“การปิดโรงงานน้ำตาลไทยอุดรธานี เป็นภารกิจของรัฐบาล ช่วยลดฝุ่น PM 2.5 ที่เป็นปัญหาระดับประเทศ โดยการแก้ปัญหาดังกล่าว ไม่มีเส้นแบ่งระหว่างพรรคการเมืองหรือ รมว.กระทรวงใด แต่เป็นภารกิจที่นายกฯ ให้ความสำคัญ ทั้งนี้เป็นความตั้งใจของผมที่ต้องการให้ลดการเผาอ้อย โดยล่าสุดพบอัตราการเผาอยู่ที่ 11% ที่ถือว่าต่ำที่สุด บางทีการตัดสินใจไม่ง่าย แต่ต้องช่วยกัน โดยแก้ปัญหามีต้นทุนที่ต้องจ่าย สำหรับโรงงานน้ำตาลไทยอุดรธานี ที่ถูกปิด อุตสาหกรรมจังหวัดเข้าตรวจสอบพบว่ามีการรับซื้ออ้อยสูงสุดปริมาณ 4 แสนตัน พบเป็นเปอร์เซ็นต์ที่ซื้ออ้อยเผา 40% ถือว่าสูงสุด” นายเอกนัฏ กล่าว
นายเอกนัฏ ชี้แจงว่า สำหรับมาตรการในปีนี้ชัดเจนตั้งแต่ ต.ค.67 ได้แจ้งในการประชุมคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย มีโรงงานและเกษตรกร เมื่อ ต.ค.67 มีการขอความร่วมมืองดการเผา เกินวันละ 25% และให้โรงงานรับซื้ออ้อยเผาเกิน 25% ทั้งนี้มีมติ ครม.ที่ส่งมาถึงตน ขอให้กระทรวงเพิ่มมาตรการงดรับอ้อยเผาโดยสิ้นเชิง ทั้งนี้ปัญหาการไม่รับซื้ออ้อยเผาที่จ.อุดรธานี ตนได้ช่วยแก้ปัญหาและทราบว่ามีการเคลียร์อ้อยที่ค้างการรับซื้อทั้งหมดแล้ว ส่วนที่พบว่ามีอ้อยเน่านั้นจะมีมาตรการเยียวยาต่อไป.-315.-สำนักข่าวไทย