กรุงเทพฯ 21 ธ.ค.- 25 พรรคการเมืองลงนามสัญญาประชาคม “สัญญาที่พรรคการเมืองขอให้ไว้กับประชาชน” เพื่อให้ความมั่นใจกับประชาชน ว่าการเลือกตั้ง 24 ก.พ. จะเป็นไปโดยเสรี สุจริต และเที่ยงธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (21 ธ.ค.) มูลนิธิสันติภาพและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย จัดพิธีลงนาม “สัญญาที่พรรคการเมืองขอให้ไว้กับประชาชน” เพื่อให้พรรคการเมืองต่างๆ แสดงความมั่นใจแก่ประชาชนว่า การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 จะเป็นไปโดยเสรี สุจริต และเที่ยงธรรม พรรคการเมืองจะหาเสียงเลือกตั้ง ด้วยกระบวนการที่มีจรรยาบรรณ และให้การจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง เป็นไปโดยเคารพเสียง และความต้องการของประชาชน
มูลนิธิสันติภาพและวัฒนธรรม หวังว่า การทำสัญญาครั้งนี้ จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยลดความขัดแย้ง ทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง มีตัวแทนพรรคการเมืองต่างๆ เข้าร่วมจำนวน 25 พรรค อาทิ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์, นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ, นายศุภชัย ใจสมุทร รองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย, นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา, นายมิตติ ติยะไพรัช เลขาธิการพรรคไทยรักษาชาติ ร่วมพิธีลงนาม ส่วนพรรคการเมืองที่ไม่ได้ร่วมลงนามในวันนี้ มูลนิธิสันติภาพและวัฒนธรรมยังเปิดโอกาสให้ร่วมลงนามเพิ่มเติมได้ จนถึงวันที่ 10 มกราคม 2562
นอกจากนี้ ภายในงานมีตัวแทนทูต ตัวแทนเครือข่ายเอเชียเพื่อการเลือกตั้งเสรี (อันเฟรล) เข้าร่วมเป็นสักขีพยาน น.ส.จันดานี วาตาวาละ ผู้อำนวยการอันเฟรล กล่าวแสดงความยินดี ที่ประเทศไทยกำลังจะมีการเลือกตั้ง และหวังว่า มูลนิธิอัลเฟรลจะได้ร่วมสังเกตการการเลือกตั้งของไทยด้วย
ด้าน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. คาดหวังว่า การทำสัญญาร่วมกันของพรรคการเมืองในวันนี้ เพื่อให้การเลือกตั้งที่เป็นไปโดยสันติ และไม่มีการทุจริต เพราะการทุจริตในการเลือกตั้ง ส่งผลให้ประชาธิปไตยตกต่ำลง หรือการใช้อำนาจ เพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนนนิยมทางการเมือง การซื้อเสียง ถือเป็นการทำลายประชาธิปไตย
“หวังว่า พรรคการเมืองต่างๆ จะสามารถปฏิบัติให้เป็นไปตามสัญญาดังกล่าว เพื่อให้เกิดการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ และเที่ยงธรรม” พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนพรรคการเมืองได้ร่วมกันอ่านคำสัญญาที่พรรคการเมืองให้ไว้กับประชาชน ก่อนที่จะมีการลงนามด้วยถ้อยคำว่า “ก่อนการเลือกตั้ง พรรคการเมืองขอให้สัญญาว่า จะปฏิบัติตามจรรยาบรรณการหาเสียงเลือกตั้ง คือ จะปฏิบัติตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ กฎหมายเลือกตั้ง และกฎระเบียบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่กำหนดขึ้นตามหลักนิติธรรม และตามมาตรฐานสากล จะไม่กระทำการใดๆ ที่เป็นการซื้อเสียง จะไม่ใช้และพร้อมที่จะต่อต้านการใช้กลไก หรือทรัพยากรของรัฐ เพื่อประโยชน์ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนนเสียงเลือกตั้ง จะรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งด้วยสันติวิธี และไม่ใช้ความรุนแรงใดๆ จะไม่ใช้ถ้อยคำและภาษาที่ร้อนแรง จะไม่ให้ผู้อื่นเสื่อมเสียชื่อเสียง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จะไม่ใช้การข่มขู่ และไม่ใช้วาจาที่ปลุกเร้าให้เกิดความรุนแรง และจะเคารพสิทธิ์ของพรรคการเมืองทุกพรรค ที่จะรณรงค์หาเสียง โดยปลอดจากความหวาดกลัว และการถูกข่มขู่ และขอยืนยันว่า จะไม่ไปก่อกวนการรณรงค์หาเสียงของพรรคการเมืองใดๆ
หลังการเลือกตั้ง พรรคการเมืองขอให้สัญญาว่า จะเคารพเสียงของประชาชน และเร่งดำเนินการเพื่อให้เกิดความสงบสุขและเป็นธรรม พรรคการเมืองที่ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล จะต้องมีเสียงสนับสนุนเกินกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคการเมืองที่จะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล จะนำนโยบายที่แต่ละพรรคใช้ในการหาเสียง มาบูรณาการกันอย่างจริงจัง และให้ความสำคัญแก่การจัดทำนโยบายร่วมกันนี้ ในการลำดับก่อนการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรี จะสนับสนุนให้รัฐ จัดให้มีกลไกที่ใช้หลักของความเป็นธรรมในช่วงเปลี่ยนผ่าน เพื่อเสนอแนะการปรองดอง และเยียวยาผู้เสียหายจากการกระทำของรัฐ และการกระทำด้วยเหจุจูงใจทางการเมือง จะสนับสนุนกระบวนการพูดคุยสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญ เพื่อให้บรรลุข้อตกลงของการอยู่ร่วมกันด้วยความเคารพซึ่งกันและกันและอย่างสันติ และเพื่อความเป็นธรรมระหว่างการบริหารราชการส่วนกลางและส่วนท้องถิ่น ..- สำนักข่าวไทย
