ห้วยขวาง 21 ธ.ค. – ผู้สูงอายุถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทยอยถอนเงินช่วยค่าเดินทางไปพบแพทย์ 1,000 บาท ระบุดีใจและขอบคุณรัฐบาลที่ช่วยเหลือคนจน
มาตรการมอบเงินช่วยเหลือค่าเดินทางไปรักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายอื่นเกี่ยวกับสุขภาพ คนละ 1,000 บาทของรัฐบาล คสช. ที่มอบให้ประชาชนวันนี้ (21 ธ.ค.61) วันแรก ตอบโจทย์ความต้องการประชาชนผู้มีรายได้น้อยกลุ่มผู้สูงอายุได้ตรงจุด โดยในเขตกรุงเทพมหานคร เช่น ที่ตลาดสดห้วยขวาง ประชาชนหลายคนที่ต้องการใช้เงินทยอยออกมาถอนเงินสดจากเครื่องถอนเงินอัตโนมัติหรือตู้เอทีเอ็มอย่างต่อเนื่อง ด้านกรมบัญชีกลางระบุว่าประชาชนไม่ต้องกังวล เพราะเงินที่อยู่ในกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์กระเป๋า หรือ e-Money ไม่จำกัดเวลาใช้ สะดวกถอนวันไหนก็ได้
วันนี้ถือเป็นเดือนแรกที่กรมบัญชีกลางเริ่มต้นมาตรการช่วยเหลือนี้ โดยโอนเงินตรงเข้าสู่ในช่องกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์หรือ e-Money ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้แก่ผู้สูงอายุที่อายุครบ 65 ปีขึ้นไปที่มีสิทธิได้รับคนละ 1,000 บาท ซึ่งบรรยากาศตามตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทยหลายสาขาในพื้นที่ที่มีผู้สูงอายุที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและได้สิทธิ์รับเงินช่วยเหลือนี้ พบว่าประชาชนทยอยออกจากบ้านพักตั้งแต่เช้าเพื่อถอนเงินสดจากตู้เอทีเอ็มอย่างต่อเนื่อง บางคนไม่เข้าใจวิธีการใช้บัตรหรือกดตู้เอทีเอ็มไม่เป็น เพราะเห็นว่ายากและซับซ้อน ต้องอาศัยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำสาขาธนาคารกรุงไทยช่วยกดเงินให้ บางคนอาศัยผู้ที่เข้าใจหรือวัยหนุ่มสาว ช่วยเหลือทำรายการถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มให้ ซึ่งผู้จัดการธนาคารกรุงไทย สาขาตลาดสดห้วยขวางระบุว่า เงินมีเพียงพอให้กดอย่างแน่นอน หากไม่พอก็จะมีเจ้าหน้าที่เติมเงินให้
สำหรับมาตรการช่วยเหลือค่าเดินทางไปรับการรักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายอื่นเกี่ยวกับสุขภาพคนละ 1,000 บาทที่รัฐบาลมอบให้นี้ กำหนดระยะเวลาดำเนินการระหว่างเดือนธันวาคม 2561 – กันยายน 2562 จำนวน 1,000 บาทต่อคน โดยจ่ายเพียงครั้งเดียวนำมาจากเงินกองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม โดยทางกรมบัญชีกลางจะโอนเงินให้กับผู้มีสิทธิ์ที่มีอายุครบ 65 ปีขึ้นไป จำนวน 2,493,188 ราย
นางกชวรรณ สามนปาล อายุ 77 ปี คือ ตัวอย่างหนึ่งของหลาย ๆ คนที่ได้รับเงินช่วยเหลือค่าเดินทางไปรักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายอื่นเกี่ยวกับสุขภาพ คนละ 1,000 บาท เดินทางจากบ้านพักมาถอนเงินช่วยเหลือนี้ และกล่าวว่า เงินที่ได้รับจะนำไปใช้ด้านอื่น ๆ ที่จำเป็น เนื่องจากไม่ได้เจ็บป่วยมากจนถึงขั้นต้องเข้าไปปรึกษาแพทย์ และรู้สึกดีใจมากที่รัฐบาลให้ความช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ผู้ที่มีอายุมากแล้วไม่สามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้ดังเช่นยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว จึงขอฝากขอบคุณรัฐบาลที่ให้ความช่วยเหลือด้วย
นายปรีดี ฮวดศรี อายุ 77 ปี กล่าวภายหลังเบิกเงินจากเครื่องถอนเงินสดอัตโนมัติว่า ขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ช่วยเหลือคนจนด้วยใจจริง ที่ไม่ลืมคนจนไม่เคยมองข้าม ขอให้ประชาชนเลือกคนดี สำหรับการมาถอนเงินช่วยเหลือค่าเดินทางไปรักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายอื่นเกี่ยวกับสุขภาพ คนละ 1,000 บาทในวันนี้ ก็จะนำไปใช้ในการเดินทางไปพบแพทย์ เพราะป่วยเข้ารับการผ่าตัดโรคไส้เลื่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโดยภาพรวมแล้วประชาชนที่มาถอนเงินช่วยเหลือค่าเดินทางไปรักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายอื่นเกี่ยวกับสุขภาพ คนละ 1,000 บาท ดีใจและขอบคุณรัฐบาลที่ช่วยเหลือคนจน โดยกลุ่มคนที่ไม่เจ็บป่วยก็จะนำเงินใช้จ่ายจุนเจือในครอบครัวที่จำเป็น ส่วนผู้ที่ป่วยก็จะใช้เป็นค่าเดินทางไปพบแพทย์และค่ารักษาพยาบาล
ก่อนหน้านี้นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง ระบุว่า การออกมากดเงินจากตู้เอทีเอ็มวันนี้ (21 ธ.ค.) ของกลุ่มผู้สูงอายุที่ได้รับเงินตรงกับวันที่ธนาคารกรุงไทยเปิดให้ผู้ค้าสลากสั่งจองสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านตู้เอทีเอ็มอยู่แล้ว อาจจะทำให้ผู้มีสิทธิ์ไม่ได้รับความสะดวกในการถอนเงิน แต่ไม่ต้องกังวลใจ เพราะเงินที่อยู่ในกระเป๋า e-Money ไม่จำกัดเวลาในการใช้จ่าย สามารถถอนเงินในวันใดก็ได้ หรือจะนำไปใช้ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค ที่ร้านธงฟ้าประชารัฐ หรือร้านค้าเอกชนอื่นได้เช่นเดียวกัน.-สำนักข่าวไทย