กทม.20ธค..- กทม.ร่วมเปิดตัวรถโดยสารปรับอากาศ NGV ใหม่ เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับคนกรุง ขณะที่ซุ้มพิธีเปิดที่อัดด้วยลม เกิดแฟบลงขวางรถเมล์ของคณะนายกฯ
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมพิธีเปิดตัวรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) ใหม่ เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมพิธีปล่อยขบวนรถโดยสาร NGV ใหม่ 50 คัน พร้อมทดลองนั่งสาย 168 คันที่ 11 ซึ่งขณะที่รถเมล์กำลังออกตัว ซุ้มพิธีเปิด ที่อัดด้วยลมได้แฟบลง ขวางรถคณะของนายกรัฐมนตรี ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องรีบเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่เรียกเสียงฮือฮา ให้กับบรรดาสื่อมวลชน และผู้ที่มาร่วมงาน
โครงการนี้ สืบเนื่องจากตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 เม.ย.56 อนุมัติให้ ขสมก.ดำเนินโครงการจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 3,183 คัน เพื่อนำมาวิ่งให้บริการประชาชน ทดแทนรถโดยสารเดิมที่มีสภาพเก่า ทรุดโทรม โดยเร่งรัดให้ ขสมก.ดำเนินการจัดซื้อรถโดยสารในระยะแรก จำนวน 489 คัน ซึ่งได้ลงนามสัญญาจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศ NGV จำนวน 489 คัน กับกลุ่มร่วมทำงาน SCN – CHO (เอส ซี เอ็น ชอ) เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.60 ซึ่ง ขสมก.ได้ตรวจรับรถงวดที่ 1 จำนวน 100 คัน งวดที่ 2 อีก 100 คัน นำไปวิ่งให้บริการประชาชนแล้ว และงวดที่ 3 แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่1 จำนวน 50 คัน จะนำไปวิ่งในเส้นทางเดินรถสาย A1 – A4 ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ส่วนที่ 2 อีก 50 คัน จะนำไปวิ่งในเส้นทางเดินรถ ตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค.61 และงวดสุดท้าย อีกจำนวน 189 คัน จะดำเนินการตรวจรับประมาณกลางเดือน มี.ค.62
ทั้งนี้การจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศ NGV จำนวน 489 คัน เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ซึ่งรถโดยสารดังกล่าวเป็นแบบชานต่ำ ที่นำเครื่องยนต์และอุปกรณ์ชิ้นส่วนต่างๆ เข้ามาประกอบภายในประเทศไทย โดยใช้พลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีการออกแบบในลักษณะ Universal Design พร้อมติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวก และเทคโนโลยีที่ทันสมัยสามารถรองรับการใช้บริการของคนพิการ และผู้สูงอายุได้อย่างสะดวก ปลอดภัย ลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล ซึ่งเป็นการช่วยลดปัญหาการจราจรติดขัด และลดปริมาณการปล่อยมลพิษในอากาศอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย