กรุงเทพฯ6 ก.ย. – บางจากฯคาดราคาน้ำมันผันผวนต่อจับตากลุ่มผู้ผลิตจะร่วมตรึงกำลังผลิตรักษาระดับราคาจริงหรือไม่ พร้อมเดินหน้าหาลู่ทางลงทุนแหล่งปิโตรเลียมต่อเนื่อง ยอมรับการปิดหลุมในประเทศต้องเพิ่มการนำเข้าน้ำมันดิบมากขึ้น ส่วนแหล่งแร่ลิเธียมพร้อมลุยลงทุนผลิตมี.ค.ปีหน้า
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (BCP) เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันขายปลีกในไทยจะผันผวนในช่วงนี้ตามตลาดโลกที่จับตามองว่ากลุ่มโอเปกและนอกโอเปกที่ประชุมเดือนกันยายนนี้ จะตรึงกำลังผลิตอย่างไรเพื่อรักษาระดับราคาที่เหมาะสม โดยจากการหารือระหว่างซาอุดิอาระเบียและรัสเซีย ที่พร้อมจะร่วมมือรักษาระดับราคาก็ส่งผลให้ระดับราคาน้ำมันดิบวานนี้พุ่งสูงขึ้น
ทั้งนี้ มองว่าระดับราคาน้ำมันดิบตลาดโลกผ่านพ้นช่วงต่ำสุดไปแล้ว ซึ่งนักวิเคราะห์ต่างประเมินว่าที่ราคาน้ำมันดิบที่ผู้ประกอบการทั่วโลจะอยู่ได้คือ55-60 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ส่วนราคาที่ต่ำกว่า40ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรลเป็นราคาที่ไม่สามารถอยู่รอดได้ และวู๊ดแม็คแคนซี่ย์บริษัทที่ปรึกษาด้านธุรกิจพลังงานแห่งสก็อตแลนด์ก็รายงานว่าราคาที่ตกต่ำทำให้การสำรวจและผลิตน้ำมันดิบจากแหล่งต่างๆต่ำสุดในรอบ60ปีและอีก2-3ปีข้างหน้าอาจเกิดปัญหากำลังผลิตต่ำกว่าความต้องการ
ด้านราคาน้ำมันดิบที่ต่ำลงก็ทำให้แหล่งปิโตรเลียมในไทยบางแห่งปิดหลุมผลิตทางโรงกลั่นฯบางจากฯจึงจำเป็นต้องซื้อน้ำมันดิบจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ60ของกำลังกลั่นน้ำมันจากเดิมซื้อเพียงร้อยละ50 และช่วงนี้ยังเป็นโอกาสในการหาช่องทางเจรจาซื้อแหล่งปิโตรเลียม จากที่ปัจจุบันบริษัทถือหุ้นเพียงบริษัทเดียว คือ บริษัท Nido Petroleum ประเทศออสเตรเลีย ที่ได้รับสัมปทานสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ ซึ่งปัจจุบันผลิตเพียงแหล่งเดียว คือGaloc ในฟิลลิปปินส์ถือหุ้นร้อยละ55.88กำลังผลิตราว5,000บาร์เรล/วันราคาต้นทุนอยู่ที่28-29 ดอลลาร์/บาร์เรล
นายชัยวัฒน์กล่าวด้วยว่าในเดือนมีนาคม2560บริษัทร่วมทุนผลิตเหมืองลิเธียมที่บางจากฯถือหุ้นร้อยละ7จะเริ่มลงทุนผลิตในอาเจนตินากำลังผลิตเบื้องต้น25,000ตัน/ปีและจะเพิ่มเป็น50,000 ตัน/ปีในปี 2562 โดยลูกค้าหลักจะอยู่ที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมที่ป้อนทั้งสมาร์ทโฟน,รถยนต์นั่งไฟฟ้าและกักเก็บพลังงานทดแทนโดยมองว่าในอนาคต บมจ.บีซีพีจีก็มีความจำเป็นต้องใช้แบตเตอรี่ประเภทนี้เพื่อรองรับให้พลังงานทดแทนสามารถใช้ได้ตลอดเวลาเช่นกัน- สำนักข่าวไทย