ยอดจดทะเบียนธุรกิจใหม่พ.ย.ลดลง แต่ทุนเพิ่มขึ้นมาก

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า 19 ธ.ค.-กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผยยอดจดทะเบียนธุรกิจใหม่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
ลดลงร้อยละ 16 จากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว แต่ทุนธุรกิจจัดตั้งใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ
10 ขณะที่ยอดรวมธุรกิจในไทยยังมีกว่า 714,000 ราย


นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
แถลงการจดทะเบียนธุรกิจและการให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
ว่า มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศเดือนพฤศจิกายน
2561 จำนวน 5,539 ราย เทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2560 จำนวน 6,597 ราย ลดลง 1,058 ราย คิดเป็นร้อยละ 16 เนื่องจากปีที่ผ่านมา
การจัดตั้งธุรกิจเพิ่มขึ้นมากจากมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมให้บุคคลธรรมดาประกอบธุรกิจในรูปแบบนิติบุคคลของกรมสรรพากร   

โดยประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่
ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน
534 ราย คิดเป็นร้อยละ 10 รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 381 ราย
คิดเป็นร้อยละ
7 และอันดับ 3 คือ
ธุรกิจภัตตาคาร / ร้านอาหาร จำนวน
176 ราย คิดเป็นร้อยละ 3
ขณะที่มูลค่าทุนธุรกิจจัดตั้งใหม่เดือนพฤศจิกายน 2561  มีจำนวน 75,167 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคม 2561 จำนวน 19,962 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 55,205 ล้านบาท และเมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน
2560  จำนวน 68,462 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,705 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 10


ส่วนธุรกิจจัดตั้งใหม่สะสม จำนวนธุรกิจตั้งใหม่สะสมตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายน
2561 มีจำนวน
68,007 ราย ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 205 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.3
สำหรับมูลค่าทุนจดทะเบียนธุรกิจตั้งใหม่สะสมตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2561
มีจำนวน
335,615 ล้านบาท ลดลง 37,091
ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ
10

ส่วนธุรกิจเลิกประกอบกิจการเดือนพฤศจิกายนมีจำนวน 2,482 ราย เทียบกับเดือนตุลาคม
เพิ่มขึ้น
316 ราย คิดเป็นร้อยละ 15
และเมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน
2560 เพิ่มขึ้น 176 ราย  คิดเป็นร้อยละ 8  ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด
3 อันดับแรก  ได้แก่
ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน
207 ราย คิดเป็นร้อยละ 8 รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 141 ราย
คิดเป็นร้อยละ
6 และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 64 ราย คิดเป็นร้อยละ 3ตามลำดับ

ณ วันที่ 30 พ.ย. 61)  ธุรกิจที่ยังคงดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ
จำนวน
714,478 ราย  มูลค่าทุน 17.77 ล้านล้านบาท  แยกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด /
ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน
183,014 ราย คิดเป็นร้อยละ 25.62  บริษัทจำกัด จำนวน 530,246 ราย
คิดเป็นร้อยละ
74.21
และบริษัทมหาชนจำกัด
จำนวน
1,218 ราย
คิดเป็นร้อยละ
0.17


ทั้งนี้ กรมจะได้เร่งส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้ามาจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลอย่างต่อเนื่อง
รวมทั้งจะสนับสนุนและส่งเสริมให้นิติบุคคลมีศักยภาพในการทำธุรกิจ
ทั้งด้านการบริหารองค์กร การจัดการทางการเงิน การตลาด
โดยจะบูรณาการความร่วมมือร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน หน่วยธุรกิจ และ
startup ต่างๆ
เพื่อให้นิติบุคคลเข้าถึงการใช้งานเทคโนโลยี โปรแกรมบัญชีสำเร็จรูป
และองค์ความรู้ที่จำเป็นต่อการประกอบธุรกิจ  
ซึ่งการเป็นนิติบุคคลจะได้รับสิทธิประโยชน์และมีโอกาสเพิ่มขึ้น เช่น
ด้านการขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน
การมีโอกาสเข้าถึงมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการประกอบธุรกิจอีกด้วย. 
– สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งกองกำลังสุรนารี ปรับเวลาเปิด-ปิด จุดผ่านแดนกัมพูชา 

8 มิ.ย.- เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แม่ทัพภาค 2 ลงนามคำสั่งให้อำนาจผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พิจารณาปรับเวลาเปิด-ปิด ด่านถาวรและจุดผ่อนปรนการค้า 4 ด่าน มีผลทันทีเมื่อคืนนี้ กองทัพภาคที่ 2 ออกหนังสือคำสั่ง การควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ตามคำสั่งกองทัพบก เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ให้กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังกำลังสุรนารีมีอำนาจการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี วิธีการและเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลา ที่จำเป็นเหมาะสม ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ดังนี้

วุ่นแต่เช้า! ด่านคลองลึก “ไทย-กัมพูชา” เปิดไม่พร้อมกัน

สระแก้ว 8 มิ.ย.- ด่านคลองลึก วุ่นแต่เช้า! “ไทย-กัมพูชา” เปิดด่านชายแดนไม่พร้อมกัน หลังปรับเวลาวันแรก ทำคนรอหน้าด่านจำนวนมาก ด่าน ตม.อรัญประเทศ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เปิดประตูด่านพรมแดนคลองลึก บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา มีความวุ่นวายเกิดขึ้น เนื่องจากวันนี้นับเป็นวันแรกที่เริ่มใช้มาตรการเปิดด่านเวลา 08.00 น. พอถึงเวลา 08.00 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้ทำการเปิดประตูด่านพรมแดน บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา แต่ทางฝั่งกัมพูชา ไม่มีทีท่าว่าจะเปิดด่านแต่อย่างใด โดยมีชาวกัมพูชาและแรงงานชาวกัมพูชาจำนวนมากจากฝั่งไทยที่จะเดินทางกลับประเทศกัมพูชา พร้อมทั้งพนักงานกาสิโนชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ต้องมายืนรอกัมพูชาเปิดด่าน ต่อมา พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว และ ร.ท.สาโรจน์ โยธา ผบ. ร้อย ทพ.1201 ได้เดินเข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่กัมพูชาบริเวณประตูพรมแดนฝั่งกัมพูชาถึงสาเหตุที่กัมพูชายังไม่เปิดด่าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ ตม.และตำรวจกัมพูชา แจ้งมาว่าเป็นคำสั่งของผู้บังคับบัญชาของกัมพูชาให้เปิดด่านเวลา 09.00 น. ซึ่งไม่ตรงกับไทย ทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยต้องออกประชาสัมพันธ์ให้ชาวกัมพูชาและนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงคนไทยที่จะไปทำงานในฝั่งกัมพูชาทราบว่าด่านไทยเปิดเวลา 08.00 น. แต่ด่านกัมพูชา เปิด 09.00 น. […]

“อนุทิน” ยันอุบลฯ ไม่โดดเดี่ยว ลั่นจะไม่ให้ใครรุกราน

อุบลราชธานี 8 มิ.ย.- “อนุทิน” ลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ยันอุบลราชธานีไม่ได้โดดเดี่ยว ลั่นจะไม่ให้ใครรุกราน ขณะที่ชาวบ้านยอมรับหวาดกลัว แต่อุ่นใจมีทหารคอยดูแลความปลอดภัย นายอนุทิน​ ชาญ​วีระกูล​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ นำคณะปฏิบัติราชการที่จังหวัดอุบลราชธานี จุดแรกที่ศูนย์พัฒนาเขตพื้นที่ชายแดน บ้านทุ่งสมเด็จ หมู่ที่ 17 ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน เพื่อมอบสิ่งของให้ทหาร​ ชรบ.​อส. ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ จากนั้นไปดูหลุมหลบภัย 2 จุด คือหลุมหลบภัย โรงเรียนบ้านแปดอุ้ม และหลุมหลบภัยวัดบ้านค้อ ให้กำลังใจพี่น้องประชาชนในพื้นที่ การลงพื้นที่ครั้งนี้ นายอนุทินเดินทางโดยเครื่องบินส่วนตัวก่อนจะขึ้นเฮลิคอปเตอร์​จากอุบลราชธานี มาพื้นที่ชายแดน​พร้อมกับปลัดกระทรวงมหาดไทยและอธิบดีกรมการปกครอง​ก่อนวันพุธที่ 11 มิถุนายน​ จะเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดตามแนวเขตชายแดนไทย-กัมพูชาทั้ง 7 จังหวัดมาประชุมร่วมกันที่อุบลราชธานี​ เพื่อให้เกิดความมั่นใจ​ ถึงแนวทางในการดูแลพี่น้องประชาชนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด นายอนุทิน แนะนำผู้ว่าฯ และรองผู้ว่าฯ 7 จังหวัด รวมถึงสส. ทั้งของพรรคภูมิใจไทยและต่างพรรคที่มาเป็นกำลังใจให้ทุกคนโดยเฉพาะทหารที่เป็นกำลังสำคัญ​ และรับรองได้ว่าจะไม่ให้ใครรุกรานเข้ามาแม้แต่มิลลิเมตรเดียว​ พร้อมยืนยันอุบลราชธานีไม่ได้โดดเดี่ยว คนไทยทุกคนพร้อมที่จะคอยตรึงแนวหลัง ให้มั่นใจได้ว่าปลอดภัย ชาวบ้านในพื้นที่ ที่มารอต้อนรับคณะของนายอนุทิน ยอมรับว่าหวาดกลัวกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เพราะเคยประสบเหตุ เหยียบกับระเบิด […]