เรียก10ดาราเอี่ยว”เมจิกสกิน”รับทราบข้อหา24ธ.ค.นี้อีก36คนรอดคดีขาดอายุความ

กรุงเทพฯ 14 ธ.ค.- คืบหน้าคดีเมจิกสกิน ล่าสุด เรียก 10 ดารา รับทราบข้อหาโฆษณาอาหาร โดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษปรับ 5,000 บาท อีก 36 คนรอดคดีขาดอายุความ


 พลตำรวจเอกวิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อม ผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และพนักงานสอบสวน ร่วมแถลงผลการพิจารณาความผิดของดารานักแสดงที่รีวิว สินค้าผลิตภัณฑ์ในเครือ “เมจิกสกิน” ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้พิจารณาดำเนินคดีกับดาราและเนตไอดอล ที่มีการรีวิวสินค้าเมจิกสกิน จำนวน 59 คน จาก 106 รายการโฆษณา พบการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร จำนวน 46 คน รอผลการพิจารณาความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องสำอาง จำนวน 27 คน โดยข้อหาที่ต้องเร่งดำเนินการสอบสวนเพื่อแจ้งข้อหาผู้ที่เข้าข่ายความผิดให้เร็วที่สุดคือ ความผิด พ.ร.บ. อาหาร พ.ศ.2522 มาตรา 41 โฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณ เพื่อประโยชน์ทางการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษปรับไม่เกิน 5 พันบาท ซึ่งมีอายุความ 1 ปี มีดาราและเนตไอดอลเข้าข่ายความผิด จำนวน 46 คน แต่ในนั้น 36 คน คดีขาดอายุความไปแล้ว จึงดำเนินคดีได้เพียง 10 คน ประกอบด้วย ก็อตจิ สายเชือก นัดนิช่า น้ำหวาน ไลล่า เบอร์รี่สาว จุ้ย ปุ้ม รักนา หมอปอน และเมพิด ( กำชับให้ใช้ชื่อตามนี้จะได้ไม่ละเมิดสิทธิผู้ต้องหาตามรัฐธรรมนูญ)   ซึ่งจะเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 24 และ 27 ธันวาคมนี้ที่สำนักงานตำรวจแหางชาติ

ส่วนความผิดอื่นอยู่ระหว่างดำเนินการพิจารณาเพราะเหลืออายุความอีกนานเช่น ความผิด พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ.2558 มาตรา 41 วรรค 2 (1) โฆษณาเครื่องสำอางด้วยข้อความที่เป็นเท็จหรือเกินความจริง มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มีอายุความ 5 ปี   พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2552 มาตรา 40 โฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณของอาหาร อันเป็นเท็จ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 3 หมื่น หรือทั้งจำทั้งปรับ มีอายุความ 5 ปี และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14(1) นำข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มีอายุความ 10 ปี


ซึ่งความผิด 3 ข้อหาหลักอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อแจ้งข้อหาแก่ดาราและเนตไอดอลที่เข้าข่ายความผิดต่อไป ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของทาง อย. คาดจะดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 3 เดือน

ส่วนความคืบหน้าเรื่องการยึดทรัพย์กลุ่มผู้ต้องหา ทางตำรวจยังประสานข้อมูลกับ ปปง. สามารถยึดทรัพย์ได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งจะชี้แจงรายละเอียดในโอกาสต่อไป สำหรับผู้เสียหาย หลังจากนี้ ให้เตรียมนำหลักฐานมาชี้แจงกับ ปปง.เพื่อขอเฉลี่ยทรัพย์คืนต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

“อ.แจ็คพันศพ” ถูกเปลวไฟพุ่งใส่ขณะเผาศพ

“อาจารย์แจ็คพันศพ” สัปเหร่อและหมอผีชื่อดัง จ.บุรีรัมย์ ถูกเปลวไฟพุ่งใส่ขณะวางดอกไม้จันทน์เผาศพ ไฟลวกทั่วร่างกาย ต้องหามส่งโรงพยาบาล  เจ้าตัวงง! เผาศพมาเป็นพัน ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้

ข่าวแนะนำ

ตำรวจเร่งกวาดล้างแก๊งไทใหญ่ 999

กรณีแก๊งไทใหญ่ 999 ไล่ฟันหนุ่มกะเหรี่ยง ย่านห้วยขวาง ตำรวจยอมรับมีกลุ่มต่างด้าวกระทบกระทั่งกันในพื้นที่ เร่งพิสูจน์รวมแก๊งลักษณะอั้งยี่-ซ่องโจร หรือไม่ พร้อมลั่นดำเนินคดีไม่ละเว้น

ผู้การอยุธยา สั่งสอบ ตร. เก็บส่วยร้านอาหาร

แฉคลิปเสียงชายอ้างเป็นตำรวจ เรียกเก็บเงินรายเดือนจากร้านอาหาร พอปฏิเสธถูกลงตรวจถี่ยิบ ล่าสุด ผู้การฯ อยุธยา สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงด่วน

ปิด “จุดชมวิวภูชี้ฟ้า” ชั่วคราว เหตุเสียงปืนดังข้ามแดน-กระสุนตกใส่หลังคาบ้าน

อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า (เตรียมการ) ประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวจุดชมวิวภูชี้ฟ้า ชายแดนไทย-สปป ลาว อำเภอเวียงแก่น และอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว หลังเกิดเสียงปืนดังข้ามแดน และพบกระสุนตกใส่บ้านเรือนประชาชน

กทม.พาสื่อดูซากตึก สตง. คาดอีก 2-3 วัน ภารกิจเสร็จสิ้น

กทม.พาสื่อลงพื้นที่ดูซากตึก สตง. ขณะนี้เคลียร์ถึงชั้นใต้ดินซึ่งเป็นจุดสุดท้าย คาดภารกิจการค้นหาผู้สูญหายและรื้อซากจะเสร็จสิ้นในอีก 2-3 วัน