ผู้ชุมนุมต้านโรงไฟฟ้าพลังงานขยะสลายชุมนุม

นครสววรค์ 12 ธ.ค.-ชาวนครสววรค์ที่ปิดถนนสี่แยกหนองบัว ยอมสลายการชุมนุมแล้ว หลังจังหวัดรับปากจะยุติการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานขยะตามกฎหมายต่อไป


จากกรณีการชุมนุมคัดค้านไม่เอาโรงไฟฟ้าพลังงานขยะของชาว อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ ซึ่งมีการชุมนุมประท้วงกันมาตั้งแต่ช่วงเช้าของเมื่อวาน เนื่องจากไม่พอใจที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ยอมสั่งให้ยุติ และยังปล่อยให้โรงไฟฟ้าดังกล่าวดำเนินการก่อสร้างต่อจนเกือบเสร็จ โดยที่ยังไม่มีคำตอบใดๆ ที่ชัดเจนจากหน่วยงานภาครัฐ จึงส่งผลทำให้กลุ่มผู้ชุมนุม  เคลื่อนย้ายไปปิดล้อมที่บริเวณสี่แยกหนองบัว จนทำให้ถนนทางหลวงหมายเลข 11 และทางหลวงหมายเลข 225 ที่เชื่อมกับสี่แยกดังกล่าว รถสามารถสัญจรผ่านไปมาได้อย่างยากลำบาก อีกทั้งการชุมนุมยังยืดยื้อมาตลอดทั้งวัน โดยที่กลุ่มผู้ชุมนุมได้ปักหลักนอนค้างคืนอยู่ที่สี่แยกดังกล่าวเมื่อคืนนี้


ล่าสุดนายอรรถพล สิงหวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ พล.ต.บัญชา ดุริยพันธ์ รองแม่ทัพภาคที่ 3 พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. นายอำเภอหนองบัว ประชุมร่วมกับแกนนำที่ร่วมชุมนานกว่า 3 ชั่วโมงภายในห้องประชุม สภ.หนองบัวเพื่อหาทางออกร่วมกัน โดยที่ประชุมได้สอบถามที่มา กลุ่มนายทุนที่มาก่อสร้างโรงไฟฟ้ากำจัดขยะครั้งนี้ โดยทางตำรวจได้ให้แกนนำนำเอาหลักฐานเอกสารการขออนุญาตก่อสร้าง ซึ่งเป็นเอกสารที่ชาวบ้านำไปร้องต่อศาลปกครองขณะนี้นำมาตรวจดูอย่างละเอียด

เบื้องต้นที่ประชุมโดยมี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์เป็นประธานอำนวยการนั้น ได้พบว่ามีเอกสารที่โรงานกำจัดขยะนำไปยื่นต่ออุตสาหกรรมนั้นมีพิรุจหลายอย่าง โดยเฉพาะการลงชื่อทำประชาพิจารณ์ พบว่ามีชาวบ้านไม่ได้ร่วมลงชื่อ แต่กลับพบว่ามีการลงชื่อสนับสนุน ซึ่ง พล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้สอบถามโดยละเอียดกับชาวบ้านคนหนึ่ง ซึ่งปรากฏว่าชาวบ้านไม่รู้หนังสือ ไม่สามารถเยนหนังสือได้ แต่กลับพบว่ามีการลงรายมือชื่อสนับสนุนซึ่งน่าจะผิดเงื่อนไขกฎหมาย เรื่องการปลอมแปลงเอกสาร ที่ประชุมจึงสรุปว่าจะให้ผู้เสียหายได้แก่ ชาวบ้าน อุตสากรรมจังหวัด เป็นเจ้าทุกข์แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ยื่นขอใบอนุญาตการก่อสร้าง และจะระงับการก่อสร้างโรงไฟฟ้าต่อไป


ต่อมาคณะที่เจรจา นำโดยผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ รองแม่ทัพภาคที่ 3 รอง ผบ.ตร. นายอำเภอ พร้อมแกนนำ ได้เดินทางมาพบกลุ่มผู้ชุมนุมที่ปักหลักกลางสี่แยกหนองบัว เพื่อเจรจาร่วมกันในประเด็นต่างๆที่ประชุมได้หารือไว้ โดยมีชาวบ้านที่ชุมนุมร่วมซักถามในประเด็นที่สงสัย ซึ่งการเจรจาก็เกิดความสับสนเนื่องจากชาวบ้านต้องการให้ทางจังหวัด สั่งระงับการก่อสร้างโรงไฟฟ้าทันที จึงเกิดเสียงโฮ่ ไม่พอใจเป็นระยะ และชาวบ้านก็ประกาศจะไม่ยอมสลายการชุมนุม จะปักหลักต่อไป ทำให้ทางกลุ่มผู้เจรจา นำโดยผู้ว่าต้อง ให้ทางทหาร ตำรวจ พลัดกันเจรจาชาวบ้านเป็นระยะ เพื่อให้สถานการณ์ผ่อนคลาย ใช้เวลาประมาณ 45 นาที คณะเจรจานำโดยผู้ว่าราชการจังหวัดจึงเดินทางกลับ

ต่อมา พล.ต.บัญชา รองแม่ทัพภาคที่ 3 ก็ลงมือเจรจากับชาวบ้านต่อเนื่อง โดยทางทหารร้องขอให้ชาวบ้านยอมสลายการชุม เพื่อสร้างความสงบแก่สังคมและประชาชนผู้ใช้เส้นทาง แต่ชาวบ้านยังไม่ยอมจะปักหลักชุมนุมต่อไป และสอบถามทหารว่า โรงงานดังกล่าวมีคนในรัฐบาลอยู่เบื้องหลังหรือไม่ ทำไมทหารไม่ยอมเข้าไปจัดการโรงงานที่ชาวบ้านไม่ยอมให้สร้าง เหมือนรัฐบาลเข้าไปรื้อถอนรีสอร์ทที่กระทำผิดกฎหมาย แต่ในที่สุดชาวบ้านก็ยอมมีท่าทีออ่นลง

ต่อมานายอำเภอหนองบัวและแกนนำเดินทางมาเจรจาต่อ โดยแกนนำขอร้องให้ชาวบ้านยอมสลายการชุมนุม เนื่องจากทางจังหวัดรับปากจะดำเนินการ 3 ข้อดังนี้ 1.ทางตำรวจจะให้อุตสาหกรรมจังหวัดไปแจ้งความเอาผิด กับผู้ยื่นเอกสารหลักฐานโดยลงชื่อแทนประชาชนที่ไม่สามารถเขียนหนังสือได้ ถือว่าการร้องขอก่อสร้างโรงงานเอกสารเป็นเท็จ ถือว่าเป็นโมฆะสร้างต่อไปได้แล้ว 2.โรงงานกำจัดขยะหากไม่มีขยะจากจังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดชลบุรี เข้ามาป้อนโรงานก็ไม่สามารถเดินเครื่องได้ ซึ่งขยะที่จะนำเข้ามาในจังหวัดนครสวรรค์ ต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการจังหวัด ซึ่งมีผู้ว่าฯเป็นประธาน ผู้ว่ารับปากจำไม่อนุมัติให้นำขยะจากนอกจังหวัดมาป้อนโรงงาน และจะให้แกนนำเป็นกรรมการจังหวัดด้วย เท่ากับโรงงานไม่มีวัตถุดิบ จึงไม่สามารถเปิดโรงงานได้ 3.ประเด็นการดำเนินคดีตามกฎหมายเรื่องความมั่นคงและการชุมนุมนั้น พนักงานสอบสวนจะให้ประกันตัวตามกฎหมายและจะปล่อยตัวไปสู้คดี ซึ่งชาวบ้านไม่ต้องเป็นห่วง ขอให้สลายการชุมนุม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านทราบข้อมูลจากแกนนำ ยอมสลายการชุมนุมด้วยการช่วยกันเก็บกวาดขยะ และเดินทางไปรวมตัวกันที่ สภ.หนองบัว เพื่อรับประทานอาหารเย็น จำนวน 500 กล่องจาก รอง ผบ.ตร. เพื่อรอการปล่อยตัวแกนนำต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เสียใจ “เจจูแอร์” ไถลออกรันเวย์ สั่งตรวจสอบช่วยเหลือหากมีคนไทย

นายกฯ แสดงความเสียใจเหตุเครื่องบินสายการบินเจจูแอร์ ไถลออกรันเวย์ไฟลุกท่วม พร้อมสั่งตรวจสอบช่วยเหลือหากมีคนไทย

28 dead as jet carrying 181 people crashes while landing in S. Korea's Muan

เครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปเกาหลีใต้ชนหลังออกนอกรันเวย์

โซล 29 ธ.ค.- เครื่องบินของสายการบินเจจูแอร์ (Jeju Air) ที่เดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังเกาหลีใต้ ลื่นไถลออกนอกทางวิ่งหรือรันเวย์ และชนกับรั้วกั้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน มีผู้เสียชีวิตแล้ว 28 คน เว็บไซต์สำนักข่าวยอนฮับของทางการเกาหลีใต้ รายงานว่า ตำรวจและนักดับเพลิงในเกาหลีใต้แจ้งว่า เหตุเกิดเมื่อเวลา 09.07 น. วันนี้ตามเวลาเกาหลีใต้ ตรงกับเวลา 07.07 น. วันนี้ตามเวลาไทย เมื่อเครื่องบินของเจจูแอร์ เที่ยวบิน 7ซี2216 (7C2216) นำผู้โดยสาร 175 คน ลูกเรือ 6 คน เดินทางออกจากกรุงเทพฯ ไปลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน ห่างจากกรุงโซลไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 288 กิโลเมตร เครื่องบินลื่นไถลออกนอกรันเวย์และชนกับรั้วกั้น เป็นเหตุให้เครื่องบินได้รับความเสียหายอย่างหนักและเกิดไฟไหม้ เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 28 คน ทั้งหมดนั่งอยู่ที่ส่วนท้ายของเครื่องบิน คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก ผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นชาวเกาหลีใต้ที่เดินทางกลับจากไทย มีเพียง 2 คนที่เป็นชาวไทย เจ้าหน้าที่สามารถดับไฟที่ไหม้ครื่องบินได้แล้ว และกำลังปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย รวมทั้งเริ่มการสืบสวนสอบสวน ณ […]

อุณหภูมิลดอีก 1-3 องศาฯ “อีสาน-เหนือ” อากาศเย็นถึงหนาว

กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบน อุณหภูมิลดลงอีก 1-3 องศาฯ กับมีลมแรง อีสานและเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน อากาศเย็น ภาคใต้ฝนเพิ่ม ตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

เกาะติดทุกโหมดการเดินทางเทศกาลปีใหม่ 2568

เกาะติดทุกโหมดการเดินทางขาออกเทศกาลปีใหม่ 2568 ถนนทุกสาย และระบบขนส่งสาธารณะทุกโหมด มีประชาชนทะลักเดินทางตั้งแต่เย็นวานนี้ (27 ธ.ค.) ภาพรวมเป็นอย่างไร พูดคุยกับนายวิทยา ยาม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปลอดภัยคมนาคม.