fbpx

แบงก์เล็งเก็บค่าธรรมเนียมกดเงินสดตู้ ATM-ถอนเคาน์เตอร์

สำนักข่าวไทย 6 ธ.ค. – สมาคมธนาคารไทยยังไม่สรุป กรณีเก็บค่าธรรมเนียมถอนเงินหน้าเคาน์เตอร์และที่ตู้ ATM ย้ำประชาชนอย่าเพิ่งตื่นตระหนก





ประเด็นร้อนในแวดวงการเงินที่มีการพูดถึงกันมาก และเป็นกระแสวิจารณ์ คือข่าวที่แบงก์พาณิชย์ หารือกับธนาคารแห่งประเทศ (ธปท.) เพื่อขอเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการถอนเงินสดหน้าเคาน์เตอร์ และเครื่องเอทีเอ็ม ซึ่งแม้ว่าจะยังไม่มีข้อสรุป แต่แน่นอนกระทบต่อความรู้สึกประชาชน และทำให้ประชาชนเกิดความสับสนว่า จะมีการเก็บค่าธรรมเนียมจริงหรือไม่


ปัจจุบัน ค่าธรรมเนียมการกดเงินสดจากตู้ ATM เป็นดังนี้

1) การถอนเงินต่างธนาคารในเขต และสอบถามยอดเงิน ฟรี 4 รายการแรกของเดือน ตั้งแต่รายการที่ 5 เป็นต้นไป รายการละ 10 บาท

2) การถอนเงินต่างธนาคารข้ามเขต เสียเงิน 20 บาทต่อรายการ

3) การถอนเงินธนาคารเดียวกันข้ามเขต เสียเงิน 15 บาทต่อรายการ

4) ถอนเงินต่างประเทศ จะเสียค่าธรรมเนียม 100 บาท/รายการ และคิดค่าความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ไม่เกิน 2.5 %

ประเด็นร้อนนี้ ต้องสอบถามจากประธานสมาคมธนาคารไทย คุณปรีดี ดาวฉาย ซึ่งตอบคำถามในการประชุม กกร.ว่ายอมรับว่าพอมีข่าวเรื่องนี้ออกไป ทำให้ประชาชนเข้าใจผิด คลาดเคลื่อน และสับสน ไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนก เพราะเรื่องที่ยังไม่จบ เป็นเรื่องใหญ่ที่รอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย ประมวลข้อมูลต่างๆ ออกมาก่อน ตอนนี้แบงก์ยังไม่เก็บค่าธรรมเนียมถอนเงินสดจากหน้าเคาน์เตอร์

คุณปรีดี บอกว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยจะเป็นผู้ประมวลผลทั้งหมด ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเรื่องนี้ไปที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้รับคำชี้แจงจากคุณจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการสายยุทธศาสตร์และความสัมพันธ์องค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ว่า ธปท.ยังไม่ได้รับข้อมูลโดยตรงจากทางสมาคมธนาคารไทย โดยทราบว่าเรื่องดังกล่าวมีการหารือกันภายในสมาคมธนาคารไทยจริง ซึ่งหากสมาคมธนาคารไทยเสนอมา ธปท.จะพิจารณาถึงความพร้อมของบริการการเงิน ทั้งในส่วนกลางและในส่วนภูมิภาค รวมถึงโอกาสของการเข้าถึงการบริการทางการเงินของประชาชน ที่ต้องเป็นไปอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง เพราะธนาคารจะต้องมีทางเลือกในการใช้บริการสำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับการใช้เทคโนโลยีด้วย อย่างไรก็ตามการดำเนินการเรื่องนี้ ธปท.ยืนยันจะต้องทำการประเมินผลกระทบให้รอบคอบก่อน

คำว่าโอกาสของการเข้าถึงการบริการทางการเงินของประชาชน ที่ต้องเป็นไปอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง อันนี้เป็นสิ่งสำคัญ เพราะที่ผ่านมาแบงก์ไม่เคยมีการเก็บค่าธรรมเนียมการถอนเงินจากเคาน์เตอร์มาก่อน และประชาชนมองว่า นี่คือบริการขั้นพื้นฐานของแบงก์ ประชาชนฝากเงินให้แบงก์เอาไปปล่อยกู้ต่อ ได้ดอกเบี้ยก็ต่ำ ถ้าหากต้องให้มาเสียค่าธรรมเนียมการถอนเงินของตัวเองอีก เชื่อว่าลูกค้าคงรับไม่ได้

แม้แบงก์จะให้เหตุผลว่ามีต้นทุนค่าใช้จ่ายที่สูงในการบริหารเงินสด ต้นทุน ATM ต้นทุนการขนเงินสดไปใส่ตู้ ATM หรือ บอกว่าลูกค้าได้ยกเว้นค่าธรรมเนียมโอนเงินและชำระเงินผ่านช่องทางดิจิทัลแบงกิ้งไปแล้ว ทำให้รายได้ค่าธรรมเนียมดิจิทัลลดวูบ แบงก์ก็ต้องเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากบริการอื่นๆ แทนก็ตาม แต่อย่าลืมว่าคนไทยอีกจำนวนไม่น้อย ที่ยังไม่ได้ใช้ดิจิทัลแบงก์กิ้ง ดังนั้นการบริการผ่านเคาน์เตอร์ยังมีความจำเป็นมาก และเชื่อว่าหากแบงก์ไหนเก็บค่าธรรมเนียมก่อน แบงก์นั้นอาจเสียลูกค้า ไปให้แบงก์อื่นแน่นอน .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

คลี่ปมฆ่าโหดหนุ่มไทใหญ่ ทิ้งศพเชียงใหม่

ขมวดปมเข้ามาเรื่อยๆ สำหรับคดีฆ่าโหดใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวหนุ่มไทใหญ่ลากขึ้นรถนำศพไปทิ้งที่ อ.แม่ริม เชียงใหม่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่แกะรอยกล้องวงจรปิด พบรถที่กลุ่มคนร้ายใช้ขนศพ จ่อออกหมายจับอย่างน้อย 3 คน คาดปมสังหารจากเรื่องทะเลาะวิวาท

ไฟไหม้โกดังพระราม 2 เหตุร้อนจัด สารเคมีติดไฟเอง

กระทรวงอุตสาหกรรม เผยสาเหตุไฟไหม้โกดังย่านพระราม 2 มาจากอากาศร้อนจัด ทำให้สารไทโอยูเรียไดออกไซด์ติดไฟเอง เตือนสถานประกอบการให้แยกสารเคมีที่ติดไฟเองได้หรือสามารถทำปฏิกิริยาออกจากกัน หวั่นเกิดเหตุซ้ำ เพราะอากาศยังคงร้อนจัดต่อเนื่อง

ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย ปรับลดดอกเบี้ย MRR

นายกฯ ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย หั่นดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME