กทม.4 ธ.ค.-ตำรวจจับกุมขบวนการรับจ้างจดทะเบียนสมรส ขออยู่ในราชอาณาจักรทั้งชาวอินเดียและหญิงไทยร่วมขบวนการ
พลตำรวจโทสุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สอบปากคำ ชาวอินเดีย 10 คน และหญิงไทยรับจ้างจดทะเบียน 11 คน เนื่องจากก่อนหน้านี้ มีการตรวจสอบคนต่างด้าวชาวอินเดีย ที่มายื่นขออยู่ต่อในราชอาณาจักรไทยเป็นการชั่วคราว โดยพบมีการใช้เอกสารปลอม ในการยื่นขออยู่ต่อ จึงสืบสวนขยายผล ต่อมาศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องรวม 60 หมายจับ ประกอบด้วย ชาวอินเดีย 30 หมายจับหญิงไทย 30 หมายจับ ในข้อหาปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอมร่วมกัน แจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย
ผบช.สตม กล่าวว่า สำหรับขบวนการดังกล่าว มีชาวอินเดียร่วมกับหญิงคนไทย มีพฤติการณ์ว่าจ้างหญิงชาวไทยจดทะเบียนสมรสในลักษณะของนิติกรรมอำพราง เพียงให้นายทะเบียนสมรสโดยไม่มีความสัมพันธ์แต่อย่างใด และใช้หลักฐานดังกล่าวในการยื่นขออนุญาตอยู่ต่อในราชอาณาจักรไทย ยัง ปลอมแปลงเอกสารสำคัญต่างๆเพื่อนำมายื่นต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ โดยมีชาวไทยสมรู้ร่วมคิดวางแผนตั้งแต่รับจ้างจดทะเบียนสมรสจนถึงขั้นตอนการยื่นเอกสารปลอมต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง โดยชาวอินเดียกลุ่มนี้ส่วนใหญ่มีอาชีพปล่อยเงินกู้นอกระบบและจำหน่ายสินค้าเงินผ่อนประเภทเสื้อผ้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอาศัยความเดือดร้อนทางการเงินของหญิงไทยชักชวนให้รับจ้างจดทะเบียนสมรสกับตนเองมีค่าตอบแทนตั้งแต่ 500 – 5,000 บาท
เบื้องต้นสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองดำเนินการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร และดำเนินคดีกับชาวอินเดีย พร้อมหญิงไทยที่รับจ้างจดทะเบียนสมรส พร้อมประสานกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยเพิกถอนทะเบียนสมรส ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการกล่าวทั้งหมด
ขณะเดียวกัน ยังร่วมกับ ป.ป.ง. คืนเงินให้กับผู้เสียหายจากเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์และโรแมนซ์สแกม เพิ่มเติมอีก 2 ราย รวมเป็นเงินกว่า 190,000 บาท พลตำรวจโทสุรเชษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ ตำรวจสามารถสรุปสำนวนคดีเกี่ยวกับการกระทำผิดทั้งสองส่วนส่งอัยการแล้วกว่า 300 เรื่องจากกว่า 500 เรื่อง โดยยังเหลือผู้ต้องหาที่อยู่นอกราชอาณาจักร ที่ประเทศกัมพูชาอีก 24 คน ซึ่งภายในต้นปีหน้า ทางการกัมพูชา จะส่งตัวผู้ต้องหาที่เหลือทั้งหมดให้ไทยต่อไป.-สำนักข่าวไทย