กทม.1 ธ.ค.- เลขาฯศาลยุติธรรม รับ แจ้งความแกนนำค้านสร้างบ้านพัก เพื่อปกป้องสิทธิผู้พิพากษาถูกละเมิด นำภาพ-ชื่อสกุล ติดประกาศเผยแพร่
ที่ห้องประชุมชั้น 12 สำนักงานศาลยุติธรรม ถ.รัชดาฯ นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ปิดการอบรมหลักสูตร ”พัฒนาสื่อมวลชนเพื่อการประชาสัมพันธ์ศาลยุติธรรมความรู้ทางกฎหมาย”
นายสารวุธ ตอบคำถามสื่อถึงความคืบหน้าการก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 แห่งใหม่ พร้อมอาคารที่พักอาศัยของผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 5 กับข้าราชการประจำศาล ทดแทนอาคารเดิมที่จะย้ายจากพื้นที่ราชพัสดุของกรมธนารักษ์ ป่าเชิงดอยสุเทพ ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ที่ก่อนหน้านี้มีปัญหาพื้นที่การก่อสร้างกระทั่งมีการเรียกว่าบ้านป่าแหว่ง ว่า หลังคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม (ก.บ.ศ.) มีมติเห็นชอบให้ย้ายอาคารที่ทำการและอาคารที่พักอาศัยฯโดยขอใช้ที่ดินของศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งสำนักงานศาลยุติธรรมได้ทำหนังสือแจ้งไปยังรัฐบาลและกระทรวงเกษตรฯ แล้ว ขณะนี้รอเพียงการแจ้งอนุญาตให้ใช้พื้นที่ของกระทรวงเกษตรฯ และการจัดสรรงบประมาณก่อสร้างที่ทำการและที่พักอาศัยใหม่ในพื้นที่ จ.เชียงราย ส่วนการแจ้งความกลับแกนนำผู้คัดค้านที่ต้องการให้รื้อถอนอาคารที่พักของผู้พิพากษาใน จ.เชียงใหม่ เชิงดอยสุเทพ หรือที่เรียกกันว่าบ้าน”ป่าแหว่ง” ได้นำภาพและรายชื่อของผู้พิพากษาในพื้นที่ดังกล่าวติดป้ายประกาศเผยแพร่ว่ากรณี นำชื่อผู้พิพากษาไปติดในที่สาธารณะในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เห็นว่าการกระทำดังกล่าวผิดต่อกฎหมาย ไม่สามารถทำได้เพราะผู้พิพากษาที่เข้าไปอยู่ในพื้นที่เหล่านั้น เป็นการเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ขณะที่บ้านพัก ถือเป็นบ้านพักของราชการไม่ใช่บ้านพักส่วนตัวของผู้พิพากษา การเข้าไปอยู่ในเขตบ้านพัก สร้างโดยถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ ดังนั้นหากบุคคลใดไปคุกคาม ละเมิดสิทธิของผู้พิพากษา สำนักงานศาลยุติธรรมมีหน้าที่ต้องคุ้มครองดูแลความปลอดภัยของผู้พิพากษาเหล่านี้ ขณะนี้มีผู้พิพากษาศาลยุติธรรมทั่วประเทศ 4,471 คน และบุคคลากรในศาลยุติธรรมทั่วประเทศ 12,974 คน โดยผู้พิพากษาเหล่านี้ต้องดูแลเพราะมีหน้าที่พิพากษาชี้ขาดคดี สำนักงานศาลยุติธรรมจึงมีหน้าที่ต้องดูแลความปลอดภัย ถ้าผู้พิพากษาอยู่ภายใต้ความหวาดกลัว กดดัน ประชาชนและสังคมก็จะได้รับผลกระทบโดยตรง หรือถ้าตัดสินคดีด้วยความกลัว ขาดอิสระ ความเป็นกลาง ที่สุดผลกระทบก็จะตกอยู่ที่ประชาชน ที่ผ่านมาสำนักงานศาลยุติธรรม ทำตามกฎหมายทุกกรณี เมื่อมีการคุกคามลักษณะเช่นนี้ เราก็จะดูแลดำเนินการอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าใครเป็นผู้กระทำ ก็ให้เป็นหน้าที่ของสำนักงานศาลยุติธรมที่จะดูแล
นายสราวุธ ย้ำว่า ผู้พิพากษาอยู่กันโดยถูกต้องทุกอย่าง ถ้าจะให้ย้ายออกจะให้ไปอยู่ที่ไหน ต้องจัดหาที่พักให้ ขอย้ำว่า ไม่ใช่การไปเที่ยวแต่ไปทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ดังนั้นเป็นหน้าที่หน่วยงานของรัฐที่จะดูแล ทั้งเรื่องที่พักอาศัยและความปลอดภัย และว่าตำรวจสืบทราบกี่รายก็จะดำเนินการตรามกฎหมายทุกราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับข้อหาที่มีการแจ้งดำเนินคดี คือ ข้อหาหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา และกระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวตอร์ฯ เป็นแกนนำกลุ่มเสียส่วนใหญ่ ไม่ใช่ประชาชนที่ร่วมแสดงความเห็น ทั้งนี้ มีรายงานว่า มีการแจ้งความดำเนินคดีไว้ทั้งในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และ สน.พหลโยธิน โดยมีการออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องมาให้ปากคำแล้ว.-สำนักข่าวไทย