ปมบุรุษไปรษณีย์ทิ้งจดหมาย กระทบไปรษณีย์ไทย

ปทุมธานี 29 พ.ย.- หลังโซเชียลมีเดียเผยแพร่ภาพจดหมายจำนวนมากถูกทิ้งไว้บริเวณข้างทาง ไม่ได้ส่งถึงมือผู้รับ ไปรษณีย์ไทยได้รายงานความคืบหน้า โดยดำเนินการตามกฎหมายและแจ้งความร้องทุกข์แล้ว ผู้กระทำความผิดสังกัดที่ทำการไปรษณีย์รังสิต โดยตัวอย่างเหตุการณ์เช่นนี้ ทำให้ผู้ใช้บริการมีมุมมองแตกต่างกันต่อการทำธุรกิจเช่นนี้ ที่มีการแข่งขันกันหลายราย ติดตามจากรายงาน


หลังโลกโซเชียลมีการแชร์ภาพจดหมายจำนวนมากถูกบุรุษไปรษณีย์โยนทิ้งไว้ ไม่นำส่งถึงยังผู้รับ กระทั่งไปรษณีย์ไทยออกหนังสือชี้แจงตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พบว่าผู้กระทำความผิดคือลูกจ้างเหมา สังกัดที่ทำการไปรษณีย์รังสิต เพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่กี่เดือน ถือเป็นการทำผิดร้ายแรง จึงมอบหมายให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามกฎหมาย และแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีแล้ว ไปรษณีย์ไทยยังชี้แจงว่า ได้นำจดหมายดังกล่าวส่งไปยังผู้รับปลายทางแล้ว


อย่างไรก็ตาม มีเสียงสะท้อนหลายแง่มุม ทีมข่าวลงพื้นที่สอบถามผู้ใช้บริการ ส่วนใหญ่ยังคงเลือกที่จะใช้บริการไปรษณีย์ไทย เพราะประหยัดและสะดวก


“บุรุษไปรษณีย์” เป็นกำลังสำคัญในการเข้าถึงประชาชนทุกพื้นที่ ปัจจุบันไปรษณีย์ไทยมีบุรุษไปรษณีย์กว่า 20,000 คน จากบุคลากรทั้งหมด 35,000 คน หรือคิดเป็นเกือบร้อยละ 60 ของบุคลากรทั้งหมด

กระแสนิยมซื้อสินค้าออนไลน์ เป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ธุรกิจโลจิสติกส์เติบโต โดยเฉพาะการขนส่งพัสดุรายย่อย คาดการณ์มูลค่าไม่ต่ำกว่า 27,000 ล้านบาท และมีอัตราเติบโตเฉลี่ยปีละ 10-20% นอกจากไปรษณีย์ไทย ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจแล้ว ยังมีคู่แข่งเป็นบริษัทเอกชนอีกหลายรายที่ให้บริการขนส่งสินค้าเช่นกัน

ผู้ค้าออนไลน์บอกว่า การเลือกส่งของจะใช้บริการไปรษณีย์ หรือบริษัทเอกชน ขึ้นอยู่กับลูกค้า ที่ส่วนใหญ่ยังเลือกวิธีส่งไปรษณีย์ แม้เอกชนบางรายจะส่งถึงเร็วกว่า แต่ก็มีค่าใช้จ่ายที่แพงกว่า

แต่ละวันมีพัสดุและไปรษณียภัณฑ์ต่างๆ เข้าสู่เส้นทางไปรษณีย์ไทยไม่ต่ำกว่า 8 ล้านชิ้น ขณะที่เลือกใช้บริษัทเอกชนอีกเป็นล้านๆ ชิ้น บางครั้งอาจหลีกเลี่ยงได้ยากที่จะเกิดความผิดพลาดขึ้น ซึ่งในยุคโซเชียลมีเดีย แม้ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อย แต่ข้อมูลข่าวสารที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว จะส่งผลกระทบต่อประชาชนที่จะเลือกหรือไม่เลือกใช้บริการ.-สำนักข่าวไทย

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย