“อสมท” ปรับยุทธศาสตร์ ปี 62 เน้นการสร้าง Data และความรู้แนวใหม่

รร.พาร์ค ไฮแอท เซ็นทรัล กรุงเทพฯ แอมบาสซี่  29 พ.ย.- “อสมท” ปรับยุทธศาสตร์ ปี 62 เน้นการสร้าง Data และความรู้แนวใหม่ พร้อมเปิดตัวพันธมิตรระดับโลก  Fast First ทีมข่าวพิเศษ Online และ C-Space เฟ้นหาผู้ผลิตรายใหม่ 


นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) แถลงยุทธศาสตร์ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ปี2562 ภายใต้แนวคิด MCOT: The Difference สร้างความต่าง โดยมีผู้บริหาร พิธีกร ผู้ประกาศข่าวจากสำนักข่าวไทย ไนน์เอ็นเตอร์เทน พิธีกรรายการต่างๆของช่อง9MCOT HD ผู้ผลิตรายการ และพันธมิตรผู้สนับสนุน เข้าร่วมงานจำนวนมาก 



กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานของ บมจ.อสมท ในปี 2562 ว่า อสมท กำหนดวิสัยทัศน์ใหม่  “สร้างการเข้าถึงข้อมูล อย่างเท่าเทียม เที่ยงตรง สร้างสรรค์ ทันสถานการณ์ อย่างชาญฉลาด” พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยให้สามารถเข้าถึงข้อมูล ข่าวสาร สาระความรู้ที่เป็นประโยชน์อย่างเท่าเทียม

สำหรับแผนยุทธศาสตร์ของ บมจ.อสมท ในปี 2562 ภายใต้แนวคิด MCOT: The Difference สร้างความต่าง โดยหลีกจากตลาดธุรกิจทีวีและวิทยุ มาเน้นการบูรณาการ content ที่มีในมือและพันธมิตร ไปสู่ธุรกิจ “ฐานข้อมูล” ที่รองรับความต้องการขององค์กรขนาดใหญ่ เช่น รัฐวิสาหกิจ บริษัทเอกชน ที่มิได้มุ่งหวัง แค่ทำข่าวหรือจำนวนสปอตโฆษณา แต่เป็นการแก้ปัญหาด้านการสื่อสารอย่างมีกลยุทธ์ พร้อมเทคโนโลยีสมัยใหม่ 

สำหรับในส่วนของ Platform Digital TV อสมท ได้ เสริมทัพความแข็งแกร่งด้านเนื้อหา ด้วยการ จับมือกับพันธมิตรระดับโลกนำเสนอเนื้อหาบันเทิงและสาระความรู้ที่เสริมความฉลาด BBC First: สร้างBrand block กับ Drama series ระดับโลก เช่น Luther, Press, MC Mafia Discovery 

science: สารคดีและวาไรตี้ สุดอลังการเกี่ยวกับความรู้นวัตกรรม, วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีการแพทย์ และอื่นๆ

Bloomberg business TV : จับมือกับ Bloomberg ในการผลิตรายการธุรกิจระดับโลก ทั้งในด้านสกู๊ปพิเศษ ข่าวการเงินและเศรษฐกิจระดับโลก ที่คนไทยต้องรู้ สัมภาษณ์พิเศษมหาเศรษฐีและนักธุรกิจชั้นนำ พร้อม Data ทางธุรกิจจากสถาบันวิจัยข้อมูลต่างๆ

โดยใช้กลยุทธ์ 3 ด้าน เพื่อสร้างความแตกต่าง คือ THE AUDIENCES จับกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน THE VIEWERS สื่อออนไลน์ที่ครอบคลุม THE PARTNERS จับมือกับพันธมิตรเพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจ 

1. THE AUDIENCES จับกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน โดยมุ่งกลุ่มเด็กและผู้ชมวัยทำงานที่มีอายุ 28 ปีขึ้นไป ที่ติดตามข่าวสารและสารคดีเป็นหลัก และเพื่อรักษาและขยายฐานกลุ่มเป้าหมาย บมจ.อสมท เตรียมนำเสนอรายการสาระบันเทิงจากผู้ผลิตระดับโลกอย่างสถานีโทรทัศน์ BBC ซึ่งเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่มีการนำซีรี่ส์ชั้นนำที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามมาแล้วในประเทศอังกฤษ มาออกอากาศบนหน้าจอฟรีทีวี ทั้งเรื่อง Luther, MC Mafia และ Press ขณะที่ช่องสารคดีชั้นนำระดับโลก อย่าง Discovery ส่งรายการสารคดีวิทยาศาสตร์ การทดลอง เทคโนโลยีสุดล้ำ ที่ดูสนุก เร้าใจ เข้าใจง่าย เช่น Street Science, All-American MAKERS และ MAN V Expert เป็นต้น และพบกับ Exclusive Content ข่าว และข้อมูลด้านเศรษฐกิจ จากความร่วมมือ (Collaboration) ระหว่าง บมจ.อสมท และ Bloomberg ช่องข่าวธุรกิจและการเงินระดับโลก ที่จะทำให้ทุกข้อมูลการลงทุนของผู้ชมแม่นยำขึ้น 

สำหรับแฟน ๆ รายการสารคดีสัตว์ อสมท ยังคงนำเอาหลากหลายสารคดีสัตว์ที่ชาวไทยชื่นชอบ จากผู้ผลิตรายการสารคดีสัตว์ชั้นนำอย่าง NHK ประเทศญี่ปุ่น มาให้ชมอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับรายการกีฬาระดับโลก จาก IMG อย่าง HONDA LPGA Thailand รายการแข่งขันกอล์ฟหญิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุด จะมีการถ่ายทอดสด 3 วันในช่วงวันที่ 20-23 ก.พ. 2562 จากสนามกอล์ฟสยามคันทรีคลับ พัทยา และ Reality Sport drama ครั้งแรกของไทย “The Coach : คนดันฝัน เปิดประสบการณ์ใหม่ของผู้ชมผ่านโค๊ชเช ผู้ฝึกสอนเทควันโด ระดับโลก ที่จะมาเป็นคนดำเนินเรื่อง พร้อม วิว เยาวภา และนักกีฬาทีมชาติ โดยการแข่งขันเทควันโด ผ่านทีวีและออนไลน์ในครั้งนี้ ผู้ชนะจะได้รางวัลเป็นเงินสดและได้รับเลือกให้ติดทีมชาติ ไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน กรุงโตเกียว ในปี 2020 อีกด้วย 

นอกจาก Content จากผู้ผลิตระดับโลกที่พร้อมเสิร์ฟให้กับผู้ชมแล้ว ความสำเร็จของรายการ ชัวร์ก่อนแชร์ ที่สร้างปรากฏการณ์การตรวจสอบข้อมูลบนโลก Online ไว้ จะถูกนำมาพัฒนาต่อยอด สู่กลุ่มเป้าหมายใหม่ คือ กลุ่มเด็กและเยาวชน ในรายการ SURE&SHARE KIDS ที่จะมาช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน และความฉลาดในการรับและส่งต่อข้อมูลข่าวสารให้กับเด็กและเยาวชน 

2. THE VIEWERS มุ่งกลุ่มผู้ชม ผู้ฟัง ที่ชื่นชอบการใช้สื่อออนไลน์ โดย อสมท พร้อมนำเสนอ Application ใหม่ล่าสุด “ฟังเพลิน” ที่รวบรวมคลื่นวิทยุ ทั้งในเครือ อสมท และวิทยุชุมชนต่าง ๆ ทั่วประเทศไว้ถึง 543 สถานี มีผู้ฟังวิทยุรวมกว่า 13 ล้านคนต่อเดือน ให้สามารถรับฟังได้ ใน Application เดียว “ฟังเพลิน” จึงเป็น Application วิทยุ online ที่ใหญ่ที่สุด มี Content วิทยุมากที่สุดในประเทศ “Talk Together” รายการ Talk show ของกูรูตัวจริง สไตล์ Hard Talk ที่ได้ 5 กูรูตัวจริง อย่าง สุทธิชัย หยุ่น  วีระ ธีรภัทร  ดร.การดี เลียวไพโรจน์  ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย และ วิสุทธิ์ คมวัชรพงศ์ มาร่วมกันวิเคราะห์ เจาะลึกข้อมูลข่าวสารแบบรอบด้าน บน Online Platform ถามสด ตอบตรง แบบ Uncensored 

นอกจากนี้ MCOT.NET ผนึกกำลังกับ CIBN (China International Broadcasting Network) พันธมิตรยักษ์ใหญ่จากประเทศจีน ที่พร้อมจะยกทัพ Content คุณภาพ มาให้ชาวไทยได้ชมกัน โดยผลิตcontent ที่มุ่งสร้างรายได้ ให้กับประเทศ ในด้านนวัฒนธรรม, ท่องเที่ยว, Food, เกษตรอินทรีย์, ผลิตภัณฑ์ชุมชน พร้อมพบกับรายการใหม่ “เที่ยวหาเรื่อง” รายการท่องเที่ยว บน Online Platform ที่จะพาเหล่า follower ไปเที่ยวทุกที่ ลุยทุกซอย ซอกแซกทุกเรื่อง ในสไตล์ของคน online ด้านธุรกิจไนน์เอ็นเตอร์เทน เตรียมยกระดับเป็น Power of Entertainment พร้อมก้าวสู่ความเป็นที่ 1 ของข่าวบันเทิงในทุก Platform ซึ่งที่ผ่านมาไนน์เอ็นเตอร์เทน เคยสร้างปรากฎการณ์ขึ้นแท่นข่าวบันเทิงออนไลน์ติดอันดับ 1 ใน 15 ของโลกมาแล้ว และ ไนน์เอ็นเตอร์เทน ยังเป็นช่องข่าวบันเทิงเพียงช่องเดียวที่เผยแพร่แบบ Exclusive บน Line TV อีกด้วย ส่วนสำนักข่าวไทยเตรียมเปิดตัว “Fast First” ทีมข่าวพิเศษ Online ที่จะรายงานข่าวให้ผู้ชมได้รับทราบแบบทันทุกสถานการณ์ ไม่เฉพาะบนหน้าจอโทรทัศน์อีกต่อไป 

3. THE PARTNERS อสมท จะจับมือกับพันธมิตรเพื่อสร้างโอกาสใหม่ทางธุรกิจ โดยจะเปิดให้ พันธมิตรรายใหม่ๆเข้ามาร่วมงานมากขึ้น ในโครงการ “C-SPACE” (Creative, Content and Communication) ด้วยการเปิดพื้นที่ให้ผู้ผลิตรายการและนักคิดรุ่นใหม่เสนอรายการใหม่ ๆ เพื่อต่อยอดผลงานไปยังตลาดต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นรายการเกี่ยวกับวัฒนธรรมไทย หรืออาหารไทย โดย อสมท จัดสรรงบประมาณในการผลิต Content กว่า100 ล้านบาท และเปิดตลาดในต่างประเทศร่วมกัน พร้อมทั้งเป็นตัวกลางเชื่อมโยงให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SMEs Bank)ได้อีกด้วย ซึ่งจะทำให้เกิดชุมชนคนผลิต Content ที่เป็น SME เพิ่มขึ้น ผู้สนใจสามารถส่งผลงานทาง E-mail cspace @mcot.net หรือโทร 02 201 6458 ในรูปแบบPowerpoint /Keynote/PDF เริ่มส่งผลงานตั้งแต่ ธันวาคม 2561 – มกราคม 2562 

นอกจากนี้ อสมท ยังเตรียมเปิดทดลองบริการ Broadband ใหม่ ล่าสุด Ving MCOT บนคลื่น 2600 VDO Streaming ที่ทะลุทะลวงและส่งData บันเทิงแบบบอกรับสมาชิก ซึ่งจะทำให้การสื่อสารรวดเร็วและสนุกขึ้น โดยจะเริ่มทดลองออกอากาศด้วยความร่วมมือ ของ AIS และ True ในการใช้โครงข่ายร่วมกัน 30 Site ในต้นเดือน ธ.ค. นี้ ซึ่งหากการทดลองของสัญญาณความคมชัดเป็นไปด้วยดี ก็จะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ต่อไป โดยในช่วงนี้ไปจนถึง ก.พ. 2562 จะเปิดให้ผู้ผลิตอิสระทั้งรายเล็กและรายใหญ่ ที่มีความสนใจสามารถนำ Content ของตัวเองมาร่วมทดลองออกอากาศบนคลื่น 2600 MHz ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ลั่นพร้อมใช้สิทธิปกป้องกำลังพล-ปรับแผนลาดตระเวน

12 ส.ค.- “แม่ทัพภาค2” ชี้เขมรแอบลอบวางทุ่นระเบิด ละเมิดเงื่อนไขหยุดยิง หวังยั่วยุ พร้อมใช้สิทธิปกป้องคุ้มครองกำลังพล เป็นเรื่องหน้างานไม่เกี่ยวเจรจา เชื่อเขมรไม่ยอมรับตามเงื่อนไขที่ไทยเสนอ เล็งใช้กล้องวงจรปิด ปรับแผนการลาดตระเวน เผยรายงานรัฐบาล-ผบ.ทบ.แล้ว จ่อประท้วงระดับสากล เมื่อวันที่ 12 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่ทหารพราน ร้อย.ทพ.2610 เหยียบกับระเบิดระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสูญเสียขาซ้าย 1 นาย คือ ส.อ.ธีรพล เพียขันที ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว ซึ่งเหตุเกิดในจุดแนววางรั้วลวดหนามทางด้านทิศตะวันตก ถ้าหันหน้าเข้าเขมรจะอยู่ฝั่งขวาของตัวปราสาท และห่างจากตัวปราสาทประมาณ 1 กิโลเมตร เรียกว่าช่องจุ๊บตาโมก สันนิษฐานว่าเขมรลักลอบมาวางระกับเบิดช่วงที่ถอนกำลังทหารออกไป ซึ่งวันนี้ทหารไปตรวจสอบแนววางลวดหนาม บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตแดนไทย เป็นเส้นทางที่ใช้ลาดตระเวนประจำอยู่ในฝั่งไทยอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นการยั่วยุ ผิดเงื่อนไขการหยุดยิง เพราะการวางทุ่นระเบิด ถือเป็นการยิงเหมือนกัน เราจะมีมาตรการตอบโต้ และรายงานให้รัฐบาลรับทราบตามขั้นตอนแล้ว หลังจากนี้จะนำไปสู่ขั้นตอนการประท้วงในระดับสากล พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ […]

เฉลิมพระเกียรติพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

12 ส.ค. – ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 วันนี้เวลา 12.00 น. ณ ท้องสนามหลวง กองทัพบก โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ ยิงสลุตหลวงจำนวน 21 นัด เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 โดยกองร้อยปืนใหญ่ยิงสลุต ใช้ปืนใหญ่เบากระสุนวิถีราบ แบบ 80 ขนาด 75 มิลลิเมตร จำนวน 4 กระบอก ทำการยิงตามจังหวะของเพลงสรรเสริญพระบารมี จำนวน 21 นัด จังหวะ 5 วินาที ทีละกระบอก นับรอบจากขวาไปซ้าย ใช้เวลายิงทั้งหมด 1 นาที 40 […]

ทบ.เผยหากสถานการณ์บีบบังคับ อาจต้องใช้สิทธิป้องกันตนเอง

12 ส.ค.- ทบ.ชี้กัมพูชาลอบวางทุ่นระเบิดคุกคามต่อเนื่อง ไม่สนผิดอนุสัญญาออตตาวา โฆษก ทบ.เผยหากสถานการณ์บีบบังคับ กองทัพอาจจำเป็นต้องใช้สิทธิป้องกันตนเองตามหลักสากล พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 09.10 น. สิบเอก ธีรพล เพียขันที สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 2610 พร้อมกำลังพลรวม 7 นาย ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนตามแนวชายแดนไทย บนเส้นทางประจำ ห่างจากปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ประมาณ 1 กิโลเมตร ระหว่างปฏิบัติภารกิจ สิบเอก ธีรพล ได้เหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่ฝ่ายกัมพูชาลอบวางไว้ ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณข้อเท้าซ้าย ปัจจุบันได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลพนมดงรัก อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว เหตุการณ์นี้เป็นหลักฐานชัดเจนว่าฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง และไม่เคารพต่อกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งห้ามใช้และวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลทุกชนิด นับเป็นการลอบโจมตีที่มีเป้าหมายต่อกำลังพลฝ่ายไทยโดยตรง และเกิดขึ้นในเขตแดนไทย ยิ่งไปกว่านั้น เหตุลักษณะเดียวกันนี้เคยเกิดขึ้นหลายครั้งในพื้นที่ชายแดน สะท้อนถึงเจตนาร้ายและพฤติกรรมต่อเนื่องของฝ่ายกัมพูชาในการคุกคามฝ่ายไทย และละเมิดบูรณภาพแห่งดินแดนไทย สวนทางกับข้อตกลงหยุดยิงระหว่างประเทศในการประชุม GBC ที่ผ่านมา จึงเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า […]

ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดขณะลาดตระเวน สูญเสียขาอีก 1 นาย

12 ส.ค.- ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิด ขณะลาดตระเวนพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม หลังรั้วลวดหนามฝั่งไทย คาดทหารเขมรล่าถอยแล้วฝังทุ่นระเบิดไว้ เมื่อเวลา 09.10 น. รายงานข่าวจากกองทัพพื้นที่สองเปิดเผยว่า ได้เกิดเหตุทหารพราน 2610 เหยียบกับระเบิดขณะทำการลาดตระเวนบริเวณฐานจุ๊บตาโมก ฝั่งตะวันตกของปราสาทตาเมือนธม ซึ่งอยู่ในแนวรั้วลวดหนามของฝั่งประเทศไทย บริเวณพิกัด R51 มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย ทราบชื่อ ส.อ.ธีรพล เพียขันที กรุ๊ปเลือด AB ได้รับบาดเจ็บขาซ้ายขาด ขณะนี้กำลังนำส่งโรงพยาบาล ทั้งนี้ คาดว่าหลังจากเหตุปะทะกันทางทหารกัมพูชาได้ล่าถอยและฝั่งทุ่นระเบิดไว้ก่อนออกนอกพื้นที่เขตประเทศไทย -สำนักข่าวไทย