อ้างไฟแนนซ์บุกยึดรถก่อนทำร้าย

กระบี่ 27 พ.ย.-(27 พ.ย.61) มีการแชร์คลิปกันสนั่นโลกโซเชียล ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า “Watcharin Detsri”  ได้โพสต์เหตุการณ์ ที่กลุ่มชายฉกรรจ์ 7-8 คน อ้างว่าเป็นพนักงานจากบริษัทไฟแนนซ์รุมทำร้ายชายคนหนึ่งเพื่อยึดรถกระบะ ต่อหน้าภรรยา แม่ และลูกวัยขวบเศษ โดยกลุ่มชายฉกรรจ์ได้พากันรุมล็อกคอ และกระชากตัวชายเจ้าของรถให้ลงจากรถ โดยภรรยาได้ถ่ายภาพวีดีโอเหตุการณ์ไว้ตลอด   


ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อนายวัชรินทร์ เดชศรี อายุ 34 ปี อาชีพทำสวนอยู่บ้านเลขที่ 276 หมู่ 4 ต.เขาเขน อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ ซึ่งเป็นผู้ใช้ เฟซบุ๊ก “Watcharin Detsri” รับว่าเป็นชายเจ้าของรถที่ปรากฏในคลิป โดยเจ้าตัว เล่าให้ฟังว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 พ.ย. ขณะที่ตนเองขับรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า ตอนเดียว สีขาว หมายเลขทะเบียน บฉ 6258 พังงา พาภรรยา ลูกชายวัยขวบเศษและแม่ มาซื้อของที่ห้างแห่งหนึ่งในตัวเมืองกระบี่ ขณะนำรถจะเข้าจอดที่ลานจอดรถ ก็มีรถมาจอดปิดหัวปิดท้าย ล้อมรอบรถตนเองประมาณ 4 คัน จากนั้นมีชายฉกรรจ์ 8-10 คน ลงมาล้อมรถไว้ ไม่ทราบว่าเป็นใคร จึงเกิดการพูดจาโต้เถียงกันขึ้น ชายคนหนึ่งในกลุ่มก็บอกว่าจะมายึดรถ จากนั้นมีชายคนหนึ่ง เชื่อว่าน่าจะเป็นหัวหน้าทีม เดินเข้ามาพูดจาต่อว่าบอกว่าตนเองหาเรื่องลูกน้องของชายคนดังกล่าว และผลักตนเอง ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ชุลมุน มีคนเข้ามาล็อกคอ แล้วแย่งดึงกุญแจรถ โดยระหว่างชุลมุนรู้สึกว่ามีมือมาชกเข้าที่ใบหน้า 2-3 ครั้ง  จนได้รับบาดเจ็บ จากนั้นชายกลุ่มดังกล่าวก็กระจายกันออกไป โดยยึดกุญแจรถของตนเองไปด้วย ท่ามกลางความตกตะลึงของคนในครอบครัว จากนั้นก็ได้แจ้งญาติช่วยกันนำส่งโรงพยาบาล รักษาตัวอยู่หลายวัน เนื่องจากคอเคล็ด และช้ำตามตัว


นายวัชรินทร์ เล่าอีกว่าหลังออกจาก รพ.ตนเองจึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจ ก่อนที่กลุ่มชายฉกรรจ์จะยอมนำกุญแจมาคืนให้ แล้วบอกว่าจะไม่ยึดรถตนเองแล้ว ให้เรื่องจบๆไปก่อน แต่ตนเองยอมรับพฤติกรรมดังกล่าวไม่ได้ จึงเข้าแจ้งความไว้ที่สภ.เมืองกระบี่ แต่จนถึงบัดนี้คดีก็ยังไม่คืบหน้า เพราะก่อนนี้มีคนเป็นนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่งพยายามจะติดต่อมาขอให้ตนเองถอนแจ้งความ 


นายวัชรินทร์ ยอมรับว่ารถขาดการผ่อนชำระจริง เนื่องจากรายได้ในช่วงหลังไม่เพียงพอ จนกระทั่งบริษัทฟ้องศาล และศาลสั่งให้ชำระยอดเงินที่ค้างอยู่ประมาณ 5 แสนบาทเศษ หากไม่สามารถชำระได้ ก็ให้คืนรถให้ทางบริษัท หลังจากนั้นประมาณเดือนกันยายนที่ผ่านมา ตนเองก็พยายามเจรจาไกล่เกลี่ยกับบริษัท เนื่องจากตนเองจำเป็นต้องใช้รถในการทำงาน โดยรับปากว่าจะเร่งหาเงินจำนวน 5 แสนบาทเศษ มาจ่ายให้ทางบริษัทภายใน 3 เดือน ซึ่งตอนนี้ตนเองใกล้จะได้เงินครบแล้ว ซึ่งหากทางบริษัทแจ้งให้ทราบว่าจะต้องยึดรถ แล้วพนักงานมาแสดงตัวให้ชัดเจน พูดจากันดีๆ ตนเองก็ยอมรับ แต่กลับแสดงพฤติกรรมที่ป่าเถื่อนรุนแรง จึงเห็นว่าไม่เหมาะสม อยากให้ตำรวจเร่งทำคดีนี้ให้ด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

เรือใบอิตาลีที่สวยงามที่สุดในโลกเดินทางถึงภูเก็ตแล้ว

ภูเก็ตคึกคัก เรือใบอิตาลีที่ขึ้นชื่อว่างดงามที่สุดลำหนึ่งของโลก ออกเดินทางมาแล้วรอบโลก ได้เข้าจอดเทียบท่าจังหวัดภูเก็ต โดยมีทัพเรือภาคที่ 3 ให้การต้อนรับทหารเรืออิตาลีกว่า 150 นาย อย่างอบอุ่นพร้อมเปิดให้ประชาชนขึ้นชมเรือฟรีได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (6 พ.ย.)

พระเปย์สีกา ช่องโหว่ผลประโยชน์ในดงขมิ้น

รองเจ้าอาวาสวัดชื่อดังแห่งหนึ่งในมหาสารคาม ขอลาสิกขากลางดึก หลังถูกแฉ เป็นพระปลัดใจป๋า เปย์สีกาไม่อั้น ขณะที่รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สั่งตรวจสอบว่า เป็นเงินส่วนตัว หรือ เงินวัด เพราะจะมีความผิดแตกต่างกัน

“สันธนะ” เปิดใจหลังเคลียร์ใจ “ชูวิทย์” กลับไทยขึ้นศาล

“สันธนะ” เผย นอนคิดมา 1 คืนเริ่มใจอ่อนรับคำขอโทษ “ชูวิทย์” รับรู้ถึงความจริงใจ แต่คดีอาญาถอนฟ้องไม่ได้ ต้องปล่อยไปตามกฎหมาย