กรุงเทพฯ 8 ก.ย.- ตำรวจท่องเที่ยวร่วม สน.วัดพระยาไกร เข้าช่วยเหลือนักธุรกิจชาวจีนถูกแก๊งมาเฟียชาวจีนกักขัง หลังหลอกไปเล่นการพนันฝั่งปอยเปต จนเป็นหนี้หลายล้าน ก่อนจะโทรกลับไปจีนขู่ญาติให้ส่งเงินมาแลกกับอิสรภาพ
นายโจ้ จุน หยง นายเหลียง จื่อ หวิง และนายซุย ซื่อ เหว่ย ถูกตำรวจท่องเที่ยวและฝ่ายสืบสวน สน.วัดพระยาไกร จับกุม หลังจากนางสาวเจี้ยนหลงนาเข้าร้องทุกข์ว่านายเจี้ยน เตี้ยน หมิง บิดา และเป็นนักธุรกิจ ได้เดินทางมาประเทศไทยเพื่อติดต่อธุรกิจกับคนจีนในประเทศไทย ตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 ส.ค.59 แต่ขาดการติดต่อไป เกรงว่าจะได้รับอันตราย
นางสาวเจี้ยนหลงนายังให้การด้วยว่า หลังบิดาหายตัวไป คนร้ายได้โทรศัพท์ไปหาเธอที่ประเทศจีน แล้วให้เธอโอนเงินเพื่อไถ่ตัวพ่อเธอจำนวน 300,000 หยวน หรือประมาณ 1,500,000 บาท แต่เธอโอนไปให้จำนวน 140,000 หยวน หรือประมาณ 700,000 บาท ตนเห็นว่าถูกกรรโชกทรัพย์ จึงเดินทางมาประเทศไทย และเข้าแจ้งความที่ สน.วัดพระยาไกร เมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา จากการสืบสวนพบว่ากลุ่มชาวจีนต้องสงสัยพักอยู่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านถนนเจริญกรุง จึงเข้าตรวจค้นห้องพักโรงแรม และพบตัวนายเจี้ยน เตี้ยน หมิง ถูกกักตัวอยู่ด้วย
จากการสอบสวนนายเจี้ยนบอกว่าถูกหลอกพาไปเล่นการพนันที่ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา จนเสียเงิน แล้วกลุ่มคนร้ายก็โทรศัพท์ไปขอเงินลูกสาวอีก เมื่อตำรวจไทยช่วยได้รู้สึกดีใจมาก ขอบคุณตำรวจไทยที่ดูแลช่วยเหลืออย่างดี ส่วนคนร้ายทั้งสามยังให้การปฏิเสธ
ด้าน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.ทท. กล่าวว่า ตามนโยบายของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ที่ให้สืบสวนจับกุมคดีที่เกี่ยวข้องกับประชาคมอาเซียน และคดีที่เกี่ยวข้องกับภาพลักษณ์ รวมทั้งความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยวอย่างจริงจัง ซึ่งคดีนี้มีลักษณะแก๊งมาเฟียชาวจีน ดำเนินการชักชวนเพื่อนร่วมชาติเดียวกันมาเล่นบ่อนการพนันกาสิโนที่ประเทศกัมพูชา แล้วหลอกเหยื่อจนเป็นหนี้หลายล้าน แล้วจะโทรไปหาญาติเหยื่อกรรโชกทรัพย์เพื่อแลกกับอิสรภาพของเหยื่อ.-สำนักข่าวไทย