ทำเนียบฯ 26 พ.ย. – ครม.ไฟเขียวส่งมอบรถไฟฟ้าสีเขียว “แบริ่ง – สมุทรปราการ” และ “หมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต” ให้ กทม. มั่นใจพร้อมเปิดให้บริการธันวาคมนี้
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้เปลี่ยนผู้รับผิดชอบโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต (ไม่รวมอาคารจอดแล้วจร) จากเดิมการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เป็นกรุงเทพมหานคร (กทม.) ซึ่งเป็นการดำเนินการตามมติคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบกและได้มีการหารือกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ มาตั้งแต่ปี 2559
ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงผู้รับผิดชอบโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ และหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคตดังกล่าว ทำให้การบริหารจัดการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นเอกภาพมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับกรณี รฟม. เป็นหน่วยงานบริหารจัดการ เนื่องจากปัจจุบัน กทม.เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบการบริหารจัดการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต – แบริ่ง โดยมีบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสเป็นผู้รับสัมปทานการเดินรถเส้นทางดังกล่าว ทั้งนี้ เมื่อมีการจำหน่ายทรัพย์สินครั้งนี้ กทม.จะรับผิดชอบโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ตั้งแต่ช่วงคูคต – สมุทรปราการ รวมทั้งสิ้น 47 สถานี ระยะทาง 55.95 กิโลเมตร
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวปัจจุบันอยู่ในความรับผิดชอบของกรุงเทพมหานคร ซึ่งได้ให้สัมปทานแก่เอกชนเป็นผู้ลงทุนทั้งหมด รวมถึงการบริหารจัดการเดินรถ และได้รับสิทธิ์เก็บค่าโดยสารตลอดอายุสัมปทานเป็นเวลา 30 ปี (ครบกำหนดสัญญา พ.ศ. 2572) สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต และแบริ่ง – สมุทรปราการ ซึ่ง รฟม.เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างโครงการฯ โดยช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ มีความพร้อมและจะเปิดให้บริการเดินรถวันที่ 6 ธันวาคม 2561 ส่วนช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าจะเสร็จเดือนเมษายน 2562 ดังนั้น เพื่อให้โครงการส่วนต่อขยายดังกล่าวเชื่อมต่อการเดินทางจากกรุงเทพมหานครถึงปริมณฑล โดยเชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเดิมที่กรุงเทพมหานครเป็นผู้รับผิดชอบ คณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบกจึงได้มีมติเห็นชอบหลักการให้กรุงเทพมหานครเป็นผู้เดินรถส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต
ทั้งนี้ ในการเปลี่ยนผู้รับผิดชอบโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต จากเดิม รฟม.เป็นกรุงเทพมหานครจะต้องมีการดำเนินการโอนทรัพย์สินและหนี้สินของ รฟม.ให้กรุงเทพมหานคร ซึ่งการดำเนินการโอนทรัพย์สินและหนี้สินจะทำให้กรุงเทพมหานครมีภาระค่าใช้จ่ายเป็นเงิน 51,785.37 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่างานโครงสร้างพื้นฐาน วงเงินไม่เกิน 44,429 ล้านบาท และค่าชดใช้เงินค่าจัดกรรมสิทธิ์และดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมเงินกู้ของค่างานโครงสร้างพื้นฐานที่สำนักงบประมาณได้จัดสรรงบประมาณเพื่อชำระไปแล้ว วงเงินไม่เกิน 7,356.37 ล้านบาท ซึ่งสภากรุงเทพมหานครได้ออกข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องการกู้เงินเพื่อใช้ในการรับโอนทรัพย์สินและหนี้สินของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวฯ 51,785.37 ล้านบาท เรียบร้อยแล้ว ดังนั้น ครั้งนี้กรุงเทพมหานครจึงได้เสนอขอความเห็นชอบต่อคณะรัฐมนตรีกู้เงินจำนวนดังกล่าวต่อจากกระทรวงการคลังเพื่อใช้ในการรับโอนทรัพย์สินและหนี้สินของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวฯ . – สำนักข่าวไทย
