สำนักงานกกต. 23 พ.ย.-เพื่อไทยร้องกกต.แบ่งเขตเลือกตั้งส.ส. ระบุเอื้อประโยชน์บางพรรค ไม่ยึดม.27 กฎหมายเลือกตั้งส.ส. แนะเปิดข้อมูลผู้ร้อง เหตุการเปลี่ยนแปลงรูปแบบเขตเลือกตั้ง
ผู้แทนพรรคการเมืองนำโดยนายสามารถ แก้วมีชัย อดีตส.ส. เชียงราย นายวิชาญ มีนชัยนันท์ อดีตส.ส. กทม นายประเสริฐ ทรัพย์รวงทอง อดีตส.ส.นครราชสีมา ยื่นหนังสือขอให้กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) คัดค้านการแบ่งเขตเลือกตั้งในหลายจังหวัด อาทิ จังหวัดสมุทรปราการ นครราชสีมา กรุงเทพฯ โดยขอให้คำนึงถึงกฎหมายการแบ่งเขตเลือกตั้งหลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ออกคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 16/2561 เปิดทางให้กกต.แบ่งเขตเลือกตั้ง โดยไม่ต้องคำนึงถึงกฎหมายและให้ถือเป็นที่สิ้นสุด
นายสามารถ กล่าวว่า อยากให้กกต.เปิดเผยข้อมูลรูปแบบการเลือกตั้งการแบ่งเขต ที่มีการร้องเรียนและเปลี่ยนแปลงว่าใครเป็นผู้ร้อง และแบบเดิมมีความไม่เหมาะสมอย่างไร เพราะถือเป็นการร้องเรียนนอกกรอบเวลาที่กกต.เคยกำหนดไว้ เท่ากับว่าไม่เคารพกติกา เป็นการตามใจคนที่ไม่เคารพกติกาด้วยการออกคำสั่งพิเศษให้กกต. รับฟังความเห็นใหม่จนอาจจะออกแบบพิสดาร ซึ่งมีตัวอย่างจากกรณีจ.นครราชสีมาและกรุงเทพมหานคร
“ขอเรียกร้องให้กกต.ปฏิบัติหน้าที่โดยอิสระ ปลอดการแทรกแซงจากผู้มีอำนาจ เพราะกกต.ต้องดูแลการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรม ถ้าการแบ่งเขตเลือกตั้งไม่เป็นธรรม เท่ากับต้นทางของการเลือกตั้งมีปัญหา แม้ว่าจะเอาผิดกกต.ตามกฎหมายไม่ได้เนื่องจากมีคำสั่งหัวหน้าคสช.คุ้มครองอยู่ แต่จะมีผลต่อความสับสนและความไม่เชื่อมั่นของประชาชน ทำให้การเลือกตั้งอาจไม่เป็นที่ยอมรับ ส่วนจะนำไปสู่ความวุ่นวายหรือไม่ยังบอกไม่ได้ในตอนนี้” นายสามารถ กล่าว
ด้านนายประเสริฐ กล่าวว่า ในพื้นที่ภาคอีสานมีปัญหาหลายจังหวัดโดยจ.นครราชสีมา มีการแบ่งเขตแบบไม่ชอบมาพากล นอกเหนือจาก 3 รูปแบบที่กกต.เคยกำหนด จากเดิมนครราชสีมามี 15 เขต ลดไปหนึ่งเขตเหลือ 14 เขต ซึ่งสืบค้นมาพบว่าจะมีแบบพิสดาร ซึ่งไม่ตรงกับ 3 รูปแบบที่กกต.เคยแบ่งไว้ เช่นในเขตอำเภอพิมาย มีประชากร 1 แสนสามหมื่นคน เดิมเอาอ.พิมายไปรวมกับอ.ชุมพวงบางตำบล แต่แบบพิสดารแบ่ง อ.พิมายออกเป็น 3 ส่วน ๆ ละ 4 ตำบลไปรวมกับอ.โนนสูง อ.จักราช ซึ่งไม่เป็นไปตามมาตรา 27 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และที่อ.สีคิ้วเดิมเอาบางตำบลไปรวมกับอ.ด่านขุนทด แต่ตอนนี้จะนำอ.เมืองมารวมกับอ.สีคิ้ว ซึ่งเท่ากับว่าไม่คำนึงถึงการเคยอยู่เขตเลือกตั้งเดียวกันมาก่อน เพราะอ.สีคิ้วไม่เคยอยู่เขตเลือกตั้งเดียวกับอ.เมืองมาก่อน ถือได้ว่าแบ่งเขตเลือกตั้งขัดมาตรา 27 ชัดเจน นอกจากนี้ลักษณะชุมชนแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง
นายวิชาญ กล่าวว่า กทม.เดิมมีเขตเลือกตั้งทั้งหมด 33 เขต แต่ขณะนี้เหลือ 30 เขต โดยแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของกรุงเทพฯ ซึ่งกระทบฐานเสียงของพรรคเพื่อไทย 7 เขต สอดรับกับมีบางพรรคการเมืองระบุว่าจะปักธงในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ จึงขอตั้งข้อสังเกตว่าการแบ่งเขตเลือกตั้งเอื้อให้พรรคการเมืองนั้นหรือไม่ โดยตัวอย่างความผิดปกติในการแบ่งเขตเลือกตั้ง คือเขตคลองสามวามีประชากรเกือบ 2 แสนคน ซึ่งเต็มเขตแล้ว แต่กลับแบ่งคลองสามวาโดยนำแขวงบางชันไปรวมกับสายไหม แล้วแบ่งสายไหมบางส่วนคือแขวงคลองถนนไปรวมกับบางเขน ทำให้เขตบางเขนมีราษฎรเกิน จึงแบ่งบางเขนไปในพื้นที่จตุจักร
“แสดงให้เห็นว่ามีความผิดปกติในการแบ่งพื้นที่ เช่นเดียวกับที่เขตมีนบุรีที่มี 2 แขวงก็นำแขวงคลองแสนแสบไปรวมกับคลองสามวา แล้วนำแขวงมีนบุรีไปรวมกับคันนายาว ซึ่งพื้นที่ที่แบ่งเขตใหม่เป็นพื้นที่เดิมของพรรคเพื่อไทยทั้งสิ้น 7-8 เขต จึงสงสัยว่าเจาะจงที่จะให้เกิดการเปลี่ยนแปลงส.ส.หรือไม่ ขณะนี้แค่บัตรใบเดียวประชาชนสับสนอยู่แล้ว ยังแบ่งเขตแบบตัดแขวงออก แล้วข้ามไปข้ามมา ทำให้ประชาชนไม่สามารถลงในเขตเดิมได้ก็ยิ่งจะมีความสับสน เพราะจะกลายเป็นผู้สมัครอีกคนและคนละเบอร์ด้วย” นายวิชาญ กล่าว.-สำนักข่าวไทย
