รัฐสภา 23 พ.ย. – สนช. ฉลุย ลงมติเอกฉันท์รับหลักการ วาระแรกกฎหมายยาเสพติดให้โทษ ปลดล็อกกัญชาใช้ทางการแพทย์ได้ ตั้งเป้าออกกฎหมายภายใน 60 วัน
การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันนี้(23 พ.ย.) มี นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ วาระแรก ตามที่สมาชิก สนช. 44 คน นำโดย นายสมชาย แสวงการ สนช. เข้าชื่อเสนอ เพื่อแก้ไข พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ปลดล็อกให้ กัญชา สามารถใช้เป็นยารักษาโรคได้
นายสมชาย แสวงการ สมาชิก สนช. ผู้เสนอร่างกฎหมาย แถลงสาระสำคัญ และประโยชน์ของร่างกฎหมายฉบับนี้ต่อที่ประชุม ว่า เป็นการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 กำหนดให้สามารถขออนุญาตผลิต นำเข้า หรือ ส่งออกยาเสพติดให้โทษ ประเภท 5 ประกอบด้วย กัญชาและกระท่อม เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ สามารถนำไปใช้ในการรักษาโรคเฉพาะตัวได้ เช่นเดียวกับยาเสพติดให้โทษ ประเภท 2 แบบฝิ่น เท่านั้น ไม่รวมถึงการใช้เสพเพื่อสันทนาการ และให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เป็นผู้กำหนดเขตพื้นที่ทดลองเพาะปลูกกัญชา และเสพกัญชา เพื่อการศึกษาวิจัยทางการแพทย์ในปริมาณที่กำหนด โดยไม่ถือว่ามีความผิดกฎหมาย
นายสนมชาย กล่าวว่า การกำหนดพื้นที่ดังกล่าว จะต้องตราเป็นพระราชกฤษฎีกา มีมาตรการตรวจสอบควบคุม สำหรับผู้ที่จะสามารถอนุญาตครอบครองกัญชาได้ ประกอบด้วย กระทรวง องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น สภากาชาดไทย องค์กรเภสัชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์สาขาต่างๆ อาทิ ทันตกรรม สัตวแพทย์ และแพทย์แผนไทย ผู้ขออนุญาตจะต้องไม่เคยต้องโทษตามกฎหมายยาเสพติดมาก่อน และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะเป็นผู้พิจารณาอนุญาตตามความเห็นของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ
“ยืนยันว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้ ผ่านการรับฟังความเห็นจากประชาชน ตามมาตรา 77 วรรค 2 ทั้งจากเว็บไซต์ ที่มีผู้เห็นด้วยกับร่างกฎหมายนี้ถึงร้อยละ 99.03 และเปิดเวทีรับฟังความเห็น รวมถึง ได้ส่งให้คณะรัฐมนตรีได้พิจารณาแล้ว โดยไม่ได้มีการเสนอร่างกฎหมายมาประกบ แต่มีข้อสังเกตความเห็นจากกระทรวงสาธารณสุข คณะกรรมการกฤษฎีกา และ ป.ป.ส.” นายสมชาย กล่าว และว่า ตั้งเป้าพิจารณากฎหมายฉบับนี้ให้แล้วเสร็จ ภายใน 60 วัน
ด้าน สมาชิก สนช. อาทิ นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ต่างอภิปรายสนับสนุน เพราะเมื่อพิจารณาแล้วพบว่า โทษของกัญชามีน้อยกว่า เหล้าและบุหรี่ ที่ไม่ได้กำหนดเป็นยาเสพติด ขณะที่ บางส่วนที่ไม่เห็นด้วย เป็นเพราะไม่ทราบถึงสาระสำคัญของร่างกฎหมายที่แท้จริง อย่างไรก็ตาม ฝากข้อสังเกตว่า ที่ระบุในร่างกฎหมายให้ใช้กัญชาทางการแพทย์ในปริมาณที่เหมาะสม ยังไม่ได้ระบุถึงปริมาณให้ชัดเจน
จากนั้น ที่ประชุมมีมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ด้วยคะแนนเอกฉันท์ 145 เสียง พร้อมตั้งกรรมาธิการ 29 คน กำหนดแปรญัติ 7 วัน โดยจะพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน ..- สำนักข่าวไทย