กรุงเทพฯ 23 พ.ย. – กลุ่มสหพันธ์เกษตรกรฯ อยู่นอกหลักเกณฑ์การแก้ไขหนี้สิน เตรียมรวมตัวชุมนุมหน้ากระทรวงเกษตรฯ 28 พ.ย.นี้
นายยศวัจน์ ชัยวัฒนสิริกุล ที่ปรึกษาสหพันธ์เกษตรกรแห่งประเทศไทย (สกท.) กล่าวว่า เตรียมเดินทางมาขออนุญาตต่อเจ้าพนักงาน สน.นางเลิ้งตามกฎหมายชุมนุมสาธารณะ เพื่อจะเคลื่อนขบวนกลุ่มเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) ประมาณ 5,000 คนมาที่หน้ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในเช้าวันที่ 28 พฤศจิกายน 2561เพื่อเรียกร้องให้ กฟก.แก้ปัญหาหนี้สินให้เกษตรกร โดยให้ซื้อหนี้จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธ.อ.ส.) และธนาคารออมสิน
นายยศวัจน์ กล่าวว่า จากการประชุมคณะอนุกรรมการการประสานเจรจาหนี้สินสถาบันการเงิน เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ของเกษตรกรสมาชิก กฟก.ครั้งล่าสุด ที่ประชุมได้แจ้งผู้แทนเกษตรกรถึงข้อห่วงใยของนายกรัฐมนตรีซึ่งให้หาแนวทางนำเงิน 1,200 ล้านบาทของ กฟก.แก้ปัญหาหนี้สินให้เกษตรกรที่ กฟก.ระบุว่าเป็นหนี้นอกหลักเกณฑ์การช่วยเหลือของ กฟก. โดยมียอดหนี้เกิน 2.5 ล้านบาท และไม่ใช่หนี้สินจากการทำเกษตรกรรม แต่ผู้แทนกษตรกรระบุว่าเป็นหนี้ต่อเนื่องจากภาคการเกษตร เช่น ยื่นกู้ซื้อรถกระบะเพื่อนำผลผลิตจากสวนไปขาย ซื้อรถจักรยานยนต์ไปดูแลไร่นา นำไปประกอบธุรกิจต่อเนื่องจากภาคการเกษตร กู้จาก ธอส.เพื่อสร้างที่อยู่อาศัย ทั้งนี้ ทางคณะอนุกรรมการฯ ระบุว่าต้องหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงการคลัง แต่ไม่มีความคืบหน้า การเดินทางครั้งนี้จึงจะมายื่นข้อเรียกร้องต่อ กฟก. 3 ข้อ คือ ให้ กฟก.เสนอของบประมาณซื้อหนี้จาก ธ.ก.ส. ซึ่งนายยศวัจน์ อ้างว่า ธ.ก.ส.ยอมขายหนี้ของเกษตรกรกลุ่มนี้ให้ กฟก.แล้ว จากนั้นให้ กฟก.ลดเงินต้นร้อยละ 50 พร้อมดอกเบี้ย โดยให้เกษตรกรสมาชิก กฟก.ผ่อนชำระเฉพาะเงินต้นที่เหลืออีกครึ่งหนึ่ง โดยทั้งธนาคารออมสินและ ธอส. ระบุว่ายินดีจะปฏิบัติตามแนวทางที่ กฟก.ตกลงกับทาง ธ.ก.ส. ได้ให้ กฟก.เร่งทำแผนฟื้นฟูและพัฒนาอาชีพเกษตรกรเพื่อให้มีรายได้ดำรงชีวิตและชำระหนี้ กำหนดระยะเวลา 5 ปี วงเงิน 100,000 ล้านบาท โดยอนุมัติจ่ายปีละ 20,000 ล้านบาท และให้ กฟก.ดำเนินการให้ได้มาซึ่งคณะกรรมการชุดใหม่มาบริหาร ตาม พ.ร.บ.กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พ.ศ. 2452 โดยกำหนดวันเลือกตั้งให้เร็วที่สุด เนื่องจากคณะกรรมการบริหาร กฟก. (เฉพาะกิจ) ซึ่งแต่งตั้งตามคำสั่ง คสช.หมดวาระลงเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และ ครม.ไม่ได้ต่ออายุ จึงไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ ดังนั้น หากแต่งตั้งคณะกรรมการ กฟก.ชุดใหม่แล้ว การดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้สินให้เกษตรกรสมาชิก กฟก.ทั้งหมดจะได้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของการก่อตั้ง กฟก.
นายยศวัจน์ ระบุว่า เกษตรกรที่เป็นหนี้กลุ่มนี้มีเกือบ 3,000 ราย แต่จะมีเกษตรกรลูกหนี้ ธ.ก.ส.ส่วนหนึ่งไม่เห็นด้วยกับแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้สิน โดยการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามมติ ครม.วันที่ 2 ตุลาคม 2561 มาสมทบด้วย เนื่องจากต้องการให้ตัดเงินต้นลงร้อยละ 50 พร้อมยกดอกเบี้ยให้แล้วผ่อนชำระเฉพาะเงินต้นที่เหลืออีกครึ่งหนึ่ง หากไม่เป็นไปตามข้อเสนอดังกล่าวจะชุมนุมต่อเนื่องจนกว่าจะได้รับการแก้ไขปัญหา
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริหาร กฟก.เฉพาะกิจรายงานข้อมูลเกี่ยวกับหนี้สินของเกษตรกรกลุ่มสหพันธ์เกษตรกรแห่งประเทศไทย (สกท.) ซึ่งได้เข้าไปเจรจาให้แก่สมาชิกลูกหนี้ ธ.ก.ส. 573 ราย วงเงินหนี้ 383.45 ล้านบาท โดยเกษตรกรลูกหนี้ชำระเพียงร้อยละ 50 ของเงินต้นคงค้างเพียงครั้งเดียวภายใน 30 มิถุนายน 62 ส่วนลูกหนี้ธนาคารออมสินและธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส. ) สมาชิกมีหนี้เสีย 2,389 ราย วงเงินเป็นหนี้ 630.59 ล้านบาท ทางคณะกรรมการบริหารกฟก. เฉพาะกิจซึ่งรักษาการคณะกรรมการกฟก. อยู่ระหว่างเจรจาให้เจรจากับเจ้าหนี้เป็นราย ๆ นั้น ทาง สกท.ยังไม่พอใจต้องการให้ กฟก.ซื้อหนี้ทั้งหมดแล้วให้ลูกหนี้มาผ่อนชำระกับ กฟก.แทน จึงจะเดินทางมาชุมนุมเรียกร้องดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย