พรรคใหญ่หนุนเลือกตั้ง 24 ก.พ.62 ตามเดิม

กรุงเทพฯ 22 พ.ย. – พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ  พรรคไทยรักษาชาติ และพรรคประชาธิปไตยใหม่  หนุนเลือกตั้ง 24 ก.พ. ระบุรอทุกพรรคพร้อมคงไม่ได้ หากรอก็จะรอไม่สิ้นสุด  ทุกพรรคจับตา กกต.แบ่งเขตเลือกตั้งให้ยุติธรรม ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ


ที่เซ็นทรา บายเซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์  นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงคำสั่ง คสช. ที่ 16/2561 ที่ให้ทบทวนการแบ่งเขตเลือกตั้ง ว่า เนื้อหาของคำสั่งนี้ผิดกฎหมาย ไม่ชอบด้วยระเบียบ และไม่เป็นไปตามกติกา แต่คำสั่งตามมาตรา 44 ก็ให้ทำได้โดยไม่ถือว่าการกระทำนั้นเป็นสิ่งผิดรัฐธรรมนูญ พรรคเพื่อไทยจึงอยากจะมาสอบถามความชัดเจนจาก กกต. ว่าสิ่งที่กำลังจะทำ จะผิดพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 27 หรือระเบียบที่ กกต. ประกาศหรือไม่ เพราะคำสั่งที่ คสช. ที่ออกมาเหมือนชี้ช่อง และเปิดทางให้ กกต. ทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย 

นายชูศักดิ์ กล่าวว่า  พรรคเพื่อไทยเห็นว่าการแบ่งเขตเลือกตั้งเป็นต้นทางที่จะทำให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธรรม หากกระบวนการเริ่มต้นส่อเจตนาไม่โปร่งใส ก็คงจะหวังเป็นอย่างอื่นไม่ได้ และสิ่งที่น่าห่วงขณะนี้ คสช. มีพรรคการเมืองหลายพรรคเข้าไปเกี่ยวข้อง กฎเกณฑ์ที่ออกมานี้จะเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มนี้หรือไม่ พรรคเพื่อไทยเฝ้ารอดูว่า กกต.ในฐานะองค์กรอิสระจะตัดสินใจเรื่องนี้อย่างไร 


ด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ประธาน กกต. ประกาศจะยึดเอาเขตเลือกตั้งเดิมเป็นจุดเริ่มต้นของการแบ่งเขตเลือกตั้งครั้งนี้  ถ้าจะขยายเขตเพิ่มพิจารณาจากจำนวนประชากรของเขตที่อยู่รอบ ๆ แล้ว ได้ดำเนินการแบ่งเขตเลือกตั้งออกมาเป็น 3 รูปแบบ และผ่านการรับฟังความเห็นประชาชนและนักการเมือง กระบวนการทั้งหมดจึงควรจะเสร็จสิ้นแล้วแต่กลับมีคำสั่ง คสช. ขยายเวลาให้อำนาจ กกต. เปลี่ยนแปลงแก้ไข ซึ่งเจตนาดังกล่าวเป็นสิ่งที่พรรคการเมืองส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ

นายภูมิธรรม กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยจึงเรียกร้องให้ กกต.ทำหน้าที่ด้วยความยุติธรรมและเห็นแก่ความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศที่อยากเลือกตั้งแล้ว ดังนั้น กกต.ควรจะเดินหน้าจัดการเลือกตั้ง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กับประชาชาชน อย่าสร้างความผิดหวังให้กับประเทศชาติอีกเลย พรรคเพื่อไทยจะต่อสู้ให้ถึงที่สุดหากสิ่งที่ กกต.จะดำเนินการต่อจากนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ด้านนายพิชิต ชื่นบาน คณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส. พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) กล่าวว่า การจัดประชุมของ กกต. วันนี้ (22พ.ย.) ถือเป็นเรื่องดีที่จะนำไปสู่การเลือกตั้งตามโรดแมป ส่วนหลักเกณฑ์การสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งและเรื่องการแบ่งเขตนั้น คงต้องรอฟัง กกต.อธิบายให้เกิดความชัดเจน ทางพรรคสนใจประเด็นการทำมินิไพรมารี่โหวต อย่างไรก็ตามพรรคยังมีข้อสังเกตในเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งที่ กกต.จัดทำไปแล้ว แต่กลับมีการแบ่งเขตแบบที่ 4 ออกมา แต่ก็ต้องให้กำลังใจ กกต. เพราะมีบางอย่างเหนือการควบคุม แต่ส่วนตัวยังสนับสนุนให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ.


นายพิชิต กล่าวว่า หาก กกต. มีความตั้งใจที่จะแสดงให้ประชาชนเห็นว่าไม่ได้อยู่ภายใต้อำนาจของใคร ก็ควรที่จะดำเนินการแบ่งเขตให้เสร็จสิ้น ก่อนวันสุดท้ายตามกำหนดเวลา ส่วนที่มีหลายพรรคแสดงความไม่พร้อม ตนเห็นว่าหากการเลือกตั้งทุกครั้งต้องรอให้ทุกพรรคพร้อมเป็นไปไม่ได้ เพราะตามสถิติที่ผ่านมา ก่อนการเลือกตั้งจะมีหลายพรรคการเมืองที่ยังจดทะเบียนไม่แล้วเสร็จและยังไม่พร้อมลงสมัครรับเลือกตั้ง ตนยืนยันเคารพสิทธิเสรีภาพของทุกพรรค แต่ถ้าจะอ้างว่าบางพรรคการเมืองไม่พร้อมคงไม่ได้ และขอให้นึกถึงประชาชนว่าอยากเลือกตั้ง ซึ่งขณะนี้เห็นว่าไม่มีเหตุปัจจัยอะไรให้เลื่อนเลือกตั้ง

 น.ส.ผ่องศรี ธาราภูมิ นายทะเบียนพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งว่า พรรคยังคงติดใจ เพราะเรื่องดังกล่าวเกี่ยวกับความเชื่อมั่น โดยเฉพาะหากทำให้การเลือกตั้งต้องเลื่อนออกไป จะกระทบกับความเชื่อมั่นของประชาชน ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงการแบ่งเขตเลือกตั้งไปจากเดิม ตามกฎหมายกำหนดให้ดูจากพื้นที่ จำนวนประชากร กรณีใดผิดปกติ เหลื่อมล้ำ เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ได้ทำหนังสือส่งเพื่อยื่นให้ กกต. ทบทวนต่อไป

สำหรับความเห็นเรื่องการเลื่อนหรือไม่เลื่อนการเลือกตั้งนั้น  น.ส.ผ่องศรี กล่าวว่า รัฐบาล คสช. และ กกต.ย้ำมาโดยตลอด ว่าจะเกิดขึ้นในวันที่ 24 ก.พ. นี้ ดังนั้นจึงไม่ควรมีอะไรเปลี่ยนแปลง พรรคการเมืองมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกติกา ให้ถูกต้องตามกรอบกฎหมาย ส่วนข้ออ้างความไม่พร้อมของพรรคการเมืองใหม่นั้น มองว่า หากตั้งมานานแล้วน่าจะเตรียมความพร้อมได้ทัน อีกทั้งกำหนดการแข่งขัน และประกาศต่าง ๆ ก็ออกมานานแล้ว แม้ว่าจะรู้สึกเห็นใจ แต่ถ้าหากต้องรอ ก็อาจจะทำให้เกิดการรอที่ไม่สิ้นสุด

ขณะที่ นายวิเชียร ชวลิต นายทะเบียนพรรคพลังประชารัฐ  (พปชร.) กล่าวก่อนการประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินกิจการแก่พรรคการเมือง ครั้งที่ 4/2561 จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยืนยันถึงความพร้อมของพรรคสำหรับการลงเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ. ตามโรดแมปที่วางไว้ ทั้งนี้ ต้องรอรับฟังเงื่อนไขการส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งที่ กกต.จะชี้แจงว่ามีขั้นตอนอะไรที่พิเศษซับซ้อนต่างจากเดิมหรือไม่ ถ้าเป็นไปตามระเบียบกฎเกณฑ์เดิม พรรคก็ไม่มีปัญหาและยืนยันความพร้อม ส่วนบางพรรคที่ไม่พร้อมถือเป็นเรื่องของแต่ละพรรค

นายสุรทิน พิจารณ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่  ยื่นหนังสือต่อนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.เพื่อเรียกร้องให้จัดเลือกตั้งตามโรดแมปที่น ายกรัฐมนตรี ประกาศในเวทีโลกไว้ว่า การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 โดยชี้ว่าพรรคการเมืองส่วนใหญ่มีความพร้อมแล้ว และการเลือกตั้งตามโรดแมปจะส่งผลให้เศรษฐกิจดีขึ้น และขอเรียกร้องให้มีการปลดล็อคพรรคการเมืองให้ทำกิจกรรมได้เต็มที่ รวมถึงการแบ่งเขตเลือกตั้งอย่างเป็นธรรม ตลอดจนการใช้เครื่องลงคะแนนแบบอิเล็กทรอนิกส์ในการเลือกตั้งครั้งใหม่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ย้ำรัฐบาลยึดหลักอธิปไตย-ประโยชน์สูงสุดของประเทศ

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – นายกฯ ย้ำรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ วันนี้ (4 มิ.ย.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ “ดิฉันขอย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และได้บูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน” นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรารวบรวมข้อมูลจากทั้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ภาพแผนที่จากเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนพิจารณาอย่างเคร่งครัดภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายคือการปกป้องอธิปไตยของชาติและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ หากมีความคืบหน้า รัฐบาลจะมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดเป็นระยะ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านต่อไป.-314-สำนักข่าวไทย

ม็อบรถบัส 2 ชั้น ขู่บุกกรุง ค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า

ตรัง 4 มิ.ย. – ม็อบรถบัส 2 ชั้น ชุมนุมคัดค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า อ้างไม่ชอบ กม.-เส้นทางไม่เข้าหลักเกณฑ์กำหนด ขู่เคลื่อนขบวนพันคันบุกกรุง หากไม่ได้รับแก้ไข บริเวณอันดามันเกตเวย์ บนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 เขาพับผ้า เครือข่ายผู้ประกอบการรถบัส 2 ชั้น ในนามสมาคมรถโดยสารสองชั้นไทย กว่า 100 คัน พร้อมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ราว 200 คน ชุมนุมคัดค้านคำสั่ง กรมการขนส่งทางบกที่ห้ามรถบัส 2 ชั้นใช้เส้นทาง 7 แห่งทั่วประเทศ การชุมนุมครั้งนี้ เป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการจากทั้งภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เพื่อประท้วงคำสั่งที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.68 สำหรับรถทัวร์ และวันที่ 1 มิ.ย.68 สำหรับรถประจำทาง โดยชูป้ายข้อความต่างๆ รวมถึงการเรียกร้องให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและอธิบดีกรมการขนส่งทางบกลาออกจากตำแหน่ง นายสุริยะ แกล้วทนงค์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทย เปิดเผยว่า การสำรวจเส้นทางเขาพับผ้า พบว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ต้องประกาศห้าม เนื่องจากมีความลาดชัน 8% […]

หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้า กลับลำ ยันไม่มีคนในชี้เป้า

กทม. 4 มิ.ย. – คุมตัว “แบงค์” หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลางกรมศุลฯ ทำแผน เจ้าตัวกลับลำอ้างลงมือครั้งแรก ไม่มีใครชี้เป้า ปัดเจตนาชน รปภ.ดับ กลางดึกที่ผ่านมาตำรวจ สน.ท่าเรือ พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ กว่า 20 นาย ควบคุม 5 ผู้ต้องหาแก๊งปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณ ตู้คอนเทนเนอร์ ในโกดังสเตเตียม ถนนท่าเรือ 1 เขตคลองเตย จากนั้นในช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนไปฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ส่วนนายแบงค์ หัวโจก พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างเงียบๆ เพราะเกรงว่านายแบงค์จะถูกญาติ รภป. ผู้เสียชีวิต รุมประชาทัณฑ์ ภายหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวนได้คุมตัวนายแบงค์กลับมา คุมขังที่ สน.ท่าเรือ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวได้พยายามซักถามว่านายแบงค์ก่อเหตุมาแล้วกี่ครั้ง นายแบงค์ อ้างว่าก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้ามาเพียงครั้งเดียว ส่วนนำไปขายใครนั้น นายแบงค์ไม่ตอบ และยืนยันว่าการก่อเหตุนี้ ไม่มีคนในมาชี้เป้า เพราะบริเวณนั้นใครก็รู้ว่าเป็นพื้นที่เก็บสินค้าที่ต้องการทำลาย พร้อมยกมือไหว้ขอโทษครอบครัว รปภ.ที่เสียชีวิต และยอมรับว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจถอยรถชน […]

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ชายแดนติดตามสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี 4 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำกองทัพไม่ขัดแย้งรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดกรณีการปะทะกันที่ช่องบก โดยระบุว่า การมาครั้งนี้ตั้งใจมาให้กำลังใจกำลังพลที่อยู่แนวหน้า ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมในการดูแลและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น รวมถึงดูพื้นที่จริง ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ข่าวทหารกัมพูชาวางกับระเบิดเป็นของเก่า เวลานี้เรากำลังใช้ทางออกที่โลกอยากเห็น และเรายังไม่ได้เสียอธิปไตยตรงไหนไป สิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละจุด เราอยากให้มันค่อยๆ คลายไป เรากำลังใช้มาตรการทางการทูตเชิงรุก เริ่มต้นจากเล็กไปหาใหญ่ และมาตรการต่างๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้น เราตกลงกันแล้วว่า จะคุยด้วยกันตลอด ไม่ได้มีปัญหาอะไร มันไม่ได้ถึงขั้นนั้น เพราะยังไม่มีอะไร เราคำนึงถึงชีวิตของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน เราจะใช้กระบวนการสันติวิธีให้ถึงที่สุด ถ้ามีอะไรเกินเลย ฝ่ายที่อยู่แนวหน้าจะต้องแจ้งเรา ซึ่งจะดำเนินการโดยทันทีทันใด ยืนยันกองทัพกับฝ่ายการเมืองไม่มีปัญหากัน .-สำนักข่าวไทย