ประชาธิปัตย์ 21 พ.ย.- “อภิสิทธ์” ชี้ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซับซ้อน-ประชานิยม ไม่ยั่งยืน เชื่อ ไม่ทำให้รัฐบาลได้เสียงมากเท่าที่คิด ระบุ ถ้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล จะเดินหน้าสวัสดิการดูแลผู้มีรายได้น้อยอย่างเป็นระบบ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีที่ครม.เพิ่มสิทธิประโยชน์หลายอย่าง ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ว่า เข้าใจว่า รัฐบาลกังวลว่า กำลังซื้อชาวบ้านลดลงมาก จึงพยายามแก้ปัญหา แต่สิ่งที่รัฐบาลทำในขณะนี้ เป็นไปในลักษณะทำตามใจชอบของรัฐบาล ไม่ได้ทำเป็นระบบ เพราะไม่มีหลักประกันอะไร ว่าปีหน้าจะมีการให้เช่นนี้อีกหรือไม่ จึงสะท้อนว่ากำลังกลับไปสู่ประชานิยมเหมือนเดิม
“นอกจากนี้ มาตรการที่ออกมา ยังมีความซับซ้อนพอสมควร เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเดินทางโรงพยาบาล ผมเป็นห่วงว่า มีการเอานโยบายอื่นมาพันกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมากขึ้น แต่ขาดการวางระบบและหลักเกณฑ์ที่มีความยั่งยืน” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ ยังตั้งคำถามถึงรัฐบาลด้วยว่า ถ้าคิดว่าแนวทางดังกล่าวดี เหตุใดกำหนดให้มีระยะเวลาสิ้นสุด ในเดือนกันยายน 2562 โดยกรณีค่าน้ำ ค่าไฟ ในสมัยที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล เป็นการคิดช่วยค่าไฟคนมีรายได้น้อย ไม่ให้เป็นภาระผู้เสียภาษี แต่ไปเก็บจากผู้ใช้ไฟมาก แต่ขณะนี้ไม่ได้เป็นเช่นนั้น เท่ากับรัฐบาลไม่คำนึงถึงระบบ ไม่คำนึงถึงความยั่งยืน ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นการชิงความได้เปรียบทางการเมืองหรือไม่
“ผมว่า ประชาชนมองออก และเชื่อว่า จะไม่เป็นอย่างที่รัฐบาลหวังว่า คนจะให้การสนับสนุนมากขึ้น และไม่คิดว่าจะได้เสียงมากเท่าที่รัฐบาลคิด” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า หากประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล จะเดินหน้าแนวคิดการมีสวัสดิการดูแลผู้มีรายได้น้อยอย่างเป็นระบบ อะไรเป็นสิทธิที่ประชาชนพึงได้ ควรให้เป็นการทั่วไปให้มากที่สุด และให้รูปแบบสะดวกที่สุด เช่น การเติมกำลังซื้อไม่ควรจำกัดว่า จะนำเงินไปใช้ที่ไหน เพราะทำให้ประชาชนไม่สะดวก ไม่มีทางเลือก เงินที่พึงหมุนเวียนกับชุมชน ตลาดสด ร้านค้า ไม่เกิดขึ้น ร้ายที่สุดคือ คนที่เคยขายของให้คนมีรายได้น้อยสูญเสียธุรกิจ ทำให้เพิ่มคนที่มีปัญหาเศรษฐกิจมากขึ้น ..- สำนักข่าวไทย