สำนักงาน กกต. 19 พ.ย.- กกต.ทบทวนการแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส.ใหม่ เริ่มรับคำร้อง 19-25 พ.ย. เตรียมเร่งพิจารณาให้เสร็จภายใน 30 พ.ย. เผยมีคำร้องตกค้าง 26 เรื่อง
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง กกต. และ นายณัฏฐ์ เล่าสีห์สวกุล รองเลขาฯ กกต. แถลงว่า ที่ประชุม กกต.ได้พิจารณาเรื่องการแบ่งเขตและคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 16/61 โดยนายณัฏฐ์ กล่าวว่า คำสั่งที่ออกมาเพื่อให้ กกต.ปฏิบัติงานได้เรียบร้อย และให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวกับการแบ่งเขตเลือกตั้ง พึงพอใจภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย เพื่อให้ กกต.ได้พิจารณาเรื่องคำร้องอย่างรอบคอบ ซึ่งในวันนี้ กกต.มีการประชุมและมีมติที่จะออกประกาศ กกต.กำหนดระยะเวลารับเรื่องร้องเรียนได้ตั้งแต่วันนี้ (19 พ.ย.) จนถึงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2561
นายณัฏฐ์ กล่าวว่า ฝ่ายที่มีส่วนได้เสียกับการแบ่งเขตเลือกตั้งไม่ว่าจะเป็นประชาชนหรือพรรคการเมือง หากเห็นว่าควรแบ่งเขตรูปแบบใด ก็สามารถเสนอความเห็นมาได้ในช่วงเวลาดังกล่าว แต่ต้องระบุชื่อ นามสกุล ที่อยู่ให้ชัดเจนและให้ความเห็นด้วยว่ารูปแบบการแบ่งเขตต้องการให้เป็นรูปแบบใด และจะต้องสอดคล้องกับมาตรา 27 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. เพื่อให้ กกต.พิจารณา ซึ่งได้วางกรอบเวลาเป็นการภายใน ว่า กกต.จะพิจารณาภายในวันที่ 26 พฤศจิกายน และเสร็จไม่เกิน 30 พฤศจิกายน จากนั้นจะส่งประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งลงในราชกิจจานุเบกษาโดยเร็วต่อไป แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าจะประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้เมื่อไหร่ โดยมีกำหนดว่าต้องทำให้แล้วเสร็จก่อน พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มีผลใช้บังคับ
รองเลขาฯ กกต.กล่าวว่า ขณะนี้มีคำร้องที่ตกค้างอยู่ที่ กกต. หลังจากที่มีการพิจารณาครั้งสุดท้ายในวันที่ 7 พฤศจิกายนจนถึงปัจจุบันประมาณ 26 คำร้อง ซึ่ง กกต.จะหยิบขึ้นมาพิจารณารวมกับคำร้องใหม่ที่จะมีเข้ามา ทั้งผ่านช่องทางที่ร้องตรงมายัง กกต. และผ่าน คสช. กับรัฐบาลด้วย
“การพิจารณาของ กกต.ไม่ได้เป็นการรื้อเขตเลือกตั้งทุกจังหวัด แต่จะพิจารณาเฉพาะจังหวัดที่มีการยื่นคำร้องเข้ามาเท่านั้น ซึ่งการดำเนินการของ กกต.เป็นไปตามกรอบของกฎหมาย” นายณัฏฐ์ กล่าว
นายณัฏฐ์ กล่าวว่า กกต.คงไม่สามารถให้รายละเอียดเกี่ยวกับจังหวัดที่มีการยื่นคำร้องเข้ามา รวมถึงรูปแบบที่เสนอด้วย เพราะหากเปิดเผยก็จะมีการโต้แย้งกันไม่จบสิ้น อีกทั้งอำนาจในการแบ่งเขตก็เป็นของ กกต. การที่กฎหมายกำหนดให้รับฟังความเห็นเป็นเพียงการให้ประชาชนมีส่วนร่วม และรูปแบบเขตเลือกตั้งที่ กกต.กำหนดจะยึดโยงกับรูปแบบที่ได้เคยรับฟังความเห็นประชาชนมาแล้ว ซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย เพราะกกต.คงไม่เอาตัวไปเสี่ยงกับการทำผิดกฎหมายเพื่อใครคนใด คนหนึ่ง แต่ต้องยอมรับว่าการแบ่งเขตไม่สามารถทำให้ถูกใจทุกคนได้ เพราะมีทั้งคนได้ คนเสีย.-สำนักข่าวไทย
