ปาปัวนิวกินี 16 พ.ย. – นายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 26 ที่กรุงพอร์ตมอร์สบี รัฐเอกราชปาปัวนิวกินี พร้อมใช้เวทีนี้ในการผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจในยุคดิจิทัล โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย รายงาน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ จะเดินทางเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 26 ระหว่างวันที่ 17-18 พฤศจิกายน 2561 ณ กรุงพอร์ตมอร์สบี รัฐเอกราชปาปัวนิวกินี หัวข้อหลักของการประชุมในปีนี้ คือ การสร้างโอกาสอย่างครอบคลุมเพื่อเปิดรับอนาคตทางดิจิทัล สืบเนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาการประชุมเวทีระดับโลกหรือระดับภูมิภาคจะเน้นในเรื่องดิจิทัล หรือเศรษฐกิจดิจิทัล เพราะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน และเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจในภูมิภาค สำหรับการประชุมครั้งนี้มีประเด็นสำคัญ 3 เรื่อง คือ การพัฒนาความเชื่อมโยงและส่งเสริมการบูรณาการทางเศรษฐกิจในภูมิภาค, การส่งเสริมการเจริญเติบโตอย่างครอบคลุมและยั่งยืน และการเสริมสร้างการเจริญเติบโตอย่างครอบคลุมผ่านการปฏิรูปโครงสร้าง
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีจะรับฟังบรรยายสรุปการเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 26 จากนั้นจะหารือเต็มคณะระหว่างผู้นำเขตเศรษฐกิจกับสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปก (ABAC) และจะใช้โอกาสนี้เน้นย้ำถึงจุดยืนในการสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคี และการเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจผ่านการปฏิรูปโครงสร้าง ขณะเดียวกันจะมีการหารือระหว่างผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกกับกลุ่มประเทศหมู่เกาะแปซิฟิก เพื่อย้ำความสำคัญของความร่วมมือด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรทางทะเล และการสร้างความเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 26 ซึ่งเป็นการประชุมเต็มคณะ สาระสำคัญของการประชุมจะเน้นความท้าทายของโลกในปัจจุบัน บทบาทและศักยภาพของเอเปกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการเจริญเติบโตที่ยั่งยืนผ่านอนาคตทางดิจิทัล โดยไทยจะใช้โอกาสนี้ร่วมส่งเสริมการบูรณาการทางเศรษฐกิจในภูมิภาคและอนาคตของเอเปก ทั้งนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญกับการสร้างทักษะ โดยใช้นวัตกรรมขับเคลื่อนและความมั่นคงทางอาหารที่ครอบคลุมและยั่งยืน และจะมีการลงนามปฏิญญาผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก
การประชุมดังกล่าวยังมีการหารือทวิภาคีกับผู้นำเขตเศรษฐกิจพิเศษ 2 เขต คือ ผู้นำของฮ่องกง และผู้นำของปาปัวนิวกินี ทั้งสองประเทศเห็นความสำคัญของบทบาทประเทศไทย โดยเฉพาะการเป็นศูนย์กลาง หรือฮับในภูมิภาค ซึ่งจะเป็นกลไลสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิก ที่สำคัญปาปัวนิวกินียังให้ความสำคัญกับการเป็นต้นแบบการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศไทยด้วย. – สำนักข่าวไทย