กรมบัญชีกลางเร่งเดินหน้ามาตรการชดเชยเงินให้ผู้มีรายได้น้อย

กรุงเทพฯ 16 พ.ย. – กรมบัญชีกลางเร่งเดินหน้ามาตรการชดเชยเงินให้ผู้มีรายได้น้อยที่ใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยใช้ข้อมูลจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ตั้งแต่ 1 พ.ย. 61 – 30 เม.ย. 62


นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า มาตรการชดเชยเงินให้แก่ผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐโดยใช้ข้อมูลจากภาษีมูลค่าเพิ่มที่ผู้มีรายได้น้อยได้ชำระราคาสินค้าอุปโภคบริโภค (ไม่รวมสินค้าที่มีภาษีสรรพสามิต อาทิเช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ น้ำมันเชื้อเพลิง หรือสินค้าไม่มีภาษีมูลค่าเพิ่มอื่น ๆ) เริ่มแล้วตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2561 โดยมีข้อมูลการใช้จ่ายระหว่างวันที่ 1 – 14  พฤศจิกายน 2561 จำนวน 557,266 ราย เป็นเงินกว่า 145 ล้านบาท มีจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT 7%)จำนวนกว่า 9 ล้านบาท และยืนยันความพร้อมในการจ่ายเงินชดเชยภาษีมูลค่าเพิ่มดังกล่าว 5% เข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ให้แก่ผู้มีสิทธิผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพื่อนำไปใช้จ่ายต่อ และเงินชดเชยอีก 1% เพื่อการออม โอนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารชนิดพิเศษที่กรมบัญชีกลางให้ธนาคารเปิดให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อเป็นการสร้างรากฐานการออมให้กับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยต่อไป โดยข้อมูลจากภาษีมูลค่าเพิ่มที่ได้ชำระระหว่างวันที่ 1 – 30 พฤศจิกายน 2561 จ่ายชดเชยในวันที่ 14 ธ.ค. 2561 

ส่วนความคืบหน้าของร้านธงฟ้าประชารัฐ ร้านประชารัฐของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง และร้านค้าเอกชนอื่นที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และสมัครเข้าร่วมมาตรการฯ แล้ว มีจำนวน 4,247 ร้านค้า โดยผู้มีสิทธิจะได้รับเงินชดเชยต่อเมื่อชำระราคาสินค้าอุปโภคบริโภคผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทั้งจากวงเงินกระเป๋าสวัสดิการ (200/300 บาท) และวงเงินที่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเติมเองในกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ที่ร้านธงฟ้าประชารัฐ ร้านประชารัฐของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และรับชำระราคาสินค้าผ่านเครื่อง EDC ที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์เครื่องบันทึกการเก็บเงิน (Point of Sale : POS) ภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 แล้วเท่านั้น 


สำหรับร้านค้าเอกชนอื่นที่สมัครเข้าร่วมมาตรการฯ ให้สังเกตสัญลักษณ์สติ๊กเกอร์ “จ่ายด้วยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จากกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money PromptCard)” ผู้มีสิทธิสามารถใช้ได้เฉพาะส่วนของเงินในกระเป๋า   เงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) เท่านั้น ในการชำระราคาสินค้าอุปโภคบริโภค     ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ก็จะได้รับเงินชดเชยคืนเช่นกัน 

ทั้งนี้ ข้อมูลภาษีมูลค่าเพิ่มจากการใช้จ่ายดังกล่าวจะนำมาประมวลผล เพื่อจ่ายเงินชดเชย 6% ไม่เกิน 500 บาท (5% โอนเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อการใช้จ่ายต่อไป และ 1% โอนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิ เพื่อการออม กำหนดจ่ายทุกวันที่ 15 ของเดือนถัดไป) 

ทั้งนี้ ร้านธงฟ้าประชารัฐ และร้านค้าเอกชนอื่นที่สนใจเข้าร่วมมาตรการฯ นี้สามารถสมัครได้ โดย (1) ร้านค้าที่ยัง  ไม่มีอุปกรณ์ POS จะต้องลงทุนในการติดตั้งอุปกรณ์ POS เองก่อน (2) ร้านค้าที่มีเครื่อง POS อยู่แล้ว สามารถแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการฯ ได้ที่กรมบัญชีกลางหรือสำนักงานคลังจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อกรมบัญชีกลางรวบรวมข้อมูลของร้านค้าส่งให้ บมจ. ธนาคารกรุงไทย ทดสอบการรับส่งข้อมูลต่อไป 


สำหรับความพร้อมในการเปิดบัญชีเงินฝากธนาคารรองรับเงินชดเชย 1% เพื่อการออม กรมบัญชีกลางได้อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้มีรายได้น้อย โดยได้ขอความร่วมมือธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารออมสิน เปิดบัญชีเงินฝากธนาคารชนิดพิเศษให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทุกรายแบ่งตามอาชีพ โดยผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีอาชีพเกษตรกร และลูกจ้างภาคเกษตรกรรม (รับจ้างทำนา ทำสวน กรีดยาง) เปิดบัญชีเงินฝากกับ ธ.ก.ส. และผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีอาชีพอื่นนอกเหนือจากอาชีพดังกล่าว เปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคารออมสิน โดยผู้มีรายได้น้อยไม่ต้องเดินทางไปเปิดบัญชีที่ธนาคารด้วยตนเอง บัญชีเงินฝากธนาคารชนิดพิเศษดังกล่าว มีระยะเวลา 3 ปี (ไม่สามารถถอนเงินก่อนครบกำหนดได้) ไม่มีข้อจำกัดการโอนเงินขั้นต่ำ และยกเว้นค่าธรรมเนียมการรักษาบัญชี โดยมีอัตราผลตอบแทนที่เหมาะสมให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ยกเว้นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เป็นสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และมีคุณสมบัติที่สามารถสมัครเป็นสมาชิก กอช. ได้ เมื่อยอดเงินสะสมในบัญชีดังกล่าวครบ 50 บาท จะดำเนินการโอนเงินเข้าบัญชีรายตัวของสมาชิก กอช. ต่อไป 

อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวในตอนท้ายว่า รัฐบาลมีความตั้งใจที่จะช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพในชีวิตประจำวัน ของผู้มีรายได้น้อย เพื่อให้มีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันก็พยายามสร้างรากฐานการออมในกลุ่มผู้มีรายได้น้อย เพื่อให้มีเงินเก็บสำหรับการใช้จ่ายในอนาคต ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้มีรายได้น้อย ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในระยะยาว . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน

ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงเพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม

ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา เพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม พร้อมกำหนดบทลงโทษหากพบเข้าไปข้องเกี่ยว

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา-วอศ.สระบุรี ชนะเลิศแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา และ วอศ.สระบุรี ชนะเลิศในการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025 ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวแนะนำ

ปล่อยตัว “แซม ยุรนันท์” สวมกอดครอบครัว ขอกลับบ้านก่อน

“แซม ยุรนันท์” ได้รับการปล่อยตัวแล้ว สวมกอดครอบครัวด้วยสีหน้ามีความสุข พร้อมขอบคุณสื่อมวลชนที่มาต้อนรับ ขอกลับบ้านก่อน ขอบคุณกระบวนการยุติธรรม

จับแล้วมือยิงอดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ย่านบางลำพู

“ผู้การจ๋อ” ส่ง “สารวัตรแจ๊ะ” นำทัพสืบ บช.น. ร่วมตำรวจกัมพูชา แกะรอยบุกจับ “จ่าเอ็ม” มือยิง “ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ถึงพระตะบอง ประเทศกัมพูชา

ปล่อยตัว “มิน พีชญา” หลังอัยการสั่งไม่ฟ้องคดีดิไอคอน ขอบคุณกระบวนการยุติธรรม

ปล่อยตัว “มิน พีชญา” หลังอัยการสั่งไม่ฟ้องคดี “ดิไอคอน” เปิดใจขอบคุณกระบวนการยุติธรรมและทัณฑสถานหญิง ดูแลเป็นอย่างดี ยืนยันบริสุทธิ์ใจตั้งแต่แรก พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งวันนี้ได้พิสูจน์ตนเองแล้ว

พบ จยย.มือยิงอดีตนักการเมืองกัมพูชาจอดทิ้งปั๊ม คาดได้ตัวเร็วๆ นี้

ตำรวจตรวจพบรถจักรยานยนต์มือยิงอดีตนักการเมืองฝ่ายค้านกัมพูชาแล้ว จอดทิ้งไว้ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง บริเวณเลียบด่วนมอเตอร์เวย์ คาดได้ตัวคนร้ายเร็วๆ นี้