กรุงเทพฯ 9 ก.ย. – หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดทำหลักเกณฑ์เปิดทางให้ Startup จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ คาดประกาศใช้หลักเกณฑ์ได้ภายในปี 2560
นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้นแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2559 ว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. กำลังเร่งศึกษาแนวทางปรับปรุงเกณฑ์คุณสมบัติของบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เพิ่มเติม เพื่อเปิดโอกาสให้วิสาหกิจขนาดเริ่มต้น (Startup) เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ ซึ่งคาดว่าจะประกาศใช้หลักเกณฑ์ได้ภายในปี 2560 โดยศึกษาโมเดลของประเทศอังกฤษ และสิงคโปร์ เพื่อนำมาปรับใช้
“เราจะพยายามกำหนดเกณฑ์คุณสมบัติของ Startup ที่จะเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหุ้น ซึ่งกำลังหารืออยู่กับก.ล.ต. ต้องดูอย่างรอบคอบ ทั้งเรื่องของทุนจดทะเบียน กำไรบริษัท ซึ่งต้องยอมรับว่าธุรกิจStartup มีทุนจดทะเบียนต่ำและกำไรอาจจะน้อย เพราะเป็นธุรกิจเพิ่งเริ่มต้น ดังนั้นต้องกำหนดเกณฑ์ที่เหมาะสมเพื่อส่งเสริมให้ธุรกิจStartup ที่มีศักยภาพเข้ามาจดทะเบียนได้” นายประพันธ์ กล่าว
นอกจากนี้จะต้องมีการกำหนดคุณสมบัติของนักลงทุนที่จะเข้ามาซื้อหุ้นในธุรกิจStartup ด้วยว่า ต้องเป็นนักลงทุนที่มีความรู้ มีความเข้าใจเรื่องธุรกิจและการเงิน เพราะการลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจStartupมีความเสี่ยงมากกว่าการลงทุนในบริษัทจดทะเบียนทั่วไป จึงไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนรายย่อย
นายกิติพงศ์ พร้อมวงศ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ กล่าวว่า ได้ดำเนินโครงการพัฒนาย่านวิสาหกิจเริ่มต้น( Startup District ) โดยแบ่งเป็น 2ส่วน คือย่านมหาวิทยาลัย ซึ่งมีมหาวิทยาลัย 30แห่งเข้าร่วม จะส่งเสริมให้มีย่านStartup ในวิทยาเขต มหาวิทยาลัย ให้มีพื้นที่แก่นักศึกษา นักวิจัย และผู้ประกอบการ มาผลิตชิ้นงานและงานวิจัยต่างๆ ส่วนที่2 คือการสร้างย่านStartup ในพื้นที่และจังหวัดต่างๆ เช่น ถนนโยธี ถนนพระราม 6 ถนนบางรัก ถนนกล้วยน้ำไท กรุงเทพมหานคร และถนนนิมมานเหมินทร์ จังหวัดเชียงใหม่ นอกจากนี้จะเร่งสร้างและพัฒนาการบุคคลากรด้านไอที ฮาร์ดแวร์ Startup จำนวน 1,000คนภายในระยะเวลา 2ปี. เพื่อป้อนเข้าสู่ตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว.-สำนักข่าวไทย