นายกรัฐมนตรีไทย-มาเลเซียประชุมประจำปี หารือการค้า-สถานการณ์ใต้


ทำเนียบ 9 ก.ย.-นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ร่วมประชุมไทย-มาเลเซีย ประจำปีระหว่างนายกรัฐมนตรีกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ครั้งที่ 6 โดย 2 ประเทศพร้อมร่วมมือทุกด้าน ไทยขอบคุณมาเลเซียที่มีบทบาทในการพูดคุยสันติสุขชายแดนใต้ ย้ำมุ่งมั่นแก้ไขสถานการณ์โดยสันติวิธี พร้อมเป็นสักขีพยานลงนามบันทึกความร่วมมือโครงการนิคมอุตสาหกรรมยางพารา

D4S_9497


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 16.00 น.  พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้รอให้การต้อนรับ ดาโต๊ะ ซรี โมฮัมหมัด นาจิบ บิน ตุน อับดุล ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในโอกาสการเยือนไทยอย่างเป็นทางการ และเพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปีระหว่างนายกรัฐมนตรีกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ครั้งที่ 6

โดยได้มีการตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ จากนั้นจึงได้ร่วมหารือข้อราชการเต็มคณะรัหว่างคณะรัฐมนตรีของทั้งสองฝ่าย

ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ ได้มีการแถลงข่าวร่วมกัน โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวแสดงความยินดีที่ได้ต้อนรับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ทั้งสองฝ่ายยืนยันความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน มีความใกล้ชิดรอบด้าน มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงอย่างต่อเนื่อง และประชาชนในพื้นที่ชายแดนของทั้งสองประเทศมีความผูกพันกันในปี 2560 ทั้งสองประเทศจะเฉลิมฉลองการครบรอบ 60 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอีกด้วย ส่วนด้านความมั่นคงไทยและมาเลเซียต่างเผชิญกับประเด็นท้าทายความมั่นคงจากการก่อการร้ายระหว่างประเทศ จึงจะแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและข่าวกรองให้มากขึ้น


D42_7547โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีมาเลเซียในการดำเนินบทบาทอย่างสร้างสรรค์ในกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติภาพในจังหวัดชายแดนใต้ โดยย้ำว่ารัฐบาลไทยมีความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนใต้โดยสันติวิธีและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมาเลเซียเห็นว่ากระบวนการพูดคุยยังอยู่ในระยะเริ่มต้นของการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการกำหนดทิศทางของการพูดคุยในระยะต่อไป โดยต้องอาศัยเวลาและความจริงใจกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง สำหรับเรื่องบุคคลสองสัญชาติ ซึ่งเป็นประเด็นที่คั่งค้างมานาน ทั้งสองฝ่ายยังจะร่วมมือกันเพื่อพิจารณาจัดทำ MOU ความร่วมมือด้านการตรวจคนเข้าเมืองเพื่อช่วยตรวจตราและสอดส่องดูแลการสัญจรข้ามแดนไปมาของประชาชนทั้งสองประเทศ ทั้งนี้ผู้นำ 2 ประเทศยังได้ร่วมกันประนามเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ที่ทำลายชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้บริสุทธิ์

สำหรับความร่วมมือด้านการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรียืนยันความตั้งใจของรัฐบาลไทยที่จะร่วมมือกับรัฐบาลมาเลเซียเพื่อบรรลุเป้าหมายทางการค้ามูลค่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2561 โดยเห็นว่าภาคเอกชนทั้งสองประเทศมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายยินดีที่มีการจัดตั้งสภาธุรกิจมาเลเซีย-ไทยเมื่อเดือนสิงหาคม 2559 ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้า การลงทุนและเครือข่ายทางธุรกิจระหว่างสองประเทศ

ด้านการท่องเที่ยว ทั้งสองฝ่ายพร้อมร่วมมือกันส่งเสริมการเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวระหว่างกัน และสนับสนุนการเปิดเที่ยวบินต้นทุนต่ำให้บริการเพื่อเชื่อมโยงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญระหว่างกัน ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าไทยพร้อมสนับสนุนมาเลเซียในการเป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมกีฬาซีเกมส์ 2017 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ด้วย

การส่งเสริมความร่วมมือด้านพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมและการเชื่อมโยงในพื้นที่ชายแดน ทั้งสองฝ่ายมุ่งหวังพัฒนาเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ชายแดนเพื่อส่งเสริมความกินดีอยู่ดีของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งไทยและมาเลเซียต่างยินดีที่โครงการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ชายแดนสำคัญมีความคืบหน้า อาทิ การขยายด่านศุลกากรสะเดา-จังหวัดสงขลา-บูกิตกายูฮิตัม โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโกลกสองแห่ง ด่านศุลกากรบ้านประกอบ จังหวัดสงขลา-ดุเรียนบุหรง รัฐเกดะห์ การเชื่อมโยงโครงการเมืองยางพารา (Rubber City)

ส่วนความร่วมมือด้านการศึกษา นายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณมาเลเซียที่มอบทุนการศึกษาแก่นักเรียนไทยมุสลิมจากจังหวัดชายแดนใต้ พร้อมขอบคุณมาเลเซียที่สนับสนุนการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนศาสนาอิสลามในจังหวัดชายแดนใต้ด้วยD41_8182

ขณะที่ความร่วมมือด้านแรงงาน นายกรัฐมนตรีพร้อมสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลมาเลเซียในการจดทะเบียนแรงงานต่างชาติที่ทำงานในมาเลเซียอย่างผิดกฏหมาย และแสดงความยินดีกับการพิจารณาของฝ่ายมาเลเซียในการออกใบอนุญาตทำงานพิเศษแก่แรงงานไทยในร้านอาหารไทยได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งนี้ไทยพร้อมจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะทำงานร่วมด้านแรงงานระหว่างไทยกับมาเลเซียในโอกาสแรก

ความร่วมมือด้านอาหารฮาลาล ทั้งสองฝ่ายเห็นว่าการค้าและอุตสาหกรรมฮาลาลเป็นสาขาที่เติบโตอย่างต่อเนื่องและมีศักยภาพทางความร่วมมือระหว่างไทยกับมาเลเซีย พร้อมยินดีที่มีการหารือเกี่ยวกับการจัดตั้งสภาธุรกิจฮาลาลระหว่างมาเลเซียกับไทย ซึ่งนายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีกับความสำเร็จของมาเลเซียในการจัดงาน World Halal Conference 2016 เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

ก่อนจบการหารือนายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณในโอกาสที่นายกรัฐมนตรีมาเลเซียตอบรับเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกรอบความร่วมมือเอเชีย (ACD Summit) ครั้งที่ 2 ซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพ ในเดือนตุลาคมนี้ด้วย

ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือข้อราชการ นายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ร่วมกันเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือโครงการนิคมอุตสาหกรรมยางพารา (Rubber City) สงขลา และนิคมอุตสาหกรรมยางพารา โกตา ปุตรา ระหว่างการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และบริษัทเทรดวินส์ แพลนเทชั่น เบอร์หาด

ทั้งนี้หลังเสร็จสิ้นการเเถลงข่าวนายกรัฐมนตรีและภริยาเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำแด่ผู้นำมาเลเซียและ ภริยาด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

ลอบวางระเบิด 2 จุด กลางตลาดโต้รุ่งเมืองปัตตานี

ปัตตานี 8 มิ.ย. – คนร้ายลอบวางระเบิดกลางตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี รถจักรยานยนต์เสียหาย 2 คัน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต วันที่ 8 มิ.ย.68 เวลา 20.00 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มจำนวน ลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 2 ลูก โดยจุดแรก วางระเบิดในถังขยะ หน้าร้านทอง บริเวณตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย จำนวน 2 คัน และจุดที่ 2 วางระเบิดในถังขยะ บริเวณในซอยข้างโรงแรม หลังตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต การก่อเหตุครั้งนี้ คาดว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตามข้อมูลข่าวสารที่หน่วย ส.จว.ปัตตานี ได้ออกข่าวแจ้งเตือนไปแล้ว เมื่อวันที่ 26 พ.ค.68 เวลา 15.00 น. ปรากฏข่าวสารว่า นายมะกอเซ็ง หม้าแอ สมาชิก ผกร.ระดับปฏิบัติการ และสมาชิกจำนวน […]

นายกฯ เผยหารือกัมพูชา ตกลงปรับกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่าย ลดเผชิญหน้า

ทำเนียบรัฐบาล 8 มิ.ย. – นายกฯ เผยหารือกับรัฐบาลกัมพูชา ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดการเผชิญหน้า เดินหน้าใช้กลไก JBC 14 มิ.ย.นี้ นำพาความสัมพันธ์เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ความพยายามคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดน โดยการปฏิบัติงานของทั้งระดับนโยบาย โดยรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง กองทัพ กระทรวงการต่างประเทศ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับค่ะ ดิฉันได้หารือกับรัฐบาลกัมพูชา มีข้อสรุปที่ส่งผลดีต่อสถานการณ์ โดยทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร ณ จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดบรรยากาศการเผชิญหน้า และจะพัฒนาความร่วมมือโดยใช้กลไก JBC ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ และจะมีการพูดคุยกันในทุกระดับ เพื่อนำพาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วค่ะ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามสถานการณ์และข้อเท็จจริงจากรัฐบาล พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจนประสบผลสำเร็จต่อไป สุดท้ายนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้โปรดคลายความกังวล และมีความมั่นใจในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลว่า จะไม่มีเหตุกระทบกระทั่งที่รุนแรงเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ.-316-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งกองกำลังสุรนารี ปรับเวลาเปิด-ปิด จุดผ่านแดนกัมพูชา 

8 มิ.ย.- เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แม่ทัพภาค 2 ลงนามคำสั่งให้อำนาจผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พิจารณาปรับเวลาเปิด-ปิด ด่านถาวรและจุดผ่อนปรนการค้า 4 ด่าน มีผลทันทีเมื่อคืนนี้ กองทัพภาคที่ 2 ออกหนังสือคำสั่ง การควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ตามคำสั่งกองทัพบก เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ให้กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังกำลังสุรนารีมีอำนาจการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี วิธีการและเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลา ที่จำเป็นเหมาะสม ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ดังนี้