พระประแดง 13 พ.ย. – ใครได้ใครเสีย! กับ พ.ร.บ.มวย 2542 ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีขึ้นชก หลักนักมวยเด็ก “เพชรมงคล” สังเวยชีวิตคาสังเวียน
ระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมามีความพยายามที่จะผลักดันให้มีการแก้ไขพระราชบัญญัติกีฬามวย พ.ศ.2542 ที่ระบุเอาไว้ใน มาตรา 29 ว่า นักมวยที่จะจดทะเบียนได้จะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์ เพื่อความปลอดภัยของเด็กและเยาวชน แต่ก็ถูกกระแสต่อต้านจากเวทีมวย ค่ายมวย และหัวหน้าค่ายมวย ที่ถือเป็นผู้ที่ได้ผลกระทบและเสียประโยชน์จาก พ.ร.บ.นี้
ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์เศร้าของวงการมวยเด็ก ในการชกมวยที่พระประแดง ระหว่าง เพชรมงคล ป.พีณภัทร พบกับ ฟ้าใหม่ ส.พระนคร และเป็น เพชรมงคล ที่ถูกหมัดชุดของฟ้าใหม่ จนร่วงลงไปกองกับพื้น ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังจากถูกนำตัวไปส่งที่โรงพยาบาล ซึ่งสาเหตุพบว่าเสียชีวิตจากอาการเลือดคั่งในสมอง
โดยพลเอกอดุลยเดช อินทะพงษ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พร้อมคณะ ที่ได้ร่วมเสนอร่างพระราชบัญญัติกีฬามวย ฉบับแก้ไข เพื่อใช้แทนฉบับ ปี 2542 ใจความสำคัญ คือการห้ามมิให้ผู้จัดรายการแข่งขันกีฬามวย และนายสนามมวยอนุญาตให้เด็กมีอายุต่ำกว่า 15 ปี เข้าร่วมแข่งขัน แต่หากมีการอนุญาตต้องได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียน ซึ่งเด็กนั้นต้องมีอายุไม่กว่า 12 ปี และการจัดการแข่งขันต้องมีเครื่องป้องกันและกติกาที่เหมาะสม ซึ่งปัจจุบันการชกมวยเด็กขัดต่อกฏหมายคุ้มครองเด็กและเยาวชน ทำให้ตนเองและคณะเล็งเห็นถึงผลกระทบต่อเด็ก อยากให้เด็กได้ฝึกฝนที่ถูกต้องตามวัยเพื่อสร้างความแข็งเกร่งให้กับเด็กในอนาคต ส่วนการคัดค้านจากคนในวงการมวย โดยเฉพาะ สมาคมมวยอาชีพแห่งประเทศไทย ที่บอกว่าหาก พ.ร.บ.ฉบับนี้ออกมาใช้จริงอาจเกิดผลกระทบต่อเด็กฯ กว่า 300,000 คนทั่วประเทศ ซึ่งตนเองเข้าใจดีและพร้อมรับฟังความคิดเห็นจากผู้คัดค้าน ที่สามารถส่งข้อมูลมาที่ตนเอง หรือผู้แทนรัฐบาล และผู้แทนจากกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาได้เสมอ
สำหรับผลการสำรวจของสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่เป็นนายทะเบียนตาม พ.ร.บ.กีฬามวย พ.ศ.2542 ได้เก็บรวบรวมข้อมูลการขึ้นทะเบียน 3 ปีล่าสุด ปรากฏว่า ปี 2559 นักมวยอายุต่ำกว่า 15 ปี ขึ้นทะเบียนในส่วนกลาง 54 คน ส่วนภูมิภาค 299 คน ปี 2560 นักมวยอายุต่ำกว่า 15 ปี ขึ้นทะเบียนในส่วนกลาง 45 คน ส่วนภูมิภาค 230 คน ปี 2561 นักมวยอายุต่ำกว่า 15 ปี ขึ้นทะเบียนในส่วนกลาง 50 คน ส่วนภูมิภาค 46 คน ซึ่งนี่เป็นเพียงตัวเลขอย่างเป็นทางการเท่านั้น เชื่อว่าในความเป็นจริงแล้วนักมวยไทยเด็กน่าจะมีมากกว่านี้ เพราะอีกจำนวนมากที่ยังขึ้นทะเบียนไม่ถูกต้อง
ด.ญ.แพรทิพย์ ปวุตินันท์ หรือ น้องแพร วัย 11 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 หมู่ 1 ต.คูบัว อ.เมือง จ.ราชบุรี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาล 5 ที่มีความกตัญญูต่อพ่อ แม่ และพี่ๆ ใช้เวลาว่างเท่าที่มี ทำทุกอย่างภายในบ้านทั้งทำความสะอาดบ้าน เก็บขยะขาย รับจ้างอุ้มสุนัข แมว ไปหาหมอ และตระเวนต่อยมวยตามเวทีต่างๆ เพราะทางบ้านยากจน เล่าว่า ต่อยมวยมาได้ประมาณเกือบ 2 ปีแล้ว รู้สึกสงสารพ่อ กับแม่ และพี่ๆ เพราะพ่อต้องหาเงินส่งให้พี่เรียนหนังสือ จึงอยากช่วยเหลือครอบครัวบ้าง โดยตัวเองได้ชกมวยแต่ละครั้งจะได้ค่าตัว 300-500 บาท
ขณะที่นายกฤตภาส ปวุตินันท์ อายุ 49 ปี พ่อของน้องแพร เปิดเผยถึง กรณีมีข่าวเรื่องจะไม่ให้เด็กที่อายุต่ำกว่า 15 ปีชกมวยตามเวทีต่างๆ นั้น คิดว่าเป็นไปไม่ได้เพราะคนที่ยึดอาชีพนักมวย ถ้าไม่เริ่มชกมวยตั้งแต่อายุ 5 ขวบแล้ว กระดูกสู้เขาไม่ได้แน่นอน หากเริ่มช่วงตอนอายุ 15 ปีขึ้นไป ต่อยมวยไม่ได้แน่ แต่ถ้าฝึกไว้เพื่อป้องกันตัวได้
นพฤทธิ์ ยูฮันเงาะ เจ้าของค่ายมวย ทรายกองดิน ที่อยู่ถนนสุวินทวงศ์ มองว่า ยังเป็นที่ถกเถียงกันในแวดวงกีฬามวย สำหรับ (ร่าง) พ.ร.บ.กีฬามวย พ.ศ.2542 ฉบับแก้ไขใหม่ ที่นำเสนอโดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. โดยเฉพาะกรณี การห้ามมิให้ผู้จัดรายการแข่งขันกีฬามวย และนายสนามมวยอนุญาตให้เด็กมีอายุต่ำกว่า 15 ปี เข้าร่วมแข่งขัน แต่หากมีการอนุญาตต้องได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียน ซึ่งเด็กนั้นต้องมีอายุไม่กว่า 12 ปี และการจัดการแข่งขันต้องมีเครื่องป้องกันและกติกาที่เหมาะสม
โดยตัวแทนผู้ที่อยู่ในแวดวงกีฬามวย ทั้งโปรโมเตอร์ เจ้าของค่ายมวย กรรมการมวย หรือนักมวยอาชีพต่างมองว่า พ.ร.บ.ดังกล่าว เป็นการจำกัดสิทธิ์ของนักชกอายุ 12 ปี ที่มีอยู่ตามเวทีต่างทั่วประเทศกว่า 300,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กฐานะยากจน เข้าสู่วงการกีฬามวย เพราะต้องการหารายได้ไปจุนเจือครอบครัว รวมทั้งจะส่งผลกระทบต่อการพัฒนาวงการมวยไทยอย่างมาก เนื่องจากนักมวยที่ประสบความสำเร็จ ต้องมีการฝึกซ้อมเพื่อสั่งสมประสบการณ์ตั้งแต่เด็ก หรือที่วงการกีฬามวยเรียกว่า การสร้างกระดูกมวยให้แข็งแกร่ง
1 ในความกังวลของ สนช. และเป็นที่มาของความพยายามในการแก้ไข (ร่าง) พ.ร.บ. ดังกล่าว คือ ความเป็นห่วงผลกระทบด้านร่างกายของนักชกเด็ก ที่อาจได้รับบาดเจ็บจนส่งผลต่อร่างกายในระยะยาว
ที่ประชุมสมาคมมวยอาชีพแห่งประเทศไทย มีมติชัดเจนขอยื่นเรื่องคัดค้าน(ร่าง)พ.ร.บ.ดังกล่าว ต่อ 3 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ สำนักนายกรัฐมนตรี สภานิติบัญญัติแห่งชาติ และกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา โดยจะรวบรวมรายชื่อผู้ได้รับผลกระทบทั่วประเทศ นำเสนอไปพร้อมกัน และเสนอทางออกขอให้มีการจัดประชาพิจารณ์เพื่อรับฟังความคิดเห็นทุกฝ่ายก่อน
แฟนเพจเฟซบุ๊ก มวยไทย ครบวงจร โพสต์ภาพและข้อความระบุว่าขอแสดงความเสียใจกับ “เพชรมงคล ป.พีณภัทร” ที่เมื่อคืนชกมวยที่พระประแดง เจอ “ฟ้าใหม่ ส.พระนคร” เกิดอาการเลือดคั่งในสมองเสียชีวิต กระแสยิ่งแรงอยู่ห้ามเด็กชกมวย ขอให้น้องไปสู่ภพภูมิที่ดีด้วยนะครับ
ขณะที่เฟซบุ๊ก จิต บึงกาฬ โพสต์ภาพและข้อความระบุว่าขอแสดงความเสียใจด้วยครับ กว่าจะได้เงินมาแต่ละบาท ต้องแลกด้วยชีวิต R.I.P เพชรมงคล ป.พีณภัทร ชกมวยเมื่อคืน เลือดคั่งในสมองเสียชีวิต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดในวงการมวยมีการประมูลกางเกงมวย เพื่อหารายได้ให้กับครอบครัว “เพชรมงคล ป.พีณภัทร” อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ สนช. มีความพยายามที่จะผลักดันให้ร่างพระราชบัญญัติกีฬามวย พ.ศ.2542 แก้ไขเพิ่มเติม และเป็นประเด็นถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง ห้ามเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี ขึ้นชกมวยไทย โดยในการจัดการแข่งขันต้องมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมประสบการณ์ในกิจกรรมด้านการกีฬา และมีมาตรการป้องกันอันตรายทางร่างกาย และมีกฎกติกาการเล่นที่เหมาะสมเป็นการเฉพาะ
ขณะเดียวกันที่ เวทีมวยมาตรฐานอย่างเวทีมวยลุมพินี ถ.รามอินทรา กม.2 ก็ออกมาแสดงจุดยืนคัดค้านการผลักดันร่างกฎหมายดังกล่าวอีกด้วยเช่นกัน โดยเมื่อวันที่ 6 พ.ย.61 ที่ผ่านมา มีการส่งแบบสำรวจไปยังค่ายมวยและหัวหน้าค่ายมวยต่างๆ เพื่อขอให้ร่วมกันแสดงจุดยืนคัดค้านร่างกฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีขึ้นชกมวย โดยขอให้ทุกค่ายส่งรายชื่อนักมวยในสังกัด และขอให้แสดงเหตุผลของการคัดค้านดังกล่าว
ผลการสำรวจของสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่เป็นนายทะเบียนตาม พ.ร.บ.กีฬามวย พ.ศ. 2542 จากข้อมูล ณ วันที่ 6 มี.ค.60 พบว่าในแต่ละปีมีนักมวยเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ขึ้นทะเบียนเป็นนักมวยจำนวนมากและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี โดยระหว่างปี 2553-2560 มีนักมวยไทยเด็กขึ้นทะเบียนไว้กว่า 10,373 คน ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ไม่ห่างจากนักมวยผู้ใหญ่ที่มีอายุเกิน 15 ปี ที่ขึ้นทะเบียนไว้ 17,508 คน ซึ่งนี่เป็นเพียงตัวเลขอย่างเป็นทางการเท่านั้น เชื่อว่าในความเป็นจริงแล้วนักมวยไทยเด็กน่าจะมีมากกว่านี้ โดยมีการประมาณการเมื่อปี 2550 ว่าน่าจะมีถึง 100,000 คน .- สำนักข่าวไทย
ขอบคุณคลิปจาก You Like Muay Thai
