กรุงเทพฯ 13 พ.ย. – ธ.ก.ส.เร่งจ่ายเงินช่วยค่าเก็บเกี่ยวและปรุงปรับคุณภาพข้าว ตั้งเป้าโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรภายใน พ.ย.นี้ อีกกว่า 3.6 ล้านราย กว่า 51,000 ล้านบาท
นายศรายุทธ ยิ้มยวน รองผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2561 เห็นชอบให้ ธ.ก.ส.ดำเนินโครงการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวให้แก่เกษตรกรรายย่อยผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2561/2562 ให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวหอมมะลิ ข้าวเหนียว ข้าวเจ้าและข้าวปทุมธานี 1 ที่ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวกับกรมส่งเสริมการเกษตรไร่ละ 1,500 บาท ตามพื้นที่ที่ปลูกข้าวจริงแต่ไม่เกินรายละ 12 ไร่ หรือครัวเรือนละไม่เกิน 18,000 บาท เพื่อให้เกษตรกรมีเงินทุนหมุนเวียนเป็นค่าใช้จ่ายเก็บเกี่ยวและการนำข้าวเปลือกมาปรับปรุงคุณภาพโดยการลดความชื้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายข้าวเปลือกได้ในราคาที่สูงขึ้น หรือนำข้าวเปลือกไปเก็บไว้ในยุ้งฉางที่เหมาะสม อันเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงที่ราคาข้าวตกต่ำ โดยมีเป้าหมายเกษตรกรที่จะได้รับประโยชน์ประมาณ 4.05 ล้านราย พื้นที่การผลิต 38 ล้านไร่ วงเงิน 57,722 ล้านบาท
นายศรายุทธ กล่าวว่า ธ.ก.ส.เร่งตรวจสอบข้อมูลรายชื่อเกษตรกรตามข้อมูลที่ได้รับจากกรมส่งเสริมการเกษตร เพื่อนำมาสอบทานกับข้อมูลเกษตรกรผู้ประสบภัยธรรมชาติที่ทำให้นาข้าวเสียหายและได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลไปแล้ว เพื่อไม่ให้เกิดการซ้ำซ้อนตามเงื่อนไขของโครงการ พร้อมเร่งจ่ายเงินช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวให้แก่เกษตรกร โดยโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากเกษตรกรโดยตรง 361,457 ราย เป็นเงิน 5,612 ล้านบาท นอกจากนี้ ได้วางเป้าหมายในการจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการอีก 3.6 ล้านราย วงเงินประมาณ 51,000 ล้านบาท ภายใน 30 พฤศจิกายน 2561 สำหรับเกษตรกรพื้นที่ภาคใต้และภาคตะวันตก ซึ่งจะมีการเก็บเกี่ยวผลผลิตล่าช้ากว่าภาคอื่น ๆ นั้น ธ.ก.ส.จะร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งจ่ายเงินให้เสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 อย่างแน่นอน เพื่อให้เงินดังกล่าวถึงมือเกษตรกรโดยเร็วที่สุด.-สำนักข่าวไทย