ตร.เผยกลุ่มนักเรียนยกพวกตีกันปากซอยรามอินทรา40เหตุปมชู้สาว

กรุงเทพฯ 8 พ.ย.- ตำรวจ สน.โคกครามกลุ่มนักเรียนก่อเหตุทะเลาะวิวาท บริเวณปากซอยรามอินทรา 40 ของวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมามารับทราบข้อหาและทำประวัติแล้ว ยันชนวนเหตุมาจากปมชู้สาวและเรื่องส่วนตัว


พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงเหตุมีกลุ่มนักเรียนวัยรุ่นทะเลาะวิวาทบริเวณปากซอยรามอินทรา 40 พื้นที่ สน.โคกคราม   ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2561 เวลาประมาณ 16.00 น.    ได้รับแจ้งเหตุ กลุ่มนักเรียนวัยรุ่นตีกัน  บริเวณปากซอยรามอินทรา40  แขวงนวลจันทร์  เขตบึงกุ่ม  กทม.     เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องจึงรีบเดินทาง เพื่อเข้าระงับเหตุ   เมื่อมาถึงในบริเวณที่เกิดเหตุ พบกลุ่มนักเรียนวัยรุ่น จำนวนประมาณ  17 คน กำลังก่อเหตุทะเลาะวิวาทกัน  เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและพลเมืองดีได้เข้าไปช่วยยุติการทะเลาะกัน  กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวก็ได้พากันแยกย้ายไปจากจุดที่เกิดเหตุ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้เชิญตัวเยาวชนผู้ก่อเหตุตามที่ปรากฏในคลิปบนโลกโซเชียลมีเดีย  รวมจำนวน 17 คน  มาพบพนักงานสอบสวน จากนั้นพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการตามกฎหมาย  ทำการแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบพร้อมเปรียบเทียบปรับและจัดทำประวัติ   โดยได้เชิญคณะครูอาจารย์ และผู้ปกครอง  เข้าร่วมรับฟังและดำเนินการในส่วนเกี่ยวข้องต่อไป


จากการสืบสวนและสอบสวนพบว่ากลุ่มก่อเหตุ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม   กลุ่มแรก 11 คน เป็นนักเรียนทั้งหมด ,กลุ่มสอง 6 คน เคยเป็นนักเรียนทั้งหมด(อยู่ระหว่างพักการเรียน)  โดยพบว่าเป็นเรื่องปัญหาชู้สาวซึ่งเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ได้เป็นปัญหาความขัดแย้งระหว่างสถาบันแต่อย่างใด   

ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีมาตรการป้องกันเหตุดังกล่าว   โดยจัดการประชุมหามาตรการป้องกันร่วมกับอาจารย์โรงเรียนนวมินทร์การอาชีพ  พร้อมทั้งให้โรงเรียนหามาตรการลงโทษเด็กเยาวชนที่ก่อเหตุ ร่วมกับทาง     สน.โคกคราม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุอีก     และฝ่ายป้องกันปราบปรามได้ปรับแผนการตรวจเพื่อป้องกันเหตุ และให้ตำรวจชุดมวลชนสัมพันธ์ลงพื้นที่เพื่อหาทางป้องกันอีกทางหนึ่ง    และแสวงหาช่องทางในการแจ้งเหตุระหว่างตำรวจและโรงเรียนโดยตรง   พร้อมทั้งให้ชุดสืบสวนหาข่าวในเชิงลึกเพื่อป้องกันเหตุต่อไป

รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า ขอฝากเตือนไปยังกลุ่มที่คิดจะก่อเหตุในลักษณะนี้   ซึ่งการกระทำในลักษณะดังกล่าวเข้าข่ายความผิดฐาน ใช้กำลังทำร้ายผู้อื่น เป็นอันตรายแก่กายหรือจิตใจ จำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391     ทั้งนี้ ขอเตือนไปยังเยาวชนวัยรุ่นอย่ากระทำการด้วยความคึกคะนองใช้กำลังตัดสินแก้ปัญหา เพราะ ผิดกฎหมายบ้านเมือง จะส่งผลกระทบต่อตัวเองและครอบครัว และเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีต่อสังคม ควรรู้จักอดทน อดกั้น ใช้การพูดคุยปรับความเข้าใจกันและหาทางออกของปัญหาอย่างสันติวิธี


ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้เน้นย้ำให้ตำรวจทั่วประเทศยึดแนวทางการปฏิบัติตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 30/2559 ในการป้องกันการก่อเหตุทะเลาะวิวาทของเยาวชนอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการขอความร่วมมือให้ผู้ปกครองเด็กและเยาวชนช่วยดูแล พูดคุยกับบุตรหลานให้ทราบถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น ขณะที่สถานศึกษาควรจัดกิจกรรม เร่งรัด ป้องกันไม่ให้เกิดการทะเลาะวิวาทอีกทั้งยังได้กำชับให้เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันอาชญากรรม ในการเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตรา ทั้งจุดตรวจ จุดสกัด ตรวจค้นรถทุกชนิดและบุคคลเป้าหมาย โดยเน้นการตรวจค้น จับกุม อาวุธปืน อาวุธสงคราม ยาเสพติด บุคคลตามหมายจับ และสิ่งผิดกฎหมายต่างๆ เพื่อลดอาชญากรรมและป้องกันภัยที่อาจเกิดขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก