จับ2สามีภรรยาหลอกลงทุนทองคำอ้างผลตอบแทนสูงมีเหยื่อกว่า100รายหลงเชื่อสูญเงินกว่า200ล้าน

กรุงเทพฯ 7 พ.ย.- จับ2สามีภรรยาฉ้อโกง ปชช.หลอกลงทุนแปรสภาพทองคำแท่งเป็นทองรูปพรรณ อ้างผลตอบแทนปีละ200-300%ผู้เสียหายหลงเชื่อ100คนสูญเงินกว่า 200 ล้าน


พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทนผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงจับกุม นางเพ็ญศรี มีพิมพ์ และนายรักประมวล หลุยจันทึก 2 สามีภรรยา เจ้าของบริษัท เคทีพีโกลด์ ในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน โดยหลอกให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนแปรสภาพทองคำแท่งเป็นทองคำรูปพรรณ โฆษณาผ่านเว็บไซต์ “ WWW.KTPGOLD.COM ”  อ้างจะได้รับผลตอบแทน 200-300% ต่อปี หากสนใจร่วมลงทุนได้ ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ 1.ร่วมลงทุนรับรายได้แบบรายวัน เช่น ลงทุน1ล้านบาท กำไรตอบแทนคืน 25,000บาท คิดเป็น 25% ต่อเดือนเฉลี่ย300%ต่อปี และ 2.ร่วมลงทุนรับรายได้แบบรายสัปดาห์ เช่นลงทุน1ล้านบาท ได้ตอบแทนคืนสัปดาห์ละ140,000บาท เฉลี่ยกำไร 200 %/ปี  และยังระบุอีกว่าหากหาคนมาเพิ่มร่วมลงทุนจะรับค่าคอมมิชชั่น 6% ทำให้มีประชาชนสนใจและร่วมลงทุนกว่า100ราย ซึ่งช่วงแรกผู้ลงทุนได้รับผลตอบแทนปกติตรงเวลา ผู้เสียหายจึงไว้ใจลงทุนเพิ่ม หลังจากนั้นกลับไม่ได้ผลตอบแทนตามที่กำหนด และเมื่อสอบถามไปยังผู้ต้องหา ก็อ้างว่าถูกเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอายัดบัญชี เนื่องจากถูกสงสัยว่าฟอกเงิน แต่ผู้เสียหายไม่เชื่อจึงมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเบื้องต้นมูลค่าความเสียหายกว่า 200 ล้านบาท

พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์  ฝากเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อว่าจะมีการลงทุนที่ได้ผลกำไรตอบแทนในราคาสูง ทั้งนี้จะเร่งรัดในการดำเนินการสืบทรัพย์ของผู้ต้องหาเพื่อที่จะติดตามทรัพย์มาเฉลี่ยคืนให้กับผู้เสียหาย และขยายผลจับกุมเครือข่ายที่เหลือ ล่าสุดตำรวจได้ร่วมกับระบบเครือข่ายมือถือส่งข้อความประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนระวังการถูกหลอกในลักษณะดังกล่าว  และตั้งกองบัญชาการปราปปรามในภูมิภาคต่างๆ เพื่อรับเรื่องร้องเรียนและเยียวยาประชาชน 


ด้านหญิงผู้เสียหาย เล่าว่า ได้ข้อมูลการลงทุนจากเพื่อนที่รู้จักกัน ลงทุน 1 ล้านบาท เพียง 7 วันได้ผลตอบแทน 5 แสน และมีการพาไปชมโรงงานทำทอง จัดอบรมสัมมนาให้ความรู้ ทำให้น่าเชื่อถือ จึงหลงเชื่อร่วมลงทุนไป 2 ครั้ง รวม 2 ล้านบาท ผ่านไปไม่ถึงสัปดาห์ผู้ต้องหาประกาศปิดเพจ จึงรู้สึกผิดสังเกตทวงถามไปแต่ได้คำตอบไม่มีเงินจ่ายให้แล้ว เนื่องจากบัญชีเงินถูกอายัดเพราะมีการเคลื่อนไหวมากผิดปกติ ตนจึงเจ้าแจ้งความกับตำรวจเพื่อดำเนินคดีทันที.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ที่ทำการพรรคเพื่อไทยแห่งใหม่

ทำบุญเปิดที่ทำการพรรคเพื่อไทยแห่งใหม่

“แพทองธาร” ควง “ทักษิณ” ทำบุญเปิดที่ทำการพรรคเพื่อไทยแห่งใหม่ รมต.-แกนนำ-สส. พรรคเข้าร่วมพร้อมเพรียง ด้าน “ไชยชนก ชิดชอบ” เลขาธิการ ภท. มอบกระเช้าแสดงความยินดี

ชายฉกรรจ์ดักรุมทำร้ายหมอเจ้าของคลินิกเวชกรรม ย่านสีลม

ายฉกรรจ์ดักรุมทำร้ายหมอ หน้าคลินิกเวชกรรม ย่านธุรกิจสีลม จนเลือดอาบ เบื้องต้นไม่ทราบว่าคนร้ายเป็นใคร

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนหนาวเย็นลง 1-2 องศาฯ ลมแรง

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นลงกับมีลมแรง อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อย

ระทึก! ปิดล้อมก่อนปะทะ แนวร่วมดับ 4 ที่ยะลา คาดเตรียมก่อเหตุใหญ่

เหตุปิดล้อมปะทะกลุ่มคนร้าย ที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ยืนยันมีคนร้ายเสียชีวิต 4 ราย คาดเตรียมก่อเหตุใหญ่ในพื้นที่

ออกหมายจับ 2 ชายฉกรรจ์รุมทำร้ายหมอเจ้าของคลินิกเวชกรรม

ศาลอนุมัติหมายจับ 2 ชายฉกรรจ์รุมทำร้ายนายแพทย์ เจ้าของคลินิกเวชกรรม ย่านสีลม ด้านผู้เสียหายเชื่อมีคนบงการ เพราะมีการวางแผนเป็นระบบ ส่วนอาการบาดเจ็บดีขึ้นแล้ว

ญาติร้องสื่อ หนุ่ม ปวส.ฝึกงานที่ญี่ปุ่น ดับปริศนา

น้าสาวร้องสื่อ หลานชายจบ ปวส. ฝึกงานที่ญี่ปุ่น หายตัวปริศนา 1 เดือน สุดท้ายกลายเป็นศพ วอนช่วยประสานนำร่างกลับไทย เชื่อถูกฆาตกรรม เผยร้องหลายหน่วยงานนานนับเดือน แต่ไร้ความช่วยเหลือ