ตร.สภ.ช้างเผือกยันเอาผิดชายขับเก๋งพุ่งชนจยย.เสียชีวิตและบาดเจ็บไม่ผิดคนแน่

กรุงเทพฯ 7 พ.ย.- ตำรวจ สภ.ช้างเผือก ยันดำเนินคดีกับชายขับรถเก๋งพุ่งชน รถ จยย.จนแม่เสียชีวิต ส่วนลูกบาดเจ็บอีก 2 คน หลังหลักฐานจากกล้องวงจรปิดชัดแม้พ่อจะออกมาสวมรอยรับผิดแทน จนถูกดำเนินคดีแจ้งความเท็จไปด้วย


พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้า กรณีรถยนต์เก๋งเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ของหญิงที่ขับขี่มามีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต  ในพื้นที่ สภ.ช้างเผือก ภ.จว.เชียงใหม่    ซึ่งมีสื่อนำเสนอว่ามีผู้อื่นมารับผิดแทนผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวและเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์   นั้น    พนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก ได้สอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานในวันเกิดเหตุนั้นได้มี  นายจรัล  เอกโสวรรณ  อายุ 66 ปี   มาแสดงตัวอยู่ในที่เกิดเหตุและแจ้งกับพนักงานสอบสวนว่าตนเป็นผู้ขับขี่รถยนต์คู่กรณี    พนักงานสอบสวนจึงได้ทำการสอบสวนปากคำและตรวจสอบพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องในเบื้องต้น   แต่ก็ยังไม่ได้ปักใจเชื่อแต่อย่างใด       หลังจากตรวจสอบพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องแล้วก็พบว่า นายจรัลฯ ไม่ได้เป็นผู้ขับขี่รถยนต์เก๋งตามวันเวลาเกิดเหตุ     ซึ่งจากคลิปวิดิโอ ของกล้องวงจรปิด บริเวณจุดเกิดเหตุ พบว่าผู้ขับขี่รถยนต์เก๋ง ทะเบียน  กษ-2822 เชียงใหม่   คันที่เกิดเหตุคือ   นายพศิน    เอกโสวรรณ   ซึ่งเป็นบุตรชายของนายจรัล  ฯ   

โดยพนักงานสอบสวนได้เรียกตัวนายพศินฯ  มาดำเนินคดีแล้ว และจะแจ้งข้อกล่าวหา ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และทรัพย์สินผู้อื่น เสียหาย, ขับรถแซงเพื่อขึ้นหน้ารถอื่น ภายในระยะ 30 เมตร ก่อนถึงทางร่วมทางแยก และขับรถก่อให้เกิด ความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น ต้องหยุดรถและให้ความช่วยเหลือตามสมควรและพร้อมแสดงตัว และแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่และในส่วนของนายจรัลฯ  ที่มาแสดงตนว่าเป็นผู้ขับขี่รถยนต์คันคู่กรณีในจุดเกิดเหตุแทนบุตรชายตนเองนั้น   พนักงานสอบสวนก็จะดำเนินคดีตามกฏหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป     


 รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า  คดีนี้มีการดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา  และให้ความเป็นธรรมสำหรับทุกฝ่าย     โดยพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานไปแล้วจำนวนหนึ่ง   ขณะนี้รอผลการชันสูตรพลิกศพจากแพทย์  รอผลการตรวจจากพิสูจน์หลักฐาน เพื่อมาประกอบคดี   อีกทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามตัวผู้ขับขี่รถยนต์เก๋งคู่กรณีมาดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว    ซึ่งตนได้รายงานให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. รับทราบแล้ว .-สำนักข่าวไทย     


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ฉายาสภาปี67

ฉายาสภาปี 67 สส. “เหลี่ยม(จน)ชิน” ด้าน วุฒิสภา “เนวิ(น)เกเตอร์”

สื่อสภาตั้งฉายาปี 67 สส. “เหลี่ยม(จน)ชิน” ด้านวุฒิสภา “เนวิ(น)เกเตอร์” ส่วน “วันนอร์” รูทีนตีนตุ๊กแก ประธานวุฒิฯ “ล็อกมง” ส่วนผู้นำฝ่ายค้านฯ “เท้งเต้ง”

มติกฤษฎีกา “กิตติรัตน์” คุณสมบัติไม่ผ่านนั่งประธานบอร์ด ธปท.

คณะกรรมการกฤษฎีกา 3 คณะ มีมติไม่ผ่านคุณสมบัติ “กิตติรัตน์ ณ ระนอง” เป็นประธานบอร์ดธนาคารแห่งประเทศไทย