ประชุมความปลอดภัยโลกลดความสูญเสียทางถนน

กรุงเทพฯ 5 พ.ย. – ทุกๆ 2 ปี 100 กว่าประเทศทั่วโลกจะต้องร่วมประชุมว่าด้วยการป้องกันการบาดเจ็บและการส่งเสริมความปลอดภัย เพื่อกำหนดแนวทางลดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชากรโลก ปีนี้เป็นครั้งที่ 13 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของไทย และเป็นประเทศที่ 2 ของภูมิภาคเอเชียที่ได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุม


สถิติการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากความไม่ปลอดภัย ทั้งความรุนแรง หรืออุบัติเหตุทุกรูปแบบ มีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นทุกปี ถือเป็นสถานการณ์ที่ทั่วโลกต้องเผชิญ การร่วมหาแนวทางป้องกัน ลดความสูญเสียอย่างยั่งยืน จึงเป็นหัวใจสำคัญของการประชุมความปลอดภัยระดับโลกครั้งนี้ และเป็นเวทีให้แต่ละประเทศถ่ายทอดบทเรียนความก้าวหน้าในการแก้ปัญหา และนำเสนอองค์ความรู้จากนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก ให้ทุกประเทศนำไปเป็นต้นแบบ กำหนดนโยบายด้านความปลอดภัยอย่างมีประสิทธิภาพ


ประเด็นที่ได้รับความสนใจมากที่สุด คือ ความสูญเสียจากอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งคร่าชีวิตคนทั่วโลกไม่ต่ำกว่า 1.2 ล้านคน/ปี ขณะที่ไทยวิกฤติหนัก แต่ละปีบาดเจ็บไม่น้อยกว่า 1 ล้านคน พิการ 40,000 คน เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 20,000 คน สูงเป็นอันดับ 2 ของโลก และมีแนวโน้มขึ้นเป็นอันดับ 1 สาเหตุเพราะไทยไม่มีหน่วยงานที่ทำหน้าที่ประสานทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องให้ทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ อีกทั้งการบังคับใช้กฎหมายไม่เข้มงวดเท่าที่ควร จึงเป็นโอกาสที่ไทยจะนำองค์ความรู้จากนานาประเทศมาประยุกต์ใช้ให้เป็นรูปธรรมมากที่สุด


ขณะที่นางโซเลกา แมนเดลา ทูตรณรงค์ด้านการสร้างวัฒนธรรมด้านความปลอดภัยจากแอฟริกา สะท้อนว่า เด็กเป็นอนาคตของประเทศ แต่กลับพบว่า มีเด็กไม่ต่ำกว่า 3,000 คน/ปี เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุระหว่างเดินทางไปเรียน หนึ่งในนั้นคือลูกของเธอ ซึ่งเสียชีวิตจากคนเมาแล้วขับ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลต้องมีนโยบายแก้ปัญหาอย่างจริงจัง รวมถึงสร้างหรือปรับปรุงถนนให้ได้มาตรฐานสากล เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน

นอกจากนี้ ความรุนแรงในเด็กและสตรี ไม่ว่าจะเป็นเด็กจมน้ำ บาดเจ็บทุกรูปแบบ ความปลอดภัยในการทำงาน เป็นอีกประเด็นที่หยิบยกมาหารือ ก่อนทำข้อเสนอต่อประชาคมโลก แล้วนำบรรจุในแผนยุทธศาสตร์ชาติเพื่อความผาสุกของคนไทย ก้าวสู่โลกที่ปลอดภัย ห่างไกลการบาดเจ็บและความรุนแรงอย่างยั่งยืน. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เมียติด GPS รถผัว ตามง้อถึงบ้าน ฝ่ายชายเมิน ยิงดับ

ภรรยาติด GPS รถสามี ตามง้อไม่สำเร็จ ซัดด้วยลูกโม่ตายคาใต้ถุนบ้าน คาดปมทะเลาะหึงหวง คิดจบชีวิตตัวเองตาม แต่พ่อสามียึดปืนไว้ทัน

ครูสูญเงิน 1.2 ล้านบาท มิจฉาชีพหลอกเป็นที่ดิน-จนท.ธนาคาร

ครูสาวชาวอุบลราชธานี ถูกมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นหน่วยงานราชการ และเจ้าหน้าที่ธนาคาร ใช้เบอร์ธนาคารโทรหาจึงหลงเชื่อ สูญเงินกว่า 1.2 ล้านบาท

สุราษฎร์ฯ คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงท่วมบ้าน-รีสอร์ต

ฝนตกหนัก-คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงซัดบ้านพัก-รีสอร์ต อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พังเสียหาย 4 หลัง เตือนเรือประมงงดออกจากฝั่ง

New threats in Los Angeles as wildfire switches direction

ไฟป่าแอลเอเปลี่ยนทิศสร้างปัญหาใหม่

ลอสแอนเจลิส 12 ม.ค.- รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเกิดภัยคุกคามใหม่วานนี้ เมื่อไฟป่าที่โหมไหม้เผาหลายพื้นที่ทั่วเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอเคาน์ตี้ได้เปลี่ยนทิศทาง ทำให้ต้องสั่งอพยพประชาชนเพิ่มเติม และกลายเป็นปัญหาท้าทายใหม่สำหรับทีมนักดับเพลิง พื้นที่เขตแคลิฟอร์เนียใต้เผชิญไฟป่ามาตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม โดยเกิดไฟป่าพร้อมกัน 6 จุดทั่วแอลเอเคาน์ตี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 คน  ผู้สูญหาย 13 คน  บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างเสียหายหรือถูกทำลายรวมแล้วกว่า 10,000 หลัง คาดว่าความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินจะเพิ่มขึ้นอีก เมื่อเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจสอบพื้นที่ประสบภัยได้อย่างละเอียด ขณะนี้ยังคงมีประชาชน 153,000 คนอยู่ภายใต้คำสั่งอพยพ และอีก 166,800 คน เสี่ยงต้องอพยพเนื่องจากมีการประกาศเคอร์ฟิวในทุกพื้นที่ที่มีการอพยพประชาชนหนีไฟป่า ขณะเดียวกันเครื่องบินกองทัพอากาศของเม็กซิโกได้ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเมื่อวานนี้ เพื่อนำทีมบุคคลากร 74 คนจากกองทัพบกและคณะกรรมาธิการป่าไม้แห่งชาติ ไปช่วยปฏิบัติการดับไฟป่าที่กำลังลุกไหม้ลามไม่หยุดทั่วเขตแคลิฟอร์เนียใต้ ภารกิจด้านมนุษยธรรมดังกล่าวครอบคลุมทั้งปฏิบัติการดับไฟป่าและปกป้องพลเรือน ขณะที่กงสุลเม็กซิโกในเมืองแอลเอประกาศไม่ปิดทำการและเสนอให้ที่พักพิงกับผู้ประสบภัยชาวเม็กซิโก ไม่ว่าจะมีสถานะเป็นผู้อพยพหรือไม่ ปัจจุบันมีชาวเม็กซิโกหรือลูกหลานชาวเม็กซิโกอาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียคิดเป็นเกือบร้อยละ 30 ของประชากรทั้งรัฐ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนืออากาศหนาว-ใต้ตอนล่างฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือมีอากาศหนาว ส่วนภาคอีสาน ภาคกลาง รวมทั้ง กทม-ปริมณฑล ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นถึงหนาว ภาคใต้ตอนล่าง มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

คนร้ายลอบวางระเบิด 2 พ่อลูก ครู ตชด. เสียชีวิต

คนร้ายลอบวางระเบิด ถนนศรีสาคร-จะแนะ จ.นราธิวาส รถกระบะของครูใหญ่โรงเรียน ตชด. และลูกชาย ขับผ่านมา พลิกคว่ำหลายตลบ ก่อนบุกมาจ่อยิงซ้ำจนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่เชื่อกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง หวังสร้างสถานการณ์ความปั่นป่วนในพื้นที่

“ตระกูลม่วงศิริ” ยกทีมซบพรรคเพื่อไทย

“ตระกูลม่วงศิริ” ยกทีมซบพรรคเพื่อไทย ด้าน “ธีรรัตน์” ต้อนรับกลับบ้านเก่า มองเป็นเรื่องน่ายินดีช่วยทำงานให้สำเร็จ ขณะที่ สก.ปชป.-ไทยสร้างไทย มาด้วย

นายกฯ เตรียมลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ 16 ม.ค.นี้

“แพทองธาร” นายกฯ เตรียมลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ 16 ม.ค.นี้ ติดตามโครงการพัฒนาพื้นที่ พบนักเรียน ประชาชน ร่วมมหกรรมแก้หนี้, พูดคุยผู้นำศาสนา-ผู้ประกอบการประมง-เร่งโครงการก่อสร้างสะพาน, ขุดลอกคลอง, โครงการเงินกู้ซอฟต์โลน