อียูชื่นชมการแก้ปัญหาประมงผิดกฎหมาย

ทำเนียบฯ 2พ.ย.- พล.ท.คงชีพ แถลงผลประชุม กขป.5 เผยอียูชื่นชมไทยแก้ปัญหาประมงผิดกฎหมาย เตรียมฟังข่าวดีธันวาคม  เผยหลังจากแก้ปัญหาสามารถลดการทำประมงที่ทำลายล้างตามชายฝั่งทะเล พบมีสัตว์อนุรักษ์ วาฬบรูด้า ปลาฉลามหัวค้อน ปลาฉลามหูดำ มากขึ้น  ปี 64 ห้ามนำเข้าขยะพลาสติกจากต่างประเทศเด็ดขาด


พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 (กขป.5) ครั้งที่ 9/2561 ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุม ว่าที่ประชุมรายงานถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาประมงผิดกฎหมาย (ไอยูยู) โดย 3 ปี ที่ผ่านมาผลการดำเนินการของไทยดีขึ้นตามลำดับ มีความคืบหน้าในการปรับปรุงกฎหมายและกองเรือต่าง ๆ ที่เข้ามาการแก้ปัญหาไอยูยู ทั้งนี้หลังจากที่สหภาพยุโรป (อียู) เดินทางมาตรวจสอบผลการปฏิบัติงานระหว่าง 13-19 ตุลาคมที่ผ่านมา ผลเป็นที่น่าพอใจและทางอียูได้ชื่นชมการดำเนินการของไทยที่สามารถเป็นตัวอย่างของการแก้ปัญหาการทำประมงที่ผิดกฎหมายให้กับภูมิภาคได้ และจะมีข่าวดีเรื่อง การแก้ไขทำประมงผิดกฎหมายภายในสิ้นเดือนธันวาคม หลังจากไทยเป็นเจ้าภาพประธานอาเซียนในปีหน้า

พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ลดการทำประมงที่ทำลายล้างตามชายฝั่งทะเล ทั้งฝั่งอันดามันและฝั่งอ่าวไทย  ไปจำนวนมาก เพื่อให้เกิดความสมดุลกับทรัพยากรทางทะเลที่มีอยู่อย่างจำกัด จึงทำให้พบว่ามีสัตว์อนุรักษ์เพิ่มมากขึ้น  เช่น วาฬบรูด้า ปลาฉลามหัวค้อน และปลาฉลามหูดำ  ที่พบเห็นได้มากขึ้น


โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ ขณะนี้ยุติการนำเข้าแล้วทั้งหมด 422 รายการ โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เคยนำเข้ามาก็ยุติทั้งหมด ยกเว้นแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีราคาสูง และมีเวลาใช้เวลานาน ทั้งนี้จะให้ 3 หน่วยงาน คือกรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมศุลกากรและกระทรวงพาณิชย์ เข้าไปช่วยกำหนดโควตาในระยะเวลา 2 ปี

พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า สำหรับเศษพลาสติก ที่ประชุมได้กำหนดให้ตั้งแต่ปี 2562 จะกำหนดการเข้าโควต้าไม่เกิน 70,000 ตันโดยให้ใช้พลาสติกไม่น้อยกว่า 30% ส่วนปี 2563 จะกำหนดโควตานำเข้า ไม่เกิน 40,000 ตันโดยให้ใช้ขยะพลาสติกในประเทศไม่เกิน 60% และในปี 2564 จะห้ามนำเข้าพลาสติกจากต่างประเทศโดยเด็ดขาด  และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามรายงานความคืบหน้าทุกเดือนติดต่อกัน

สำหรับการแก้ปัญหายาเสพติดที่ผ่านมาได้มีการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านเม็ด และที่ประชุมได้ตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนแก้ปัญหายาเสพติด ให้มีผลการรายงานทุก 1 เดือน โดยพล.อ.ประวิตร กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ห้ามการไหลมาเข้ามาของยาเสพติดในบริเวณชายแดนให้ได้มากที่สุดรวมทั้งดูสถานศึกษาและโรงงานต่าง ๆ ให้เป็นสถานที่ปลอดยาเสพติดด้วย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

K9 หยุดปฏิบัติภารกิจค้นหาผู้สูญหาย ตึกสตง. ถล่ม

K9 หยุดปฏิบัติภารกิจค้นหาผู้สูญหาย ตึกสตง. ถล่ม เพราะปฏิบัติหน้าที่ครบ 10 วันแล้ว เป็นปกติของการทำงาน หากปฏิบัติภารกิจต่ออาจจะทำให้บาดเจ็บได้ และการกู้ภัยที่เหลือตอนนี้จำเป็นต้องต้องใช้เครื่องจักรใหญ่เท่านั้น

เชียงรายพบสารหนูเกินมาตรฐานใน “น้ำกก” คาดจากเหมืองเมียนมา

สำนักงานสิ่งแวดล้อมฯ เชียงราย ได้รับร้องเรียนว่า “น้ำกก” มีสีขุ่น เมื่อนำไปตรวจพบสารหนูเกินค่ามาตรฐานหลายเท่า กระทบสุขภาพประชาชน คาดมาจากเหมืองแร่ทองคำในเมียนมา ผู้ว่าฯ เชียงราย เรียกประชุมด่วน