ราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ เกษตรกรเดือดร้อนหนัก จ่อบุกทำเนียบ

31 ต.ค.-วันที่ 1 พฤศจิกายน เป็นวันที่เกษตรกรชาวสวนปาล์ม ขีดเส้นขอฟังคำตอบการแก้ไขปัญหา หลังจากชุมนุมหลายวันก่อน และเดือดร้อนจากราคาปาล์มตกต่ำ โดยระบุว่าหากไม่มีคำตอบ จะยกพลจากภาคใต้ มาชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล


โดยราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันตกต่ำต่อเนื่อง ชาวสวนปาล์มน้ำมัน เช่นที่ กระบี่ สุราษฎร์ธานี บอกว่าราคาผลผลิตต่ำกว่าต้นทุน   ปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ กิโลกรัมละ 3  บาท ขณะที่ต้นทุนเฉลี่ยกิโลกรัมละ 3.70 บาท สวนทางกับราคาน้ำมันพืชในปัจจุบัน ลิตรละ 42 บาท ราคาที่เป็นธรรมต่อเกษตรกร ควรจะอยู่ที่ กิโลกรัมละ 4.50  บาท หรือ 5 บาท  จึงจะเหมาะสมกับต้นทุน  เพราะเกษตรกรต้องแบกรับภาระต้นทุนหลายอย่าง ค่าปุ๋ย ค่าแรง ค่าบรรทุกผลผลิตไปขาย ตกอยู่ที่เจ้าของสวน ซึ่งผลผลิต 1 ตัน ค่าแรง 600-700 บาท ขณะที่ราคาผลผลิตกิโลกรัมละ 3 บาท ซึ่งต่ำกว่าทุน โดยตัวแทนชาวสวนปาล์มฯ ได้ยื่นข้อเรียกร้อง 6 ข้อ เช่น ให้มีการใช้น้ำมันปาล์มในการผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้ากระบี่ ให้มีการผลิตและเพิ่มการใช้ไบโอดีเซลบี บี 20 และบี 100 ให้เป็นพลังงานทางเลือกสำหรับประชาชน เพื่อรักษาเสถียรภาพปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม ทั้งระบบอย่างยั่งยืนของประเทศไทย ให้มีการรับซื้อผลปาล์มน้ำมันดิบที่มีคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐานเปอร์เซ็นต์น้ำมัน ที่ 18 เปอร์เซ็นต์  ไม่ต่ำกว่าราคากิโลกรัมละ 4 บาท 50 สตางค์ ให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาครับซื้อกระแสไฟฟ้าจากโรงสกัดน้ำมันปาล์ม โดย ข้อเรียกร้องทั้ง 6 ข้อ เสนอต่อรัฐบาลไปแล้ว เกษตรกรมองว่า รัฐบาลสามาระทำได้ทันที ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ทางเกษตรกรจะรอฟังคำตอบจากรัฐบาล ว่าจะทำตามข้อเรียกร้องหรือไม่ หากไม่ได้ตามข้อเรียกร้องทางเกษตรกรก็จะจะเตรียมเดินทางไปชุมนุมที่ทำเนียบต่อไป 


สำหรับราคาปาล์มที่ตกต่ำก็สืบเนื่องทั้งปริมาณในประเทศมีจำนวนมากส่งออกก็ไม่ได้ เพราะราคาตลาดโลกตกต่ำ รัฐบาลก็พยายาม หาหลายแนวทาง ในการแก้ไขปัญหา ทั้งเพิ่มการใช้ในน้ำมัน โดยเฉพาะบี 20 ด้วยการจูงใจรถบรรทุกและรถขนส่งมาใช้โดยกำหนดราคาต่ำกว่าบี 7 ที่ 3 บาทต่อลิตร แต่ก็ไม่ค่อยได้รับความนิยมสักเท่าใด และหากทางเพิ่มปริมาณการใช้ในบี 7 สำหรับรถทั่วไป ที่ใช้ดีเซลได้เพิ่มขึ้น โดยวันนี้ 

กรมธุรกิจพลังงาน มีการแถลงข่าวด่วนวันนี้ แถลงเรื่องปรับเพิ่มการใช้บี 100 ในบี 7 โดย ปรับแบนด์บี 7 หรือส่วนผสมเพิ่มจากร้อยละ 6.5-7 ซึ่งผสมจริงเพียงร้อยละ 6.6 ก็เพิ่มเป็นผสมร้อยละ 6.8 ขอความร่วมมือผู้ค้าผสมทันที ซึ่งก็จะช่วยดูดซับปาล์มเพิ่มอีก 6.2 หมื่นตันต่อปีจาก 1.3 ล้านตันต่อปี และ จะขยับเป็นส่วยผสมในบี 7 เป็นร้อยละ 6.9 ในอีก 2 เดือนข้างหน้า ก็จะเพิ่มการดูดซับได้รวมเป็น 8 หมื่นตัน/ปี อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา มีความพยายามที่จะเพิ่มสูตรผสมเป็นบี 10 หรือ การผสมในบี 7 ให้ได้ร้อยละ 7 เต็มที่ แต่จากการหารือกับค่ายรถยนต์แล้ว พบว่า ติดมาตรฐานยุโรป จึงทำให้ไม่สามารถเพิ่มส่วนผสมได้ตามที่ต้องการ 


ในขณะที่ กระทรวงพาณิชย์ ก็พยายามผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบจำนวน 300,000 ตัน ตามมติ คณะกรรมการนโยบายปาล์ม รวมทั้งมีแผนการนำไปผลิตสินค้าประเภทชีวภาพต่างๆ ตามแผนพัฒนาไบโอเคมิคอลทำเครื่องสำอาง เครื่องประทินโฉม แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องเหล่านี้อยู่ในระหว่างการพัฒนา ในขณะที่ การนำปาล์มไปเผา ในโรงไฟฟ้ากระบี่นั้น ต้นทุนจะสูงมากกว่าการใช้เชื้อเพลิงปกติ และจะกระทบต้นทุนค่าไฟฟ้าของประชาชนทุกคน ซึ่งทางกระทรวงพลังงาน จึงไม่ค่อยเห็นด้วยกับเรื่องนี้.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ