เชียงราย 30 ต.ค.- นายกรัฐมนตรี สักการะพระหยกเชียงราย เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ ขณะที่ชาวเชียงใหม่มารอต้อนรับ พร้อมขอให้เยือนเชียงใหม่บ้าง ด้านกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 เสนอของบประมาณราว 15,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนา 7 ด้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 07.00 น. ที่วัดพระแก้ว จ.เชียงราย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรี เดินทางไปสักการะพระหยกเชียงราย ภายในหอพระหยก ที่วัดพระแก้ว เพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย พร้อมนมัสการพระธรรมราชานุวัตร เจ้าคณะภาค 6 และเจ้าอาวาสวัดพระแก้ว ซึ่งได้มอบวัตถุมงคลให้กับคณะรัฐมนตรีเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดพระแก้ว มีทั้งชาวเชียงรายและชาวเชียงใหม่ถือร่มเขียนข้อความบอกรักนายกรัฐมนตรี และเชิญนายกรัฐมนตรีไปเยือนเชียงใหม่ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้ทักทายอย่างอารมณ์ดีและรับปากว่าจะไปเชียงใหม่แน่นอน
ก่อนที่นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรี เดินทางมาเป็นประธานการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ประกอบด้วย เชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน โดยนายกรัฐมนตรีใช้รถยนต์ตามปกติ ขณะที่คณะรัฐมนตรีคนอื่น ๆ นั่งรถทัวร์ สายกรุงเทพ-แม่สอด ของ บริษัท ขนส่ง จำกัด เข้าร่วมประชุม เพื่อลดจำนวนขบวนรถ โดยมีผู้บริหารมหาวิทยาลัย อาจารย์ นักศึกษา และ นักศึกษาแลกเปลี่ยนจากประเทศจีนให้การต้อนรับ
ทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ตัวแทนนักศึกษาได้ร่วมร้องเพลงสะพาน พร้อมโชว์เป่าแซกโซโฟน โดยสิบเอกสุรเชษฐ์ ใจปิง นักศึกษาคณะดุริยางคศาสตร์ ซึ่งเมื่อขับร้องเพลงจบ นายกรัฐมนตรีขอให้เป่าบทเพลงพระราชนิพนธ์ยามเย็นให้ฟัง ก่อนที่จะขอให้ขึ้นไปเป่าเพลงให้ฟังในช่วงพักรับประทานอาหารเที่ยงของคณะรัฐมนตรีอีกรอบ นายกรัฐมนตรียังได้ฝากตัวแทนนักศึกษา ให้ตั้งใจเรียน ช่วยกันทำประเทศให้เกิดการเปลี่ยนไปในทางที่มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน และเป็นไปตามยุทธศาสตร์ 20 ปีด้วย
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมการจัดแสดงผลงานของ จังหวัด และมหาวิทยาลัย เช่น ผลิตภัณฑ์จากศูนย์ความเป็นเลิศด้านสมุนไพร และการแพทย์แผนไทย มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ซึ่งนายกรัฐมนตรี ขอให้ส่งเสริมการปลูกสมุนไพร เพื่อนำมาผลิตเป็นสินค้า เพิ่มมูลค่าให้กับเกษตกร รวมถึงอยากให้หน่วยงานหาพืชอื่นเพื่อปลูกทดแทนใบยาสูบ นอกจากนี้ ยังเยี่ยมชมการพัฒนาสถานีขนสินค้า และศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ เป็นต้นแบบในการพัฒนา และบริหารโครงสร้างพื้นฐาน และเป็นพื้นฐาน สำหรับการสร้างเส้นทางขนส่งตามแนวเหนือใต้
ก่อนเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ โดยมีวาระการประชุมที่น่าสนใจ คือ ภาคเอกชนกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ประกอบด้วย เชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน เสนอของบประมาณราว 15,000 ล้านบาท ในการพัฒนา 7 ด้าน เช่น ด้านการท่องเที่ยว ที่ขอรับการสนับสนุนหลายโครงการ เช่น โครงการพัฒนาถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกครบวงจร โครงการสำรวจโบราณสถาน จ.น่าน โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูชุมชนเมืองเก่าเวียงลอ จ.พะเยา
ด้านการค้าการลงทุน เช่น ขอให้มีการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมนวัตกรรมดิจิทัลในเขตเศรษฐกิจพิเศษ อ.แม่สาย อ.เชียงแสน และ อ.เชียงของ รวมทั้งขอให้ขยายระยะเวลาสินเชื่อให้ SMEs ส่วนโครงสร้างพื้นฐานขอรับการสนับสนุนเพิ่มประสิทธิภาพ บูรณะ เร่งรัดทางหลวง 24 สาย รวมถึงการพัฒนาระบบคมนาคมทางราง เช่น ศึกษาการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีขนส่งทางราง จ.พะเยา พัฒนาเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างรถไฟความเร็วสูงเชียงใหม่ และโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์ จ.พะเยา ศึกษาแผนแม่บทรองรับรถไฟทางคู่เชื่อมโยงเด่นชัย-พะเยา-เชียงของ และจัดทำแผนแม่บทรองรับรถไฟรางคู่เชื่อมโยงเด่นชัย-พะเยา-เชียงของ ด้านโครงข่ายทางอากาศ ศึกษาความเป็นไปได้สำหรับการก่อสร้างท่าอากาศยานพะเยา, ศึกษาความเหมาะสมศูนย์กระจายสินค้า จ.พะเยา รองรับรถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ เป็นต้น
ขณะที่กระทรวงการคลังจะเสนอให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติโครงการบ้านล้านหลัง ตามที่คณะกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เสนอ ภายใต้กรอบวงเงิน 6 หมื่นล้านบาท เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาลที่ต้องการช่วยเหลือให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัย ซึ่งหลังจากที่ ครม.เห็นชอบแล้ว ภายใน 3 วัน ธอส.จะนำข้อมูลที่อยู่อาศัยเข้าร่วมโครงการกว่า1 แสนยูนิต ประกาศขึ้นเว็บไซต์ให้ผู้ที่สนใจ สามารถยื่นจองสิทธิเพื่อขอสินเชื่อได้.-สำนักข่าวไทย