29 ต.ค.-8 ปี เลสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การนำของ นายวิชัย ศรีวัฒนประภา สร้างประวัติศาสตร์ พาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก มูลค่าทางการตลาดพุ่งทะยานถึงกว่า 15,000 ล้านบาท
“วิชัย ศรีวัฒนประภา” เป็นผู้ที่ชื่นชอบฟุตบอลเป็นทุนเดิม โดยก่อนหน้านี้เขาเป็นแฟนตัวยงของสโมสร เชลซี ซื้อบ็อกซ์วีไอพี ในสนามสแตมฟอร์ดบริดจ์ อย่างต่อเนื่องหลายซีซั่นติดต่อกัน นอกจากนั้นไปซื้อบอร์ดโฆษณา โดยให้ คิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี ไปติดในสนามของเชลซีอีกด้วย
หลังจากนั้น ปี 2010 จุดเริ่มต้นของคุณวิชัย คือการทาบทามซื้อ สโมสรเรดดิ้ง แต่ไม่สำเร็จ จนเลสเตอร์ ซึ่งเล่นอยู่ในระดับแชมเปียนชิพ เวลานั้น ติดต่อเข้ามาหาคุณวิชัย โดยต้องการให้คิงเพาเวอร์ มาเป็นเมนสปอนเซอร์ที่หน้าอกเสื้อ โดยคิดค่าใช้จ่าย 3 แสนปอนด์ แต่หลังจากพูดคุยกับมิลาน มันดาริช เจ้าของทีมชาวอเมริกัน ถูกคอกัน ทำให้เขาตัดสินใจซื้อสโมสรเลสเตอร์ด้วยราคา 39 ล้านปอนด์ ราว 1,650 ล้านบาท
โดยเลสเตอร์ ภายใต้การบริหารของคุณวิชัย ใช้เวลา 3 ปี ซึ่งฤดูกาล 2013/2014 จิ้งจอกสยาม คว้าแชมป์แชมเปี้ยนชิพ เลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีก แต่ฤดูกาล 2014/2015 – ไนเจล เพียร์สัน ในฐานะโค้ช เลสเตอร์ ซิตี้ ต้องพาทีมดิ้นรนหนีตกชั้น แต่สุดท้ายก็จบฤดูกาลด้วยอันดับ 14 รอดตกชั้นอย่างหวุดหวิด
1 ปีถัดมา ฤดูกาล 2015/2016 ภายใต้การคุมทีมของ เคลาดิโอ รานิเอรี กุนซือชาวอิตาลี เข้ามารับตำแหน่ง พร้อมเซ็นสัญญา เอ็นโกโล ก็องเต้ เข้ามาร่วมทีม ประสานงานกับเจมี วาร์ดี ริยาด มาเรซ ยิงประตูกันเป็นว่าเล่น จบฤดูกาลด้วยการเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกด้วยคะแนน 81 ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 132 ปีของสโมสรแบบไม่มีใครคาดฝัน และได้ไปเล่นแชมป์เปียนลีกในครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร
หลังจากคว้าแชมป์ บลูมเบิร์ก สื่อทางด้านธุรกิจและการตลาดชื่อดัง ในสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่ามูลค่าทีมล่าสุดของ เลสเตอร์ ซิตี้ ในเวลานั้น พุ่งสูงขึ้นไปถึงราว 300 ล้านปอนด์ คิดเป็นเงินไทยราว 127,077 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าที่มากกว่าวันที่นายวิชัย ศรีวัฒนประภา ตัดสินใจซื้อทีมจากมิลาน แมนดาริช ถึง 8 เท่าด้วยกัน อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้มูลค่าของทีมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วคือฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นของนักเตะอย่าง เจมี วาร์ดี หรือริยาด มาห์เรซ ซึ่งอาจซื้อมาด้วยค่าตัวไม่สูงมากนัก แต่ราคาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ความสำเร็จของเลสเตอร์ในฤดูกาล 2015-16 ถือเป็นการทำลายความเชื่อเดิมที่ว่าสโมสรที่จะประสบความสำเร็จนั้นต้องทุ่มทุนมหาศาลในการทำทีม โดยเลสเตอร์ใช้ง่ายเงินไปเพียง 57.4 ล้านปอนด์ หรือคิดเป็น 1 ใน 4 เท่านั้น เมื่อเทียบเงินที่เชลซี แชมป์ฤดูกาลก่อน ใช้จ่ายไป
หลังจากนั้นปี 2016-2017 เลสเตอร์ผ่านเข้าไปเล่น ฟุตบอลรายการยูฟ่า แชมป์เปียนส์ ลีก เป็นครั้งแรก จนสามารถทะลุเข้าไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย รับเงิน 49 ล้านยูโร คิดเป็นเงินไทยราว 1,854 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม นิตยสาร ฟอร์บส จากสหรัฐอเมริกา ได้ประเมินมูลค่า ปัจจุบันนี้ เลสเตอร์ ยังมีมูลค่าทางการตลาดประมาณ 371 ล้านปอนด์ หรือเงินไทย 15,790 บาท ถือเป็นการลงทุนที่สร้างกำไรอย่างมหาศาลให้กับ ตระกูลศรีวัฒนประภา
นอกจากนี้ นายวิชัย ศรีวัฒนประภา เจ้าของ บริษัท คิง เพาเวอร์ ยังซื้อสโมสร โอเอช ลูเวิน (OH Leuven) ทีมในลีกระดับที่ 2 ของประเทศเบลเยี่ยม เป็นอีกหนึ่งทีมเมื่อช่วงกลางปี 2017.-สำนักข่าวไทย