บุรีรัมย์ 27 ต.ค.-ตำรวจคุมตัวพ่อหื่นข่มขืนลูกสาวในไส้นาน 2 ปี ส่งฝากขังศาล ค้านประกันตัว ผู้ต้องหาอ้างทำไปเพราะขาดสติยั้งคิด พร้อมขอโทษภรรยาและลูก ขณะภรรยาร่ำไห้เสียใจ เผยสามีเครียดหนัก อยากฆ่าตัวตาย
วันนี้ (27 ต.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ควบคุมตัวนายเจษฎา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาข่มขืนกระทำชำเราลูกสาวของตัวเองเป็นเวลานาน 2 ปี ตั้งแต่ปี 2559-2561 ขณะลูกสาวมีอายุเพียง 15 ปี ทั้งยังข่มขู่จะฆ่าให้ตาย หากนำเรื่องไปบอกคนอื่น ส่งฝากขังต่อศาลจังหวัดบุรีรัมย์ หลังถูกจับกุมตัวได้เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ขณะนายเจษฎาขับรถกระบะบรรทุกข้าวของเครื่องใช้จะมาส่งให้กับภรรยาที่บ้าน ใน ต.เมืองแก อ.สตึก ซึ่งเบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่สังคมให้ความสนใจ ทั้งเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี หรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
สำหรับนายเจษฎา ถูกแจ้งข้อหา รวม 4 ข้อหา คือ 1.กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีโดยขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม(ขณะเกิดเหตุเด็กอายุ 14 ปี 364 วัน) 2.กระทำชำเราผู้อื่นโดยผู้ถูกกระทำนั้นเป็นผู้สืบสันดานของตนเอง โดยใช้กำลังประทุษร้าย 3.กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุต่ำกว่า 15 ปี โดยใช้กำลังประทุษร้าย และ 4.กระทำความรุนแรงในครอบครัว ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความรุนแรงต่อครอบครัว
ทั้งนี้ ก่อนถูกควบคุมตัวส่งฝากขัง นายเจษฎาได้พูดคุยกับภรรยาและลูกสาว ที่เดินทางมาให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนเพิ่มเติม โดยนายเจษฎาได้ขอโทษภรรยาและลูกสาว พร้อมระบุด้วยว่าที่ทำลงไปเพราะขาดสติยั้งคิด ขอยอมรับผลกรรมกับสิ่งที่กระทำลงไป พร้อมกับฝากภรรยาดูแลลูกสาวให้ดี เพราะตนเองคงไม่มีโอกาสได้ทำหน้าที่พ่อแล้ว หากย้อนเวลากลับไปได้ก็คงจะไม่ทำแบบนี้
นอกจากนี้ นายเจษฎายังฝากถึงสังคมและครอบครัวอื่น อย่าได้กระทำเหมือนกับตน เพราะหากทำไปแล้ว นอกจากตนเองจะถูกจับดำเนินคดีแล้ว ยังส่งผลกระทบกับคนในครอบครัวด้วย จึงอยากให้กรณีของตนเป็นอุทาหรณ์กับครอบครัวอื่นด้วย เพราะบางอย่างเมื่อทำลงไปแล้ว อาจจะไม่ได้รับโอกาสหรือการให้อภัยทั้งจากครอบครัวและสังคม
ขณะที่ภรรยาบอกว่า ส่วนตัวอโหสิกรรมให้ แต่เรื่องคดีขอปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย ในฐานะที่ตัวเองเป็นแม่ก็เสียใจและรู้สึกผิดที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับลูกสาว เหมือนตกนรกทั้งเป็น เพราะคนกระทำก็ไม่ใช่คนอื่นไกล แต่เป็นพ่อแท้ๆ ที่ตนเองและลูกสาวไว้ใจมากที่สุด จึงไม่มีใครยอมรับได้ ซึ่งวันนี้ที่ได้พูดคุยกับสามีก็ยอมรับผิดในสิ่งที่กระทำ ทั้งยังบอกกับตนเองว่าเครียดมาก อยากจะฆ่าตัวตาย ตนก็บอกไปว่าทำผิดแล้วก็ต้องยอมรับผิด ติดคุกยังมีวันได้ออก อย่าคิดสั้น.-สำนักข่าวไทย