ตลท.คว้ารางวัลยั่งยืนโปร่งใสหนึ่งเดียวในเอเชีย

กรุงเทพฯ 25 ต.ค. – ตลาดหลักทรัพย์ไทยคว้ารางวัล  Market Transparency Award หนึ่งเดียวในกลุ่มตลาดเกิดใหม่และเอเชีย และคว้าอันดับที่ 7 ในการเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืนและมีคุณภาพมากที่สุด       


                            

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า องค์การสหประชาชาติประกาศให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ คว้ารางวัล “United Nations Sustainable Stock Exchanges Market Transparency Award” ในที่ประชุม SSE Global Dialogue ในงาน World Investment Forum (WIF) 2018  ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นผลจากการจัดอันดับตลาดหลักทรัพย์ที่มีบริษัทจดทะเบียน (บจ.) เปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืนโดดเด่นและมีคุณภาพมากที่สุด ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ไทยอยู่อันดับที่ 7 จากตลาดหลักทรัพย์ 35 แห่งทั่วโลก โดยเป็นที่หนึ่งในกลุ่มตลาดหลักทรัพย์เกิดใหม่ (Emerging Markets) และเป็นตลาดหลักทรัพย์เอเชียเพียงแห่งเดียวที่ติดอันดับ Top 10 


ถือเป็นความสำเร็จจากการที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ผลักดันและส่งเสริมให้ บจ.เปิดเผยข้อมูลอย่างมีคุณภาพและโปร่งใส โดยประเทศไทยมีพัฒนาการอย่างก้าวกระโดดจากอันดับโลกที่ 40 ในปี 2556 เป็นอันดับที่ 10 ในปี 2560 และขึ้นอันดับ 7 ในปี 2561 

นายกฤษฎา เสกตระกูล รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานพัฒนาธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ตลท. เปิดเผยว่า ผู้จัดทำดัชนี FTSE โดยพิจารณาตัวชี้วัดด้านความยั่งยืน 7 ประเด็น ได้แก่ 1. การจัดการก๊าซเรือนกระจก 2. การใช้พลังงาน  3.การใช้น้ำ 4.การจัดการของเสีย  5.อัตราการบาดเจ็บจากการทำงาน  6.อัตราการลาออกของพนักงาน และ 7.สัดส่วนจำนวนพนักงานชั่วคราวต่อพนักงานทั้งหมด 

ผลการจัดอับดับตลาดหลักทรัพย์ 10 อันดับแรกในรายงาน Measuring Sustainability Disclosure ปี 2018 ได้แก่ 1.ตลาดหลักทรัพย์เฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ 2.ตลาดหลักทรัพย์ยูโรเน็กซ์-ปารีส ประเทศฝรั่งเศส 3.ตลาดหลักทรัพย์สเปน  4.ตลาดหลักทรัพย์เยอรมนี  5.ตลาดหลักทรัพย์ยูโรเน็กซ์-อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์  6.ตลาดหลักทรัพย์อิตาลี  7.ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  8.ตลาดหลักทรัพย์โจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้  9.ตลาดหลักทรัพย์ออสโล ประเทศนอร์เวย์ และ 10.ตลาดหลักทรัพย์สวิตเซอร์แลนด์ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย